โตเกียว6
28 มีนาคม 2556 วันที่สี่ของการเดินทาง
ดิสนี่ย์ซี (Tokyo disneysea)
วันนี้มา โตเกียวดิสนี่ย์ซี ต่อจากเมื่อวาน ที่ไปโตเกียวดิสนี่ยแลนด์
คือที่ต้องมาติดกันเพราะ ซื้อบัตรแบบ 2วัน
การซื้อบัตรผ่านประตู ดิสนี่ย์แลนด์ และดิสนี่ซี
ตอนซื้อบัตร เขาก็จะถามว่า วันแรกจะเข้าดิสนี่ย์แลนด์ หรือดิสนี่ย์ซี
เพราะมันต้องพิมพ์ลงในบัตรเข้าเลยว่า วันที่เท่าไหร่เข้าดิสนี่ย์แลนด์
วันที่เท่าไหร่เข้าดิสนี่ย์ซี ซึ่งต้องเป็น 2 วันติดกัน จะแยกวัน เว้นวันตามใจไม่ได้
เช่นวันนี้เข้าดิสนี่ย์แลนด์ เว้นอีกสองวัน ค่อยมาเข้าดิสนี่ย์ซี แบบนี้ไม่ได้
หรือคิดจะซื้อบัตรไว้ก่อน แล้วคิดจะมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แบบนี้ก็ไม่ได้
สรุปคือ ต้องพิมพ์วันที่ลงบัตรเลย
เวลาเปิด
ดิสนี่ย์ซี เปิดช้ากว่าดิสนี่ย์แลนด์ คือ…
ดิสนี่ย์ซีจะเปิด 9 โมงเช้า แต่ ดิสนี่ย์แลนด์จะเปิด 8โมงเช้า
แล้วดิสนี่ย์ซี ต้องนั่งโมโนเรลของดิสนี่ย์ไปอีก (เสียตังค์อีกว่างั้น)
เราก็มาทันเวลา 9 โมงเช้าพอดี โดยไม่ได้กินอาหารเช้ามา
แต่ซื้อข้าวปั้นไปกินแทน แล้วก็เอาขนมปังที่ซื้อเมื่อวานไปกินด้วย
ดิสนี่ย์ซี (Disneysea)
ดิสนี่ย์ซี ชื่อก็บอกแล้วว่าธีม ทะเล ก็ต้องมีพวกทะเล
ต่างจาก ดิสนี่ย์แลนด์ ที่เป็น พื้นดิน นั่นเอง
ในจินตนาการก่อนไป และจากการดูรีวิว ดิสนี่ย์ซีจะดูแปลกตากว่าดิสนี่ย์แลนด์หน่อย
แต่ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากกว่าดิสนี่ย์แลนด์เท่าไหร่ ประมาณว่าลำเอียงสุดๆ
เห็นดิสนี่ย์ซี เป็นลูกเมียน้อย เข้ามาดูไปงั้นเอง
แต่พอมาจริงๆแล้ว มันสุดยอดมากอ่ะ ทั้งฉาก ทั้งทางเดิน ทั้งสิ่งแวดล้อม
เหมือนอยู่ในประเทศแถบเมดิเตอร์เรเนี่ยน เครื่องเล่นก็เยอะ
ที่สำคัญดิสนี่ย์ซี โชว์อลังการกว่าดิสนี่ย์แลนด์มาก
อีกอย่างคือ คนน้อย เด็กน้อยกว่า แต่ก็มากนะ เพียงแต่น้อยกว่าดิสนี่ย์แลนด์เท่านั้นเอง
ดิสนี่ย์ซี เราได้ร่างแผนการไว้ เหมือนดิสนี่ย์แลนด์คือ
จัดตารางเวลาดูโชว์ เพื่อให้ได้ดูได้ทุกโชว์ และแล้วมันก็มีประโยชน์จริงๆจังๆเสียที
เพราะวันนี้อากาศแจ่มใส จิตใจก็เบิกบาน ทำให้การท่องเที่ยววันนี้ผ่านฉลุย
แต่ไอ้ส้นเท้าที่ยังบวมช้ำ พอเดินๆไปไม่เท่าไหร่ ก็เริ่มเจ็บขึ้นมาอีก
แต่เสียตังค์มาแล้วยังไงก็สู้ค่ะ
การมาทั้งดิสนี่ย์แลนด์ และดิสนี่ย์ซีของเรา จะเน้นการดูโชว์มากกว่าเล่นเครื่องเล่น
เพราะสามีไม่ชอบเครื่องเล่นหวาดเสียว ถึงเราอยากเล่น ก็ไม่มีเพื่อนเล่นด้วย จึงไม่อยากเสียเวลาต่อคิว
เดินเข้ามาก็จะเห็น โรงแรมผีสิง ที่เราดูรีวิวมาแล้ว ว่ามันเสียวสุดๆ เป็นไฮไลท์ของที่นี่เลย
คือเหมือนเป็นลิฟท์ขึ้นไปสูงๆ แล้วทิ้งดิ่งลงมา ก็เลยกด Fast Pass ไว้ก่อน
โดยไม่บอกสามีว่ามันคืออะไร เชื่อมั้ยว่า กดตอน10โมง
แต่ได้เวลาเข้าตอน 5-6โมงเย็น นี่มันอะไรกันเนี่ยะ
เราใช้โพยที่เตรียมมาไปดูโชว์ก่อน ตามที่จัดไว้
แต่ก็ต้องเดินหากันหน่อย เท้าก็ปวดมาก
แต่เหมือนต้องทำเควสให้ครบ ก็ต้องสู้ไม่ถอย
โชว์ที่ชอบมากๆเลยคือ Mermaid Thearter
ใช้คนแสดงทั้งหมด โชว์ส่วนใหญ่ที่ดิสนี่ย์ซี ใช้คนแสดงเกือบทั้งหมด
ไม่เหมือนที่ดิสนี่ย์แลนด์ ใช้หุ่น มันเลยไม่ได้อารมณ์
โชว์นี้มีนางเงือกสาวสวย แต่หักคะแนนที่นางเงือกอวบไปนิดนะ ถ้าผอมๆนี่ให้เต็มเลย
แล้วที่ชอบอีกอันคือ โชว์ Magic Lamp 3D ก็อลังการ และสนุกสนานมาก
มีคนเล่นมายากล ร่วมกับภาพสามมิติ ช๊อบชอบอ่ะ
โชว์กลางทะเลสาบ ที่โซนเมดิเตอร์เรเนียน ก็สุดยอดอลังการ
ชนิดที่เรียกว่า Disney palace ที่ฮ่องกงชิดซ้ายไปเลย
คนมารอกันเยอะมาก จริงๆเราไม่ชอบรอ ไม่เคยจองที่รอดูโชว์เลย
แต่ในโพยที่เราจดมาเป็นเวลา 14.00น. แต่ในวันนั้นโชว์ตอน 14.30น.
เรามาถึงก่อน14.00น. แล้ว ก็เห็นที่ว่างๆ มุมสวยๆ ก็เข้าไปนึกว่ารอไม่กี่นาทีก็ได้ดู
แต่ที่ไหนได้รอเกือบชั่วโมง ก็เลยกินขนมปังที่เตรียมมาหมดเลย
พูดถึงเรื่องการรอชมโชว์
เรานะอึ้งกับความอดทน ของคนญี่ปุ่นนักรอ นักต่อคิวจริงๆ
เพราะเขาจับจองที่นั่งชมโชว์กัน ไม่ต่ำกว่า 2-3 ชม.
อย่างกับว่ามาดูโชว์นี้อย่างเดียวอย่างนั้นแหล่ะ
อย่างเช่น โชว์ตอน 6 โมงเย็น ก็เห็นมาตั้งแถวรอกัน ตั้งแต่บ่าย 3 ก็เต็มแล้ว
นั่งกันเฉยๆ กลางแดดเปรี้ยงๆ นั่งกดโทรศัพท์ นอนรอ
แต่ไม่ค่อยเห็นนั่งกินน้ำ กินนู่นกินนี่มากเท่าไหร่
ก็เลยคิดว่า เขาคงมากันได้บ่อยกว่าเราอยู่แล้ว ครั้งนี้ไม่ได้เล่นอันนั้น
คราวหน้าก็มาเล่นได้ แต่เรามาครั้งเดียว ไม่รู้อีกนานเท่าไหร่จะได้มาอีก แต่ต้องมาอีกแน่ๆ
วันนี้เรียกว่า ทำเควสได้ครบ ที่ตั้งใจไว้เลย ปลื้มกับตารางโชว์ที่ตัวเองจัดมามาก
เก็บได้หมด แต่ปวดเท้าสุดๆ ต้องวิ่งไปวิ่งมา แล้วยังได้เล่นเครื่องเล่นเพิ่มด้วย
ส่วนไอ้ที่กด Fast Pass โรงแรมผีสิงนั่น ก็ไปทันเวลาพอดี
แต่ยังไม่ได้เข้าเล่นทันที ต้องรอต่อคิวอีกยาวเหยียด น่าจะประมาณ 30-35นาที
แต่ก่อนเข้าไปต่อคิว เห็นป้ายเขาติดว่า คิวประมาณ 1.40 นาที
สำหรับคนที่ไม่มี Fast Pass ก็ยังมีคนยืนรอแถว ยาวม้วนทับไปทับมาหลายรอบ
ก็ยังอุตส่าห์รอกันอีกนะ เป็นเราขอบายดีกว่า
มาถึงตรงนี้ คิดว่าเฉลยให้สามีทำใจก่อนดีกว่า ว่าเครื่องเล่นนี้มันเป็นยังไง
กลัวหัวใจวาย พอได้เล่นจริงๆแล้ว แป๊บเดียวเอง
ให้ยืนรอตั้งนาน แถมยังไม่หวาดเสียวอย่างที่คิดด้วย
เคยไปเล่นเครื่องเล่นประมาณนี้ที่ พัทยา ปาร์ค แบบเห็นวิวทะเลด้วย
ทั้งสูง ทั้งน่ากลัว พอมันขึ้นไปสูงๆสุดๆ ก็เห็นวิวไปทั่ว
เห็นข้างล่าง เห็นหมดเลย แล้วมันก็ทิ้งดิ่งลงมา ขึ้นๆลงๆ อยู่ 3-4 ครั้ง
หรือจะเป็นเพราะว่า กลัวเข็มขัดที่นั่งเครื่องเล่นในเมืองไทย
จะหลุดล่ะมั๊ง ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ เลยทำให้มันน่ากลัวมากกว่า .
แต่ ลิฟท์ผีสิง ที่นี่มี safety แบบว่ารัดเข็มขัด เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบทุกคน
ดึงแล้วดึงอีก แถมยังนั่งกันตั้งหลายคน มืดก็มืด ขึ้นไปสูงๆ ก็เห็นแค่หน้าต่างนิดเดียว
แล้วก็มืดอีก ยังไม่ทันกลัวเลย อ้าวจบแล้วหรอ
แต่ที่เจ็บใจที่สุดคือ ไปดูโชว์น้ำพุไม่ทัน เพราะดูเวลาผิด ไปถึงตอนจะจบอยู่แล้ว
สวยมากๆ ชอบจริงๆ ขนาดดูตอนท้ายนะเนี่ย เสียดายสุดๆ
ใครไปดิสนี่ย์ซี ห้ามพลาดเด็ดขาด โชว์อาราดินตรงทะเลสาบ ตอนประมาณ 1ทุ่มมั๊ง
และที่เจ็บใจไม่หายคือ โชว์จุดพลุ ที่เรารอดู เพราะเมื่อวานไม่รอดูที่ดิสนี่ย์แลนด์
เพื่อจะมาดูที่ดิสนี่ย์ซี แต่ก็พลาดไป พลาดได้ยังไงเดี๋ยวเล่าให้ฟัง อายอ่ะ
พลาดโชว์จุดพลุเพราะ
เราก็มานั่งรอดูจุดพลุ ซึ่งคิดว่าจะแสดงต่อจากโชว์อาราดิน
เราก็นึกว่าแสดงที่เดียวกัน เพราะมันประกาศเกริ่น ต่อจากโชว์อาราดินเลย
ประมาณว่าอีก 5 นาที จะมีโชว์พลุ แต่เห็นคนเดินออกจากลานกันเต็ม
เราก็สงสัยว่า ทำไมรีบไปไหนกันหรอ ไม่รอดูพลุกันหรอ
แล้วมันก็มีจริงๆนะ ตรงทะเลสาบที่โชว์อาราดินนั่นแหละ
มีอยู่ 2-3 ปุ เราก็นั่งรอดูอย่างตั้งใจ หาที่นั่งจับจองอย่างดี
ต่อมา เฮ้ย…ทำไมมีแต่เสียงวะ พลุล่ะ…พลุอยู่ไหน
เห็นคนข้างๆแถวนั้น ก็มองหาเหมือนกัน เราก็มองตามคนอื่น
เดินตามเสียงไป ปุๆ ปุๆๆๆ เดินไปทางประตูที่จะออกแล้ว
ที่เป็นลานกว้าง ที่ตอนเช้าเราเข้ามานั่นแหล่ะ
ไปถึงเห็นปุสุดท้าย จบพอดี เราก็ยืนรอ คนอื่นก็ยืนรอ
ยังไม่มีใครเคลื่อนย้าย ทุกคนนิ่งสงบ หน้าแหงนมองบนฟ้า
รออยู่นานก็ยังไม่มีปุต่อมา รอจนเห็นคนเริ่มออกบ้างแล้ว
ก็เลยแน่ใจแล้วว่า มันจบแล้ว
เดินออกอย่าง งงๆ ทำไมมีนิดเดียวล่ะ
ที่เคยไปดิสนี่ย์แลนด์ที่ฮ่องกง (ฮ่องกงดิสนี่ย์แลนด์) โชว์พลุมันอลังการงานสร้างจริงๆ
อันนั้นขอยกย่องจากใจจริง มันสวยประทับใจมาก
แต่ที่นี่คงไม่ใช่ไฮไลท์หรือป่าวก็ไม่รู้ เลยมีพลุน้อยกว่าที่คิด
จึงกลับที่พักดีกว่า เหนื่อยกันมาตลอด ตั้งแต่มาถึงแล้ว ยังไม่ได้นอนเต็มอิ่มซักคืน
เรามาถึงที่พักกัน ประมาณ 3 ทุ่ม แต่ก่อนถึงห้อง
มีความรู้สึกว่า ยังไม่ได้ถ่ายหนักเลย เพราะตั้งแต่มา ผักแทบจะไม่ได้กิน
รู้สึกปากแห้ง ร่างกายขาดวิตามิน เพราะอาหารแต่ละอย่าง มีแต่แป้งกับเนื้อสัตว์
จึงอยากลองหาผักกิน แต่ไม่รู้จะไปหาที่ไหน
เลยแวะแฟมมิลี่มาร์ท ข้างโรงแรม และ เซเว่นอีเลฟเว่น ใกล้ๆ ไปสองที่เลย
เมนูผักแต่ละอย่าง ช่างแพงเหลือเกิน เลยเอาอันที่คิดว่าถูกและดี
วิตามินเพียบ กินได้หลายวันด้วย นั่นคือ ถั่วงอกนั่นเอง
ถั่วงอก มันสามารถกินดิบๆได้ด้วยน่ะสิ(แต่มารู้ทีหลังว่ากินถั่วงอกดิบไม่ดี ไม่ทันแล้วล่ะ กินไปแล้ว)
ซื้อสลัดมากล่องนึง มีซอสมาให้ด้วย ใส่ถั่วงอกเพิ่ม น่าจะเข้ากันดี และเต้าหู้ถ้วยนึง
เหลือบไปเห็น นัตโตะ เคยเห็นในหนัง ก็อยากลองกินบ้าง ว่าจะอร่อยจริงมั้ย ก็เลยลองซื้อมากินดู
จนได้อาหารเย็นมื้อนี้ ที่มีวิตามินครบ ผักแยะ แถมราคาถูก พรุ่งนี้เช้าก็สบายลำไส้กันไป
สรุปค่ากินวันนี้ (ไม่ได้กินหมดนี่หรอก มีซื้อเก็บไว้กินพรุ่งนี้ด้วย)
แฟมมิลี่มาร์ท 440 เยน
เซเว่น อีเลฟเว่น 538 เยน
Note
เดี๋ยวบางคนจะคิดว่า ทั้งวันกินแค่นี้เองหรอ กินน้อย อดอยากจังเลยนะ
จริงๆแล้วไม่ได้รู้สึกว่าอดอยาก หรือรู้สึกหิวเลยนะ
เพราะเป็นคนกินน้อยแบบนี้ทั้งคู่อยู่แล้ว ขอแค่มีผัก มีขนม ก็อยู่ได้
สวัสดีค่ะ GoNoGuide มีเป้าหมายที่จะให้ข้อมูลท่องเที่ยวและวีซ่า อย่างเต็มที่ในทุกเรื่องที่เรารู้ เพื่อนๆที่ต้องการสนับสนุนเรา สามารถทำได้ดังนี้
- เลือกบริการที่ต้องการสนับสนุนเรา
- GoNoGuide จะได้รับค่าคอมมิชชั่นเล็กๆน้อยๆ โดยที่เพื่อนๆไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม สำหรับลิงค์แนะนำโรงแรม เครื่องบิน และประกันต่างๆ
- กดติดตามช่อง Youtube และ Facebook GoNoGuide
ขอขอบคุณที่สละเวลาอ่านค่ะ