เช่ารถขับเอง ที่กระบี่

วันนี้เป็นวันที่สามของการเดินทาง ซึ่งจะเป็นวันสุดท้ายแล้ว

มีเวลาถึงแค่บ่ายสองโมง  ต้องไปให้ถึงสนามบินแล้ว เพราะเครื่องออก 15.50 น.

พวกเราเลือกวิธีเดินทางด้วยการ เช่ารถขับเอง

จะได้ไปไหนกันบ้าง ต้องติดตามในบทความถัดไปค่ะ (ทัวร์บนบก ที่กระบี่)

ส่วนบทความนี้จะเล่าประสบการณ์ เช่ารถขับเอง ว่าต้องทำยังไงบ้าง

---

 

ต้องบอกก่อนว่านี่เป็นการ เช่ารถขับเอง เป็นครั้งแรกของเราเลย

แล้วปกติชีวิตประจำวันก็แทบไม่ได้แตะรถเลย ไม่ได้ขับมานานมากแล้ว

แต่ที่ตัดสินใจเลือกวิธีนี้เพราะค่าใช้จ่ายโดยรวมแล้วมันถูก และสะดวกที่สุดนั่นเอง

ตามที่รู้กันถ้วนหน้าแล้วว่า เที่ยวเมืองไทย ไม่มีรถ ไปไหนก็ลำบาก

---

ขั้นตอนในการหาเช่ารถแบบราคาพิเศษ 

คือจริงๆตอนแรกไม่รู้จัก ไม่เคยคิดจะเช่ารถเลยด้วย

แต่เห็นแอร์เซียโฆษณา “บินแล้วขับ”  ก็เลยสนใจ

แต่ดูราคาแล้วขั้นต่ำก็ประมาณ 1200 บาทต่อวัน  ยังไงก็คุ้มกว่าซื้อทัวร์แหล่ะ

---

กำลังจะซื้อแล้ว แต่สามีบอกให้ลองเสิร์ชกูเกิลดู

ว่ามีวิธีเช่ารถแบบไหนให้เลือกบ้าง

ก็พบว่ามีเจ้าดังๆใหญ่ๆ ที่มีสาขากระจายมากๆ ก็คือ AVIS กับ Budget

---

 

เข้าไปดูหน้าเวปเห็น AVIS ถูกกว่า Budget หน่อยนึง ก็คิดว่าจะเลือกของ AVIS แล้ว

แต่พอเลือกวันจะจอง กลับไม่มีรถให้ในวันนั้น  ก็แปลกใจว่าอะไรจะหมดเร็วขนาดนั้น

---

 

ลองหาข้อมูลดูอีกที  ก็บังเอิญไปเจอกระทู้นึง  ที่แนะนำให้ซื้อคูปองรถเช่า

เพราะจะได้ราคาถูกกว่า  ทีแรกก็ไม่รู้จักว่าคูปองมันไว้ใช้ทำอะไร  ต้องทำยังไง

จริงๆแล้วก็ไม่ยากอะไรเลย  เหมือนซื้อของผ่านอินเตอร์เน็ททั่วไปนั่นแหละ

---

ก่อนอื่นก็เข้ากูเกิลใช้คีเวิร์ดว่า “คูปอง+รถเช่า” หรือ “voucher+รถเช่า” ก็ได้

แล้วก็เลือกเวปเอาตามสบายเลย

---

 

สิ่งที่ควรรู้ก่อนเช่ารถคือ

1. ผู้เช่าจะต้องอายุ 21 ปีขึ้นไป (อันนี้ผ่านอยู่แล้ว…ไม่อยากผ่านเล้ย)

---

2. ผู้เช่าต้องมีใบขับขี่ ที่ยังไม่หมดอายุนะ  (อันนี้ก็ต้องมีอยู่แล้ว  ไม่มีแล้วจะขับได้ไง)

---

3. ผู้เช่าต้องมีบัตรเครดิต (อันนี้ถามทาง Budget เขาบอกว่า ต้องเป็นบัตรเครดิตชื่อเดียวกับผู้เช่า ใช้เงินสดก็ไม่ได้นะ บัตรเครดิตเท่านั้น)

---

4. Budget/AVIS ต้องมีวงเงินในบัตรเหลือเกิน 20,000 บาท (แต่ถ้าเคยเช่ามาก่อนใช้แค่ 10,000 บาท)  จะได้รับคืน หลังคืนรถประมาณ 7 วัน

---

5. ถ้าเป็นวันธรรมดา จันทร์-พฤหัสฯ ราคาจะถูกที่สุด เท่าที่เห็นคือ 570 บาท  ถ้าวันศุกร์-อาทิตย์ และวันหยุดต่างๆ ก็ราคาจะเพิ่มขึ้น 300-500 บาท

---

6. ถ้าไม่แน่จริงอย่าเช่ากับรายบุคคล หรือบริษัทโนเนม  ควรเช่ากับบริษัทแบรนด์เนมดีกว่า  ถูกกว่า(เป็นบางโอกาส) ได้มาตรฐาน ไม่โกง บริการดีมาก  ไม่เสียอารมณ์

---

7. รับรถ ส่งรถที่บริษัท ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่ม  แต่ถ้าให้ไปส่งรถที่ที่นัดกัน ก็เสียเพิ่ม 321 บาท  อย่างของเรา ให้บริษัทมาส่งรถให้ที่อ่าวนาง เสียเพิ่ม 321 บาท (แหม…จะให้ไปเอารถเองที่สนามบิน ก็เสียค่ารถมากกว่าอีกน่ะสิ)  แต่ตอนส่งรถคืนที่บริษัท(อยู่ในสนามบิน)ไม่ต้องเสียอะไร

---

8. เรื่องประกันจะต้องรู้จักคำว่า มีDeduct กับ ไม่มีDeduct

แบบมี Deduct คือ ถ้าชน เฉี่ยว บุบ ขูด เราจ่ายไม่เกิน 8,000 บ.(AVIS) และไม่เกิน10,000 บ.(BUDGET)  แต่ถ้ารถยับทั้งคันเลยก็จ่ายไม่เกิน 30,000 บ.

แบบไม่มี Deduct คือไม่ว่าจะเกิดอะไรเราก็ไม่ต้องจ่ายอะไรเลย (Voucher จะแพงกว่าปกติร้อยกว่าบาท) ถ้าใครอยากซื้อความสบายใจก็แนะนำแบบนี้ดีกว่าคุ้มดี

---

9. ก่อนเซ็นต์รับรถต้องถ่ายรูปทุกซอกทุกมุมเท่าที่ทำได้ ตรงไหนมีรอย บุบ หรือผิดปกติ ก็ถ่ายให้ชัดๆเก็บไว้ ทั้งข้างในรถ นอกรถ ยาง  (คืออันนี้อ่านมาเขาแนะนำแบบนี้)

---

ถ้าไงสงสัยก็โทรไปถามทางcall center ของบริษัทที่จะเช่าก่อนซื้อ Voucher ให้ชัวร์ดีกว่า

---

 

ครั้งนี้เราเลือกราคา Voucher ต่ำที่สุดเป็นของ Budget  คือ  570 บาท

แต่จะมีค่าส่ง EMS 30 บาท  รวมเป็น 600 บาท

(ถ้าไม่ใช้ Voucher ก็ประมาณ 1,100 บ.) ได้รถเป็น Toyota Yaris สีน้ำเงินเข้ม

---

เราเลือกแบบมี Deduct คือ…

ถ้ามีปัญหา ต้องจ่ายตังเพิ่มอย่างเดียว กล้ามั้ยล่ะ  (ไม่ได้กล้าหรอก  งกไง)

---

 

ทำเรื่องรับรถ

ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ดูเขาเป็นการเป็นงานดีเหมือนกันนะ สุภาพ ยิ้มแย้ม ละเอียดดี

ก่อนอื่นเขาก็จะขอเอกสารบัตรประชาชน ใบขับขี่

(ถ้าถ่ายเอกสารมาด้วยก็ไม่ต้องเสียเวลารอเขาไปถ่ายอีก)

บัตรเครดิต และ Voucher(ถ้ามี)

---

เมื่อตรวจสอบเอกสาร  เจ้าหน้าที่อธิบายทุกอย่างแบบละเอียด  (เออ ออ อย่างเดียว)

ขอบัตรเครดิตเอาไปทาบกับกระดาษ แล้วก็ใช้ดินสอฝนๆ ตรงเลขที่หน้าบัตรเครดิต

ถามเขาว่านี่ทำอะไรอ่ะ  เขาบอกว่าก๊อบปี้  โอ้ว…คิดได้ไงเนี่ยะ เจ๋งแฮะ

---

แล้วเขาก็โทรหาบริษัท แล้วบอกเลขหน้าบัตรเครดิต กับเลขสามหลักหลังบัตร

ให้ปลายสายตัดบัตรเครดิต เพื่อประกัน 20,000 บาท

เราเลยถามว่าทำไมไม่มีเครื่องรูดบัตรมาซะเลยล่ะ แบบนี้มันจะปลอดภัยหรอ

เขาตอบว่าไงจำไม่ได้แล้ว แต่ประมาณว่าไม่ต้องห่วง (แต่ในใจนี่เสียวแว๊บๆแล้วนะ)

---

 

เออ เอาไงก็เอาวะ  แล้วเซ็นต์ไปแบบมึนๆ  แล้วเขาก็พาไปดูรถ ตรวจสอบรถกัน

ภายในก็ดูสะอาดดีนะ  เจ้าหน้าที่เปิดให้ดูยางอะไหล่  กับทดสอบต่างๆอย่างละเอียด

---

 

แล้วก็เดินเช็ครอบรถ  เราก็ถ่ายรูปรอยขีดข่วนไว้

แต่ถ่ายออกมาแล้วมองไม่ชัดเลย  แบบว่ารีบเอง

เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้เร่งหรอก  แต่เห็นยืนกดดันอยู่ เลยขี้เกียจละเอียดเกินไป

---

คิดว่าถ้าเอาให้ง่ายๆนะ  ก็ถามเขาไปเลยดีกว่า ว่ารอยนี้มีบันทึกไว้ยัง

เพราะที่ได้รถมาจะมีรอยประมาณ 3-4จุด

---

พอรับกุญแจมา มือไม้เริ่มสั่น คิดในใจว่า ชั้นจะไหวมั้ยเนี่ยะ

คือไม่ได้ขับรถมานานมาก  ดีที่มีให้เลือกรถเป็นเกียร์ออโต้นะ

ได้รถปุ๊บก็ทดลองขับให้ชิน แต่กว่าจะชิน

เหงื่อแตกพลั่กๆ  รถเล็กๆ ก็ดูใหญ่คับซอยได้เลย

---

ส่วนสามีไม่ต้องพูดถึง เขาขับรถไม่เป็นอยู่แล้ว แล้วก็ไม่อยากให้ขับด้วย เพราะใจไม่แข็งพอ

แต่ก็กลายเป็น GPS เคลื่อนที่ที่ดีเหมือนกัน

---

 

ทดลองขับไปเรื่อยๆ  จนคิดว่าเข้ามือเข้าเท้าแล้ว  ก็ไปหาที่จอด

ตอนนั้นประมาณ 6 โมงเย็น  ที่จอดก็ไม่ค่อยมี พอหาได้ก็เล็งแล้วเล็งอีก

จอดเสร็จแล้ว ยังมองแบบเป็นห่วงลูก   กลัวรถหาย กลัวมีคนมาขูดรถ  คิดไปเรื่อย

ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ชั้นจะทำยังไงดีเนี่ยะ

สามีก็บอกว่าก็ไม่ต้องทำไรมาก  แค่จ่ายเงิน (เออจริง…นั่นแหละที่กลัว)

---

 

กลับมาที่โรงแรม รีบนอนแต่หัวค่ำเลย  แต่ก็นอนไม่ค่อยหลับ

ไม่ใช่เพราะอะไร ก็เพราะเจ้ารถนั่นแหละ กลัวที่สุดคือกลัวหาย

คิดทั้งคืนว่าล็อคดีรึยัง  ถ้าหายจะทำยังไงดี

ไปเอามาจอดหน้าโรงแรมดีมั้ย (ขี้เกียจลุกอีก  ดึกแล้ว)

---

ฉะนั้นถึงบอกไงว่า คนจิตไม่แข็ง อย่าลืมซื้อ Vocher แบบไม่มีDeduct (มีประกัน)

เพิ่มแค่ร้อยสองร้อย แต่นอนตาหลับ

---

ส่วนตอนคืนรถ ยังไงเราก็ต้องไปขึ้นเครื่องที่สนามบินอยู่แล้วใช่มั้ย

บริษัทรถก็อยู่ที่สนามบินกระบี่อยู่แล้ว  เราก็แค่เอารถเข้าไปหน้าบริษัท

เดี๋ยวก็มีเจ้าหน้าที่มาจัดการเอง

---

แต่เรามันทึ่มเอง  ไม่รู้เข้าทางไหน  เห็นรถข้างหน้าไปไหนเราก็ขับตามเขาไป

เลยไปโผล่ตรงทางเข้าสนามบินชั้นสอง  ขี้เกียจขับหาเลยโทรหา Call Center

เขาก็บอกว่าเดี๋ยวจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ขึ้นไปรับให้นะคะ

---

เราก็แค่รอเขามา  จากนั้นก็ตรวจสอบรถใช้เวลาแค่ไม่ถึง 5 นาที ก็เรียบร้อยแล้ว

ง๊ายง่ายเนอะ  แต่ก่อนที่จะตรวจเสร็จนี่สิ ลุ้นแทบแย่ว่าจะมีเรื่องอะไรมั้ย

เนี่ยะไม่ยอมเลือกแบบมีประกันนี่ล่ะ  ก็ต้องตื่นเต้นแบบนี้แหละ

---

 

รวมลิ้งค์เที่ยวกระบี่ทุกตอน

 

---