แผนเที่ยว Nara

แผนเที่ยว Nara

เที่ยวโอซาก้า-31
ที่เที่ยว Nara

1. Naramachi

เป็นชื่อย่านเมืองเก่าของนารา มีทั้งย่านการค้าแบบเก่าๆ

บ้านเรือนสมัยเก่า ที่อนุรักษ์เอาไว้ แต่ก็ยังเปิดเป็นร้านค้าได้ด้วย

มีพิพิธภัณฑ์เล็กๆจัดในบ้านเล็กๆ ซอยแคบๆตามแบบโบราณ

ส่วนใหญ่อยู่มาตั้งแต่สมัยเอโดะ

ร้านค้าแถบนี้จะเรียกว่า machiya ซึ่งหมายถึง “townhouse”

ในแนวลึกหน้าแคบ เพื่อประหยัดภาษีที่ต้องจ่ายตามหน้ากว้างที่ติดถนน

ปัจจุบันถูกจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้


จริงๆแล้วพื้นที่บริเวณนี้ประมาณศตวรรษที่15 เคยเป็นพื้นที่ของวัด Gangoji

ซึ่งเป็นวัดที่สำคัญแห่งหนึ่งในสมัยนารา  ซึ่งวัดนี้ก็ขึ้นทะเบียนมรดกโลกด้วยเหมือนกัน

แต่ในปัจจุบันวัดนี้เหลือพื้นที่อยู่เพียงไม่กี่หลังเท่านั้น   (ดูรีวิว Naramachi)


บริเวณ Naramachi จะมีส่วนที่น่าสนใจดังนี้

Gangoji Temple

Gangoji Temple เป็นหนึ่งใน 7 ของวัดพุทธ ที่มีชื่อเสียงที่สุดในนารา ซึ่งได้แก่

Todaiji , Takushiji , Saidaiji , Kofukuji , Horyuji และ Daianji


Gangoji Temple ได้ถูกสร้างขึ้นตามแบบของวัด Asukadera ในจังหวัด Asuka

ซึ่งถือว่าเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น  เพราะก่อนหน้าที่จะมาตั้งเมืองหลวงที่นารา

จักรพรรดิได้เคยอาศัยในแถบ Asuka ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในจังหวัดนาราในสมัยนี้

แต่เมื่อก่อนยังไม่ได้มีการตั้งเป็นจังหวัดขึ้นมา


พอย้ายจาก Asuka มา Nara เมื่อปี 718  ก็เลยต้องสร้างวัดใหม่ให้เหมือนที่เดิม

นั่นก็คือ Gangoji Temple นั่นเอง  แต่วัด Gangoji Temple ในทุกวันนี้ก็เป็นเพียงส่วนเล็กๆของที่เคยเป็นเท่านั้น

เปิด 9.00 – 17.00 น.

ค่าเข้า 500 เยน


Koshi-no-le Residence (Naramachi Lattice House)

เป็นทั้งบ้านและร้านค้าสมัยเก่าที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ชมฟรี

ที่นี่เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้เห็นชุมชนการค้าในสมัยเอโดะของจริง

เปิด 9.00 – 17.00 น.  ปิดวันจันทร์

ค่าเข้า ฟรี

ดูรีวิว Naramachi Lattice House


Nara Craft Museum (Nara Kogeikan)

เป็นพิพิธภัณฑ์แสดงงานฝีมือ และศิลปะในสมัยนารา

เปิด 10.00 – 18.00 น.  ปิดวันจันทร์

ค่าเข้า ฟรี


Naramachi Shiryokan (Naramachi Museum)

เป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงสิ่งประดิษฐ์ เกี่ยวกับประวัติของนารา

สังเกตุเห็นง่ายมากคือจะมี migawari-zaru ห้อยอยู่ที่ประตูทางเข้า

migawari-zaru คืออะไรไม่รู้ เป็นเหมือนพวงผ้าสีแดง-ขาวคล้ายๆนวม

 

ภาษาอังกฤษบอกว่าเป็น strings of red-cloth monkeys hanging

แต่ดูแล้วไม่เห็นเหมือนลิงตรงไหนเลยนะ

มีความเชื่อว่า migawari-zaru นี้ห้อยเพื่อเป็นลิงแพะรับบาป

ป้องกันสิ่งชั่วร้ายไม่ให้เข้าไปในบ้าน  หรือจะเขียนขอพรติดไว้ด้วยก็ได้

เปิดทุกวัน 10.00-16.00 น.

ค่าเข้า ฟรี

ดูรีวิว Naramachi Museum


Imanishike Shoin Residence

เป็นที่พักอาศัยของคนสมัยก่อนที่ทำงานในวัดKofukuji

ภายในจะมีสวน ห้องต่างๆ ให้ชม ก็สามารถเรียนรู้ชีวิตความเป็นอยู่จริงๆได้จากที่นี่

เปิด 10.00-16.00 น. ปิดวันจันทร์

ค่าเข้า 350 เยน

ข้อมูลจาก japan-guide.com


2. Shin-Yakushiji Temple

เป็นวัดเก่าที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.710-794 เพื่อบูชาพระยาคุชิ

ให้องค์จักรพรรดิหายจากอาการประชวร เนื่องจากมีวัดชื่อ Takushiji อยูเดิมแล้ว

ก็เลยตั้งสื่อถึงวัด Yakushiji ของใหม่ จะได้ไม่สับสนกับของเดิม

จุดเด่นจะเป็นรูปปั้นรูปต่างๆ เป็นเทพถืออาวุธ และท่าทางที่แตกต่างกัน

เปิด 9.00-17.00 น.

ค่าเข้า 600 เยน


3. Nara National Museum

ก่อตั้งเมื่อปีค.ศ.1889  จัดแสดงศิลปะที่เกี่ยวกับศาสนาพุทธ ทั้งรูปปั้น ภาพวาด ฯลฯ มีอธิบายเป็นภาษาอังกฤษด้วย

เปิด 9.30-17.00 น.

ค่าเข้า 520 เยน


4. Kasuga Taisha

เป็นศาลเจ้าของศาสนาชินโต ถือว่าเป็นศาลเจ้าประจำตระกูลฟูจิวะระ

ซึ่งมีการสร้างขึ้นใหม่ทุก20ปี แต่หลังจากยุคเอโดะไปแล้วก็ไม่มีการสร้างใหม่อีกเลย

ศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเสียงเรื่องโคมไฟ เพราะผู้ศรัทธาจะมาบริจาคเพื่อขอพร

รอบๆก็จะมีศาลเจ้าเล็กๆ  มีสวนพฤษาซึ่งจะบานเต็มที่ช่วงเมษายน-พฤษภาคม

เปิด 6.00-18.00 น.

ค่าเข้า  ฟรีภายนอก , 500 เยนภายใน  , สวน 500 เยน , Treasure House 400 เยน


5. Nara Park

เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ มีกวางอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก(มากกว่า1200ตัว)

เพราะในศาสนาชินโตเชื่อกันว่า กวางเป็นผู้นำสารจากพระเจ้า

ชาวบ้านจึงไม่ไล่ จนทำให้กวางเพิ่มจำนวนมากขึ้นจนกลายเป็นมาสคอตประจำนะระไปแล้ว

สามารถให้อาหารกวางได้ แต่บางครั้งกวางอาจไม่ได้สุภาพอย่างที่คิดก็ได้


6. Todaiji Temple

เป็นวัดพุทธที่สร้างด้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก  Daibutsu ที่ใหญ่ที่สุด

และวัดนี้ยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย

วัด Todaiji ที่เราเห็นอยู่ปัจจุบันถูกสร้างขึ้นใหม่ในช่วงเวลาที่ต่างกัน

เหตุเพราะแผ่นดินไหวบ้าง ไฟไหม้บ้าง ทั้งตัวองค์พระ Daibutsu

ที่ทำจากทองสำริด และตัววิหารที่ทำจากไม้ทั้งหมด

อ่านประวัติ Todaiji Temple

เปิด 8.00 – 16.30 น. (ฤดูแต่ละฤดูเปิดปิดไม่เหมือนกัน)

ค่าเข้าส่วนDaibutsuden Hall 500 เยน

ค่าเข้าส่วน Todaiji Museum + Daibutsuden Hall  800 เยน


7. Isuien Garden

เป็นสวนแบบฉบับญี่ปุ่น คำว่า Isuien แปลว่า “สวนกลางน้ำ”  จะมีการออกแบบที่สวยงามมาก  ในนั้นจะมีส่วนของ tea house , museum ที่แสดงเกี่ยวกับเครื่องปั้นดินเผา ถ้วยชามโบราณจากจีน และเกาหลี

เปิด 9.30 – 16.30

ค่าเข้า 900 เยน

 


8. Yoshikien Garden

เป็นสวนญี่ปุ่นอีกที่หนึ่ง อยู่ข้างกับแม่น้ำ yoshidien มีการจัดสวนที่เป็นเอกลักษณ์ 3 สวนในนั้นคือ Pond garden , Moss garden  และ tea ceremony garden ผู้ชมจะได้ศึกษาเทคนิคการจัดสวนได้ที่นี่

เปิด 9.00-17.00 น.

ค่าเข้า 250 เยน (ชาวต่างชาติเข้าฟรี) เอ๊ะ…ยังไง คนญี่ปุ่นเสียเงิน แต่ต่างชาติเข้าฟรี มันสลับกันมั้ย?

 


 

9. Kofukuji Temple

เคยเป็นวัดประจำตระกูลฟูจิวะระ ซึ่งเป็นตระกูลทรงอิทธิพลมากในยุคนะระถึงเฮอัน ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.710 (ช่วงที่นะระเป็นเมืองหลวง) ซึ่งเมื่อก่อนมีอาคารมากกว่า150หลัง แต่ปัจจุบันเหลืออยู่ไม่กี่อาคารเท่านั้น อาคารหลักที่เหลือได้แก่

เจดีย์ห้าชั้น(five story pagoda)สูงเป็นอันดับสองรองจากเจดีย์ที่วัดToji ในเกียวโต แค่ 7เมตร

เจดีย์สามชั้น(three story pagoda)

บริเวณ วัดสามารถเข้าชมได้ฟรี แต่ถ้าเข้า Treasure Museum และ Eastern Golden Hall ต้องเสียค่าเข้าชม แต่ตอนนี้ อาคารหลัก Central Golden Hall ก่อสร้างอยู่ และจะแล้วเสร็จปี 2018 และบริเวณรอบๆก็จะมีการซ่อมแซมต่อจนถึงปี2013

เปิด 9.00 – 17.00

ค่าเข้า

National Treasure Museum 600 เยน

Eastern Golden Hall 300 เยน

National Treasure Museum + Eastern Golden Hall  800 เยน

ดูรีวิว Kofukuji Temple

 


เพิ่มวัดที่อยากไปอีกที่หนึ่ง แต่ไกลและแพงเลยตกไป  แต่อ่านประวัติซักหน่อยค่ะ น่าสนใจดี

Horyuji Temple

เป็นวัดพุทธในจังหวัดนาราวัดนี้น่าสนใจตรงที่เป็นวัดที่ถือว่าเป็นวัดไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เชื่อกันว่าใต้เจดีห้าชั้นมีหีบสมบัติฝังอยู่ด้วย แต่ไกลมาก ต้องนั่งรสบัสไป

อ่านประวัติ Horyuji Temple

เปิด 8.00 – 17.00 น

ค่าเข้า 1500 เยน

 


อันนี้เป็นวัดทางผ่านแถว Ikoma Station ขึ้น cable car ไปอีกนิดหน่อย

Hozanji Temple

วัด Hozanji เป็นวัดพุทธที่โด่งดังแห่งหนึ่งมาตั้งแต่สมัยเอโดะ  อยู่บนภูเขา Ikoma ซึ่งเป็นที่ที่เคารพบูชาของคนโบราณ

พื้นที่รอบๆวัด Hozan-ji เดิมเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมพระของศาสนาพุทธ ซึ่งขณะนั้นใช้ชื่อว่า Daisho-Mudo-ji มาตั้งแต่ปีค.ศ.655 โดย En no Gyoja  พระในพุทธศาสนาส่วนใหญ่รวมถึง Kukai ด้วย(ไปดูประวัติ Kukai ที่นี่) ก็ถูกฝึกมาจากที่นี่เหมือนกัน

วัด  Hozan-ji กลับมาเปิดเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมตั้งแต่ศตวรรษที่17 โดย Tankai ได้ก่อตั้งสถานที่ปฏิบัติธรรมที่นี่อย่างเป็นทางการเมื่อปีค.ศ.1678

ภายในมีรูปปั้นเทพเจ้าแห่งความสุขประดิษฐานอยู่ มีรูปร่างเป็นคนแต่หัวเป็นช้าง  ซึ่งเป็นหนึ่งในเทพเจ้าทั้ง3ของญี่ปุ่น  รูปร่างจะเหมือนพระพิฆเนศของอินเดีย หรือเรียกว่า Sacred God  เทพเจ้าแห่งความสุขที่ว่านี้ไม่ได้เห็นกันง่ายๆในญี่ปุ่น   และไม่แสดงให้คนทั่วไปได้รับชมอีกด้วย

เปิด 8.00-17.00 น.

ค่าเข้า  ฟรี

ดูรีวิว Hozanji Temple

 

สวัสดีค่ะ GoNoGuide มีเป้าหมายที่จะให้ข้อมูลท่องเที่ยวและวีซ่า อย่างเต็มที่ในทุกเรื่องที่เรารู้ เพื่อนๆที่ต้องการสนับสนุนเรา สามารถทำได้ดังนี้

  • เลือกบริการที่ต้องการสนับสนุนเรา
  • GoNoGuide จะได้รับค่าคอมมิชชั่นเล็กๆน้อยๆ โดยที่เพื่อนๆไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม สำหรับลิงค์แนะนำโรงแรม เครื่องบิน และประกันต่างๆ
  • กดติดตามช่อง Youtube และ Facebook GoNoGuide

ขอขอบคุณที่สละเวลาอ่านค่ะ


ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.