โตเกียว2

โตเกียว2

26 มีนาคม 2556 วันที่สองของการเดินทาง

Haneda – นั่งโมโนเรลเข้าเมือง


เมื่อมาถึงสนามบินฮาเนดะ  เราได้รับการฝึกฝนให้ทนหนาวจากปักกิ่งเรียบร้อยแล้ว

ผ่านตม.แสกนลายนิ้วมือ  ผ่านด่านตรวจภาษี  ผ่านด่านนั่น นี่  มาโดยที่ไม่คิดว่าจะเร็วอย่างนี้


เพราะก่อนมา ได้เตรียมตัวหาข้อมูล   เรื่องห้ามนำของโน่น นี่ เข้าประเทศ

บางรีวิวยังมีขู่ว่า  ตม.หิน ถามมาก  ไม่ผ่าน  ส่งกลับประเทศก็มี

หรือตอบผิดก็เข้าห้องเย็นอีก ขู่จนเราเกร็งไปหมด


แต่พอเอาเข้าจริง  ไม่มีอะไรเลย  ถามแค่ว่ามากับใคร  มาคนเดียวหรอ

เราก็แค่บอกว่ามากับสามี แค่นั้น ใช้เวลาไม่นานมาก  ก็ผ่านขั้นตอนจนจบ


เสร็จสิ้นขั้นตอนทุกอย่างเตรียมออกเดินทาง แต่ทำไมรู้สึกร้อนๆ

ก็คิดว่าที่ญี่ปุ่นไม่หนาวเหมือนปักกิ่งเลยเนอะ  จึงถอดเสื้อกันหนาว

ถอดส่วนเกินออก  จัดการแต่งตัวใหม่


ตามแผนที่เตรียมไว้คือ  ต้องเดินหาออฟฟิศ เพื่อ

  • ซื้อบัตรเมโทรพาส  ชนิด 2 วัน   ซึ่งเป็นบัตรใช้รถไฟฟ้าเมโทร ได้ไม่จำกัด 2 วันรวด  เราซื้อ 4 ใบ   เพราะคุ้มมาก  ตกใบละ 980 เยนเอง
  • เจอาร์พาสชนิด Tokunai Pass 2 ใบ
  • พาสโม่การ์ด หรือ Suica แต่เราเลือก Passmo เพราะมันใกล้ดี

ที่ต้องซื้อตั้งแต่วันแรกเพราะ ซื้อที่สนามบินได้ที่เดียว

แล้วขายเฉพาะนักท่องเที่ยวซะด้วย  เอาใจกันขนาดนี้เลย


ที่ฮาเนดะ  มีการบริการทุกๆด้าน ที่ดีมากที่สุด เท่าที่เคยไปที่อื่นๆมา

มีทั้งป้ายบอก  มีทั้งผู้ให้บริการยืนเด่นกลางทาง  คอยตอบคำถามอยู่

เหมือนเขากระหายอยากจะตอบเต็มที่


แต่เราเป็นพวกชอบหาเอง ทำเอง เลยเดินไปเดินมาอยู่หลายรอบ

ก็ไม่แน่ใจว่าซื้อตรงไหน  จึงต้องยอมบากหน้าไปถามอยู่ดี

เขาก็คงเห็นพวกเราเดินไปมาหลายรอบแล้วด้วย   พอเขาชี้จุดหมายที่เราต้องการ

เราก็ถึงกับตบหน้าผาก แล้วอุทานออกมาว่า  อยู่ใกล้แค่นี้เองหรอ


จัดการซื้อตั๋วเสร็จสรรพตามแผน   ก็ต้องซื้อ passmo

ซึ่งเป็นบัตรเติมเงินเอนกประสงค์  ใช้แปะขึ้นรถไฟ

โดยไม่ต้องซื้อตั๋วหลายรอบ   ซื้อของในร้านสะดวกซื้อได้


แต่ไอ้เครื่องซื้อตั๋วนี่ มันปุ่มเยอะชะมัด  ยังไม่ทันจิ้มอะไรเลย

ยืนมอง จดๆจ้องๆ ว่าจะกดปุ่มอะไรก่อนดี   ก็มีจนท.ข้างๆ รีบเข้ามาถาม  ในเชิงให้ช่วยไหม

เราก็บอกเขาไปว่าอยากซื้อ Passmo  แล้วเขาก็กดให้อย่างรวดเร็ว


เราเหมือนโดนสะกดจิต ให้ใส่เงินลงในช่องอย่างว่าง่าย   ไม่กี่วินาทีก็ได้ตั๋วออกมา

จริงๆเราอยากลองกดเองก่อนมากกว่า   ถ้าไม่ได้จริงๆก็จะถาม   แต่ไม่รู้จะปฏิเสธเขายังไง แต่ก็เร็วดี


เที่ยวโตเกียว-5

เราเลือกไปทาง Monorail   เพราะว่าอยากดูวิวข้างทาง

ถ้าเป็นใต้ดินมันไม่เห็นอะไรเลย   แม้ว่าไปใต้ตินจะถูกกว่าก็ตาม

เห็นมั้ยว่าไม่ได้ประหยัดถึงขั้นงกเลย


แต่ขณะที่กำลังก้าวเท้าออกจากประตู   ก็เพิ่งสังเกตุเห็นคนเดินผ่านไปมา

ใส่เสื้อกันหนาวแบบบุนวม  เพราะตอนหาที่ซื้อตั๋ว  ไม่ได้สังเกตุอะไรเลยเพราะรีบ

แต่พอตอนออกจากประตู   จะไปขึ้นรถไฟโมโนเรล   ก้าวเท้าพ้นประตูไม่กี่ก้าว

ลมหนาวอย่างที่ปักกิ่ง  ก็พัดเข้าเต็มหน้า


เที่ยวโตเกียว-6

เรามองหน้ากัน โดยไม่อยากพูดอะไรให้เสียเวลา   แล้วลากกระเป๋ากลับเข้าที่มั่นทันที

แล้วหยิบอาวุธอย่างเคยขึ้นมาใส่กันหนาว   ใส่ไปก็บ่นไป

ทำไมข้างในร้อน  ข้างนอกมันหนาวอย่างนี้  แสดงว่าที่ฮาเนดะเปิดฮีตเตอร์

แต่ที่ปักกิ่งไม่ได้เปิดฮีตเตอร์ชัวร์


โมโนเรล โตเกียว

เอาหล่ะ พร้อมสำหรับการออกเดินทางเต็มพิกัด   เราต้องการไปต่อรถไฟที่สถานี Hamamatsucho

ซึ่งจะเห็นว่า ที่สถานีโมโนเรล จะมีโมโนเรล 3 สาย(ตามรูป)

–  Rapid (เบอร์1) จอด 4 สถานี

–  Local (เบอร์2) จอด 7 สถานี

–  express (เบอร์3) ปลายทางอย่างเดียว


ถ้าเราจะเข้าเมืองก็นั่ง express ทีเดียวถึง  ไม่ต้องแวะสถานีไหนให้เสียเวลา

เวลาที่รถไฟจะมา  ก็มีบอกชัดเจนว่าจะมากี่โมง

เราจึงเลือก Express Line นี้แน่นอน จะได้ไม่เสียเวลา

ขอบอกว่า เป๊ะมากกก


ส่วนนี้ไม่ได้ยากอะไรเลย  ไม่ต้องเตรียมตัวมาก่อน

ก็สามารถรู้ได้ด้วยการดูป้าย  ทำความเข้าใจง่ายๆ


เที่ยวโตเกียว-8

จะเปรียบเทียบให้เห็นความไกลของ สนามบินนาริตะ กับ สนามบินฮาเนดะ 

เราเลือกสายการบินที่ลง ฮาเนดะ เพราะใกล้ดี และประหยัดค่ารถไฟได้ด้วย



เที่ยวโตเกียว-9

เที่ยวโตเกียว-9

อันนี้เปรียบเทียบให้เห็นว่า พื้นดินข้างบน ตามย่านดังๆต่างๆ  มีเส้นทางรถไฟฟ้าซ่อนอยู่ใต้ดิน

โยงกันยุ่งเหยิง  ทำให้คิดว่า ใต้ดินเขาไม่พรุนไปหมดแล้วหรอ


วิธีการเดินทางในญี่ปุ่น  เราเตรียมอาวุธอยู่ 2 อันคือ

แผนที่ JR   กับ แผนที่ Metro

จุดหมายที่พักโรงแรมของเราคือ  สถานี Ningyocho

เราก็ต้องมาเล่นโยงเส้นสายรถไฟกัน   ต้องใช้สมองมากเลยนะนี่  เพราะสายรถไฟมันพันมั่วกันไปหมด


ตอนคิดจะมาญี่ปุ่นทีแรก  เห็นสายรถไฟฟ้าทั้งบนดิน  และ ใต้ดิน แล้วมึนเลย

ตาลายไปหมด  งงด้วย  ว่าต้องขึ้นตรงไหน  ไปบนดิน หรือใต้ดินดี

กว่าจะทำความเข้าใจเรื่อง สาย สี เส้นทางรถไฟพวกนี้ได้   ก็หลายวันอยู่

ซึ่งในทางทฤษฏี  แค่ลากเส้น  ลากสีในกระดาษมันก็พอจะเรียนรู้กันได้อยู่

และมั่นใจมากขึ้นว่าทำได้แน่นอน  ง่ายๆ


แต่ในทางปฏิบัติ  พอเจอของจริง  ป้ายมันก็มีนะ  แต่มันเยอะมาก

ต้องหยุดคิดพิจารณา  ว่าต้องไปทางไหน

และปัญหาก็คือ  พอเราหยุดปุ๊บ  คนข้างหลังจะชนเราทันที

แล้วก็มองด้วยความรำคาญ  เราจึงเรียนรู้ว่า

พอลงบันไดเลื่อนปุ๊บ  ให้รีบเข้ามุม  หาจุดยืนทันที

อย่าหยุดกลางทาง


รวมรีวิวเที่ยวโตเกียวทุกตอน

สวัสดีค่ะ GoNoGuide มีเป้าหมายที่จะให้ข้อมูลท่องเที่ยวและวีซ่า อย่างเต็มที่ในทุกเรื่องที่เรารู้ เพื่อนๆที่ต้องการสนับสนุนเรา สามารถทำได้ดังนี้

  • เลือกบริการที่ต้องการสนับสนุนเรา
  • GoNoGuide จะได้รับค่าคอมมิชชั่นเล็กๆน้อยๆ โดยที่เพื่อนๆไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม สำหรับลิงค์แนะนำโรงแรม เครื่องบิน และประกันต่างๆ
  • กดติดตามช่อง Youtube และ Facebook GoNoGuide

ขอขอบคุณที่สละเวลาอ่านค่ะ


ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.