โตเกียว15
4 เมษายน 2556 วันที่สิบเอ็ดของการเดินทาง
Hakone Return (Sunny Day Version)
ตอนเช้าก่อนออกเดินทาง กินของกินที่ซื้อเก็บไว้ในตู้เย็นมาเคลียร์
วันนี้เป็นวันที่ แทบจะไม่ต้องทบทวนแผนการเดินทางเลย
เพราะเหมือนเมื่อวานเป๊ะ แต่ต่างกันตรงที่ ท้องฟ้าใสแจ๋วแต่เช้า
ทุกอย่างเหมือนเดิม เปลี่ยนแค่อากาศ อะไรๆก็ดีขึ้นเยอะ
เปลี่ยนทัศนวิสัยไปอย่างสิ้นเชิง จากที่เมื่อวานรู้สึกขุ่นมัว เสียเวลากับการเดินทาง
แต่วันนี้อารมณ์แจ่มใสเป็นพิเศษ อะไรๆก็ดูดี ดูสวยไปหมด
เราไปถึงสถานี Shinjuku เกือบ 7 โมงเช้า
ตั๋วรถไฟที่ซื้อร้านลดราคาเมื่อวานก็ใช้ได้จริงๆด้วย
ทั้งที่ดูร้านแล้วไม่น่าเชื่อถือเลย ไม่เข้าใจว่าทำไมมีร้านขายตั๋วรถไฟลดราคาได้ด้วยแฮะ
ถึงแม้จะไม่ได้นั่ง Romance Car เหมือนเมื่อวาน
แต่วิวสองข้างทางสวยกว่าเมื่อวานเยอะ เพราะอากาศดีมาก ฟ้าเปิด
ดูยังไงต่างจังหวัดของเขา ก็ดูดีกว่าของไทยเยอะมาก ไม่รู้เพราะอะไร
สรุปการเดินทาง เส้นทาง Hakone ราวกับ เดจาวู
1. ไปสถานี Shinjuku –> ขึ้นสายของ Odakyu ไปลงสถานี Odawara
2. ถึงสถานี Odawara แล้วเปลี่ยนสาย เพื่อต่อไปยัง สถานี Hakone-Yumoto
3. นั่ง swiss train จากสถานี Hakone-Yumoto –> ไปลงสถานี Gora
รถไฟนี้เขาเรียก Switch Back หรือ Railway Zig Zag
เป็นรถไฟ ที่เคลื่อนที่แบบซิกแซก
เพราะเป็นการขึ้นเขา ก็เลยต้องยึกยักๆ สับเป็นฟันปลาไต่ขึ้นเขาไป
ส่วนตัวตู้รถไฟเรียก Swiss Train (แต่ญี่ปุ่นเรียก Hakone Tozan railway)
4. นั่ง cable car จากสถานี Gora ไปลงสถานี Sounzan
5. นั่ง Ropeway (กระเช้า) จากสถานี Sounzan ไปลงสถานี Owakudani (ดูไข่ดำ สูดกลิ่นไข่เน่า ชมภูเขาไฟฟูจิ)
ตั้งใจไว้แล้วว่า จะไม่กินไข่ดำแน่นอน เพราะไม่เห็นน่ากินตรงไหน แพงด้วย
แต่ที่นี่เจอคนไทยเยอะมาก จริงๆตั้งใจจะมาหาราเมนกิน
แต่พอเห็นราคาไข่ดำแล้ว 5 ใบ 500 เยน(~170 บาท) ก็ถือว่าไม่แพงมากถ้าเทียบกับค่าเงินญี่ปุ่น
แต่กลับไปกินไข่ขาวๆที่บ้านดีกว่า จริงๆกลัวมีสารอันตรายด้วยแหละ
ไอศครีมที่สีดำๆ ก็ไม่ได้พิศวาสอะไร แพงได้อีก พวกเราไม่ใช่คนชอบกินของแปลก
แต่ถ้าแปลกแล้วน่ากิน หรือราคาคุ้มค่า ก็อาจจะลอง
เลยนั่งกินขนมปัง อยู่หน้าร้านราเมงซะเลย สรุปคือ งก ว่างั้นเหอะ
เหลือบไปเห็นพนักงานร้านราเมงแล้ว หรือว่าที่แพง เพราะ…
เอาเงินมาจ้างพนักงานหน้าตาดีล่ะนี่ หล่อน่ารักเหมือนพระเอกญี่ปุ่นเลย
ด้านข้างเราเป็นตากะยาย นั่งกินไอศครีมสีดำคนละโคน ดูกระหนุงกระหนิงกัน
ผลัดกันถ่ายรูป ทำหน้าคิกขุชูสองนิ้วซะด้วย น่ารักจังเลย
7. นั่งเรือโจรสลัด (Hakone Sightseeing Cruise) จากสถานี Togendai ไปลงสถานี Hakonemachi เป็นอันจบโปรแกรม
อารมณ์ดีสุดๆสำหรับทริปวันนี้
วันนี้อากาศดีมาก เห็นภูเขาไฟฟูจิเต็มๆ ทำให้รู้สึกว่า ไม่มีอะไรติดค้างอีกแล้ว
เราได้เพิ่มโปรแกรม ที่จะไปต่อกันที่ Hakone check point
เป็นด่านตรวจคนเข้าเมือง ในสมัยเอโดะ เพราะเมืองนี้เป็นเมืองท่า
มีการค้าขายเยอะมาก ใครจะเข้าเมือง-ออกเมือง ก็ต้องผ่านตรงนี้
อยู่ไม่ไกลจาก สถานี Hakone-Machi สักเท่าไหร่ เดินไปได้ มีป้ายบอกตลอด
ที่ Hakone checkpoint นี้ เราแนะนำให้ไปจริงๆ คุ้มค่าเงิน ปกติ 500 เยน
แต่เราฉีกส่วนลดจากคู่มือท่องเที่ยว ลดเหลือคนละ 400 เยน
ที่นี่วิวสวย ได้ความรู้ บรรยากาศดีมาก มีพิพิธภัณฑ์ ของใช้สมัยเอโดะ
เจ๋งพอๆกับปราสาทโอดาวะระเลย ห้ามพลาดเด็ดขาด
หลังจากนั้นเรานั่งรถ Bus กลับไปยัง Odawara ซึ่งก็เหมือนกับเมื่อวาน
คือแฟนเราเมารถ มึน ปวดหัว แต่เราไม่เป็นไรเลย
แต่ก็แปลกที่เส้นทางมันคนละทางกันกับเมื่อวาน
จึงไกลกว่า ใช้เวลานานกว่า แต่ไม่เป็นไร ถึงเหมือนกัน
ถ้าเป็นไปได้ เราขอแนะนำอย่างยิ่ง ให้เดินทางกลับทางเรือ นั่งกระเช้า
แล้วย้อนกลับไปทางเดิมจะดีกว่า ได้วิว และไม่มึน แถมน่าจะเร็วกว่าด้วย
แต่ถ้าใครอยากลอง เพราะไม่เคยละก็ เรียนเชิญค่ะ
มาถึง Odawara ก็หาอะไรกิน แต่เนื่องจากเมื่อวาน ก็เดินหารอบนึงแล้ว
แต่ที่เมื่อวานไปลงเอยที่ร้านราเมง ลังเลที่จะกินแกงกะหรี่กับโคร็อกเกะ แต่ก็ไม่ได้กิน
วันนี้จึงมาแก้แค้น ชื่อว่าร้าน Go Go Curry แล้วสั่งแบบ สั่งลา กันเลยทีเดียว
เพราะจะได้เที่ยววันพรุ่งนี้ อีกวันเดียวก็ต้องกลับแล้ว
เราสั่งเมนูเดียวกัน เป็นชุดใหญ่สุด ชุดละ 1000 เยน
(ยังไงก็คุ้มกว่าราเมงบนหุบเขาไข่เน่านั่นแหล่ะ)
ระหว่างรออาหาร ก็ดูโฆษณาของ Go Go Curry ประมาณว่ามีดารา
ไปลองเปิบพิสดาร ตามสาขาต่างๆ เหมือนในทีวีแชปเปี้ยนแหล่ะ
พอได้รับชุดอาหารที่สั่งมาเสิร์ฟเท่านั้นแหล่ะ ถึงกับตกใจตาค้างกันทั้งคู่
เพราะจานมันเท่าๆกับ กะทะแบนๆได้เลย ถ้าอยู่เมืองไทยนี่ 1 จาน กินกันได้ 2 คน
แบบอิ่มแปล้เลยนะ ทีแรก กะจะสั่ง 1 จาน แล้วมาแบ่งกันกินด้วยซ้ำ
แต่กลัวเขาจะมองว่าไม่มีมารยาท หน้าบางกระทันหัน
โดย 1 จานมีโคร็อกเกะหมู 1 ชิ้น, โคร็อกเกะไก่ 1 ชิ้น, ใส่กรอก 1 ชิ้น ,
กุ้งเทมปุระ 1 ชิ้น , ไข่ ครึ่งฟอง , ราดแกงกะหรี่ครึ่งจาน และข้าวแบบพูนๆ
แรกๆก็ อื๊อ… อ๊า… อร่อยจัง กินไปได้ซักพัก เริ่มเขี่ย เริ่มกลืนไม่ลง
เพราะมันเยอะมากกินไม่หมด จนสุดท้าย เลยมียกให้สามีกินแทน
โดยที่สามีก็จะไม่ไหวแล้ว จนในที่สุดพยายามยัดมันลงไป
โดยคิดว่า แกจงอิ่มให้ถึงเย็นพรุ่งนี้นะ ในที่สุดก็กินกับหมดจนได้
แต่ก็ยังเหลือข้าวอีกเยอะเลย เสียดายจัง เพราะข้าวญี่ปุ่นอร่อยซะด้วยสิ
เรารีบหาโอกาสตอนที่พนักงานหันไปทำอย่างอื่น แล้วมุดๆชิ่งออกไป
กลัวเขาจะหาว่ากินไม่หมด เหลือทิ้งเหลือขว้าง
แต่พอออกมาแล้ว ก็เจอพนักงานอีกคนหนึ่ง ยืนแจกใบปลิวอยู่หน้าร้าน
เขาเดินเข้ามาหาเรา เฮ้ยเอาแล้วไง อะไรวะแค่กินไม่หมดเอง
ทำไมจะห่อกลับบ้านให้หรือไง พอเขาเดินเข้ามา ก็ชี้มาที่กล้องถ่ายรูปเรา
แล้วบอกประมาณว่าถ่ายรูปให้มั้ย เราก็อ๋อ โอเคสิ ก็โพสถ่ายรูปหน้าร้าน
แหม…จริงๆ ฮีจะให้เราช่วยประชาสัมพันธ์ร้านให้แหล่ะ รู้หรอก
แต่ร้านนี้เขาอร่อยจริงๆ นะเออ แต่เยอะเกิน
ก่อนกลับ ก็แวะห้างอีกแระ ชื่อว่า seiyu เหมือนๆ ห้างบ้านเราแหล่ะ
หนีไม่พ้น ร้าน100 เยน กับตกหลุมซุปเปอร์มาเก็ตอยู่นานอีกแล้ว กลุ้มใจตัวเองเหมือนกัน
ค่ากินวันนี้
บัตรเข้า Hakone Checkpoint 2 คน 800 เยน
แกงกะหรี่ที่ Go Go Curry 2000 เยน
ของกินเก็บไว้กินวันต่อไป ที่ Seiyu Odawara 198 เยน
ร้้าน 100 เยน ที่ Odawara 420 เยน
สวัสดีค่ะ GoNoGuide มีเป้าหมายที่จะให้ข้อมูลท่องเที่ยวและวีซ่า อย่างเต็มที่ในทุกเรื่องที่เรารู้ เพื่อนๆที่ต้องการสนับสนุนเรา สามารถทำได้ดังนี้
- เลือกบริการที่ต้องการสนับสนุนเรา
- GoNoGuide จะได้รับค่าคอมมิชชั่นเล็กๆน้อยๆ โดยที่เพื่อนๆไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม สำหรับลิงค์แนะนำโรงแรม เครื่องบิน และประกันต่างๆ
- กดติดตามช่อง Youtube และ Facebook GoNoGuide
ขอขอบคุณที่สละเวลาอ่านค่ะ