มาเก๊า-ฮ่องกง9 ดิสนี่ย์แลนด์
12 ม.ค. 2555 วันที่ห้าของการเดินทาง
วันนี้เป็นวันหนึ่ง ที่ตั้งตารอคอยมานานแสนนาน ตั้งแต่สมัยเด็ก
เห็นในรายการท่องเที่ยว มันคือดินแดนในฝันของเด็กๆ และผู้ใหญ่บางคน
ถึงแม้ว่าที่ฮ่องกง จะเล็กกว่าที่ญี่ปุ่น แต่ก็ยังใหญ่ในจินตนาการอยู่ดี
วันนี้ได้เข้ามาอยู่ในโลกของการ์ตูนในฝัน รู้สึกตื่นเต้นยังไงไม่รู้
เราซื้อบัตรผ่านแบบ 2 วัน เกลือกกลิ้งอยู่ในโลกแห่งจินตนาการ ที่เป็นจริง ให้หนำใจ 2 วันกันไปเลย
รีบตื่นแต่เช้าตรู่ กินขนมปังที่ซื้อมาเมื่อวาน ที่แสนถูกและอร่อย
นมคนละกล่อง ออกจากที่พัก 9โมงเช้า ไปลงสถานี HongKong
เพื่อเปลี่ยนขบวนไป Tung Chung Line แล้วไปเปลี่ยนขบวนที่ Sunny Bay
เพื่อไป Disney Resort
รถไฟฟ้าที่สถานี Sunny Bay เป็นขบวนรถไฟฟ้าที่จะไปดิสนี่ย์แลนด์
ตกแต่งได้เข้ากับบรรยากาศจริงๆ เหมือนได้ลิ้มรสชาติของอาหารเรียกน้ำย่อย
มีเด็กๆน่ารักๆ เยอะแยะเต็มรถไฟฟ้า ทั้งๆที่เราเลือกไปวันธรรมดา เพื่อหนีความวุ่นวาย
แต่วันธรรมดาก็ไม่อาจทำลายความจอแจของคนได้เลย
หน้าต่าง และราวจับ ที่ห้อยลงมาในขบวนรถไฟฟ้า เป็นรูปหัวของมิกกี้เม้าส์ และมินนี่เม้าส์ พระเอก นางเอกของ ดิสนี่ย์แลนด์
ทันทีที่รถไฟฟ้าจอด ก็มองผ่านกระจก หัวใจก็เต้นแรง เหมือนกำลังนัดเจอกับแฟน
ก้าวเท้าออกมา ก็ตะลึงในความอลังการ ตั้งแต่ทางเข้าที่สวยคลาสสิคมาก
โดยมีน้ำพุมิคกี้ขี่ปลาวาฬ ขนาดใหญ่ รอต้อนรับอยู่หน้าทางเข้า
มองจากด้านนอกเห็นสถานีรถราง ชมรอบสวนสนุก
แต่ก่อนอื่น เราต้องฝ่าด่านที่เราลุ้นกันอยู่เช่นเคย คือการตรวจกระเป๋า
ใครจะหาว่างกก็ตามสบาย แต่พวกเราคิดว่า อาหารด้านใน ราคาไม่สมกับปริมาณ
ซึ่งก็ไม่แปลก และเข้าใจว่าต้องราคาอย่างนั้นอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติ
เหตุผลที่สองคือ เราจะต้องเสียเวลา กับการต่อคิวที่ยาวมาก หาที่นั่งยาก
อีกทั้งเสียเวลาในการเดินเที่ยวอีก เหตุผลนานาประการ ที่เราอยากนำอาหารเข้าไปกินเอง
ซึ่งก็ไม่ได้น่าเกลียดถึงขั้นข้าวราดแกงอะไรซะหน่อย
ขนมปังที่ซื้อมาเมื่อวาน แถว western market เป็นร้านเล็กๆ
ที่คนท้องถิ่นซื้อกินกัน จะเรียกว่าโฮมเมดก็ได้เลย อร่อยมากๆ
และที่สำคัญคือราคาถูกมากเสียด้วย จะบอกว่าถูกกว่าไทยก็ได้
อย่างแซนวิชทูน่า+ไข่ 2 ชั้น คล้ายๆกับที่ยามาซากิขาย ราคา45บาท
แต่ของที่ร้านนี้ ราคาแค่ 30 บาทเอง ชิ้นเดียวอิ่มยาว
ส่วนค่าบัตรดิสนี่ย์แลนด์ และโอเชี่ยนปาร์ค เราใช้บริการซื้อล่วงหน้า
มาจากเวปตระกูลเฉิน ที่ราคาถูกกว่าไปซื้อหน้างาน แล้วเราจะจ่ายแพงกว่าทำไม
กลับมาที่ด่านตรวจ ซึ่งกำลังจะถึงคิวเรา ที่ก่อนหน้านี้ยืนรอกันยาวเหยียด
คนนับร้อยๆ มารอกันก่อนสวนสนุกเขาจะเปิดซะอีก
คนด้านหน้าเรา เป็นครอบครัวหน้าจีนๆ มีพ่อ แม่ ลูก ในขณะที่ลูกผ่านไปอย่างฉลุย
เพราะไม่ได้หิ้วอะไรเลย แต่มาติดที่แม่ ที่นำทั้งกล่องอาหาร ดูมีน้ำอะไรไหลออกมาด้วย
คนตรวจก็หยิบขึ้นมา แล้วบอกว่าห้ามนำเข้าไป แล้วก็ต้องโยนทิ้งถุงดำข้างๆใบใหญ่
เหมือนกับรู้ว่าในแต่ละวัน จะต้องมีแบบนี้เยอะ ส่วนพ่อก็ไม่รอด มีอาหารติดมาเหมือนกัน ก็ต้องโยนทิ้งไปตามระเบียบ
เราสองคนมองหน้ากัน และเข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังคิด ว่าพวกเราจะรอดมั้ยเนี่ย
แต่บรรยากาศนั้น ก็ถูกทำลายด้วยการที่ คนตรวจเรียกให้เดินเข้ามา
เราทำใจกล้าสู้ ตีหน้าซื่ออย่างไม่มีพิรุธ ใจก็เต้นตึกๆ ว่าเสียดายอ่ะ ถ้าจะทิ้ง
เลยคิดว่า ถ้าเขาเห็น ก็จะออกมายัดใส่ท้องให้หมดซะเลย
แต่…ในที่สุด สัญลักษณ์ที่เรารอคอยก็ปรากฏ ตี๋นายตรวจ ก็พัดมือในเชิงให้ผ่านไปได้
คิวถัดไปเป็นคิวของแฟน เราก็ยืนลุ้นอยู่ข้างใน ว่าจะรอดมั้ย
และแล้ว ด้วยความหน้าใสใจซื่อ ของพวกเราหรืออย่างไร ก็ผ่านมาได้ฉลุย
เรามองที่คอตัวเอง ว่าแอบใส่พระรอดมาหรือเปล่า
หรือใช้วิชาส่งกระแสจิต สร้างภาพลวงตาได้
เอาล่ะเริ่มจะนอกเรื่องแล้ว สรุปเป็นว่า ผ่านมาได้ก็ดีแล้ว
คงเป็นเพราะชิ้นมันไม่ใหญ่ น้ำไม่ไหล ไม่น่าเกลียดเกินไป
(แค่แซนวิช 2 ชิ้นใหญ่ + ขนมปัง 1 ก้อน + ปังกรอบใส้สัปะรด 5 ชิ้น + หมูหยองแท่ง 4 ชิ้น + แครอทหั่นยาวๆ 2 ก้าน + มะเขือเทศ 1 ลูก + นม 1กล่อง + น้ำ1ขวด แค่นั้นเอง – -!)
ไปกันเหอะ รีบๆออกจากบริเวณนี้ดีกว่า เดี๋ยวอาตี๋จะเปลี่ยนใจ
เข้ามาถึง ก็ต่อคิวนั่งรถรางก่อนเลย แต่นั่งวนกลับมาที่เดิมเฉยๆ
ไม่ได้ลงจุดอื่น จะได้เห็นวิวโดยรวมก่อน ข้างๆ มีแผนที่ให้หยิบ
และมีเข้าคิวถ่ายรูปคู่ กับมิกกี้ มินนี้เม้าส์ด้วย แต่คิวยาวมากๆ
เลยไม่ได้ถ่าย โน้ตไว้ในใจว่า วันพรุ่งนี้มาจะต้องถ่ายให้ได้
ด้านหน้าจะเป็น Main Street USA บรรยากาศเหมือนอยู่ยุโรปเลย ชอบมาก
มีแกลอรี่ ร้านขายของที่ตกแต่งสวยงาม คลาสสิก ถนนเป็นทางยาวมาก
ก่อนถึงวงเวียนมิคกี้ จะมีวงดนตรีเล่นให้ฟัง
เราเดินไปทางขวาจะเป็น Tomorrow Land เพื่อเล่นเครื่องเล่นกันก่อน
มีขับยานบินวนเรียกอะไรจำไม่ได้
จากนั้นไป Space Mountain จะนั่งรถไฟอวกาศ คล้ายๆรถไฟเหาะไม่สูง
ไม่กลับหัว แต่หวาดเสียวมาก เพราะด้านในมืด เหมือนบินอยู่ในอวกาศ
(เคยนั่งที่ Dream world คล้ายๆกัน แต่ที่ดิสนี่ย์ดูดี และหวาดเสียวกว่าหลายเท่า)
ต่อไป เดินไปโซนที่เราชอบที่สุด ถึงกับเข้าไปเล่นในวันแรก 4-5 รอบ
และวันที่สองอีก 2-3 รอบ คือส่วนของ Buzz Light Year Astro Blaster
ได้ขับยาน (ไม่ได้ขับหรอก ยานมันก็เลื่อนไปเรื่อยๆ) แต่จินตนาการว่าได้ขับ
แล้วใช้ปืนอินฟาเรด ช่วย Buzz ยิงเซิร์ก กับพวกลูกสมุน
แล้วมีคะแนนขึ้น สามารถแข่งกันได้ ว่าใครได้คะแนนมากกว่า
ออกมาอารมณ์ค้าง ว่าทำไมเราคะแนนน้อยกว่า ก็รีบไปต่อคิวเล่นต่ออีก ได้ถ่ายรูปกับ Buzz ด้วย
เดินออกมา เห็นคนรอถ่ายรูป กับซินเดอเรล่ากับเจ้าชาย เราเลยต่อคิวรอบ้าง
จริงๆก็ไม่ได้อินอะไร กับเรื่องนี้หรอก แต่เห็นแถวไม่ยาว
แต่พอระหว่างรอ เจ้าชายกับเจ้าหญิงก่อนจะถ่ายรูป
ก็มีสัมภาษณ์อะไรไม่รู้ ถามนู่นถามนี่ แต่เป็นเด็กนะที่คุยกันยาว
เราก็คิดว่า เขาเทคแคร์ดีขนาดนี้เลยหรอ ไม่ใช่มายืนแต่งคอสเพล รอถ่ายรูปอย่างเดียว
ใบหน้าเขายิ้มได้ตลอด ไม่เมื่อยบ้างหรอ สงสัยพอเสร็จงาน จะเมื่อยยิ้มแย่
เรานั่งเรือ ที่ใกล้บ้านทาร์ซาน จุคนได้มากทีเดียว น่าจะ 30 คนได้
มีไกด์พูดภาษาอังกฤษ เอ็นเตอร์เทนได้เก่งมาก เราฟังไม่ค่อยทันยังสนุกไปด้วยเลย
บรรยาย หยอกล้อ ปล่อยมุก ให้เด็กๆได้เฮฮา
สองข้างทาง ก็มีบรรยากาศ ที่น่าตื่นเต้น ถ้ำภูเขา ไฟประทุ น้ำตก
ช้าง(ปลอม)พ้นน้ำ ผ่านป่า สัตว์ป่าจำลอง โผล่มาทักทาย เสียงลูกเรือฮือฮา
วี๊ดว๊าย ขำขันกันไม่หยุด ล่องเรือหลบโขดหินด้วย สมจริงมากๆ
และอีกเยอะแยะมากมาย เราชอบโซนนี้มากๆ
จากนั้น ก็นั่งแพข้ามฟาก ไปบ้านทาร์ซาน ซึ่งเดินขึ้นต้นไม้ขนาดใหญ่
เราต้องรีบเดินกลับมา ที่ลานกว้างเพื่อชมขบวนพาเหรด ที่สุดแสนอลังการ กว่าที่ คิดไว้
เป็นขบวนแห่ขนาดใหญ่ ถ้าใครได้ดูการ์ตูนของดีสนี่ย์ทุกเรื่อง ก็จะได้พบกับตัวเป็นๆที่นี่
แนะนำว่า ใครยังไม่ได้ดูการ์ตูนของดีสนี่ย์ ก่อนไปดิสนี่ย์แลนด์ให้ไล่ดูให้หมด คุณจะได้อินกับการแสดง
ขบวนแห่ นำโดยช้างดัมโบ้ มิคกี้เม้าส์ มินนี่เม้าส์ และตัวการ์ตูนอีกเยอะแยะเต็มไปหมด
ทั้งแต่งคอสเพลย์เต้นรำมาตลอดทาง เพลงก็เพราะสุดๆ กระหึ่มโดนใจจริงๆ
เรารู้สึกขนลุกขนพอง เหมือนได้เข้าไปอยู่ในการ์ตูนที่เราเคยดู
ตลอดการแสดง แทบไม่ได้หุบยิ้ม คนที่ไม่ได้รู้จักกัน ก็หันมายิ้มให้
โบกไม้โบกมือให้เรา เหมือนเป็นคนรู้จัก มองไปทางไหน ก็มีแต่รอยยิ้ม
มันเหมือนกำลังฝันอยู่เลยจริงๆ (ใครจะหาว่าโอเว่อร์ก็ช่าง)
จากนั้น ไป Toy Story Land ที่เพิ่งเปิดใหม่
ได้เล่น Slinky Dog เป็นรถไฟวนรูปหมาสปริง
ต่อด้วยเล่น Autopia เล่นขับรถทางยาวมาก ที่ทูมอร์โรว์แลนด์
และเครื่องเล่นแบบอื่นๆอีก แต่ต้องเข้าแถวกันยาว
บรรยากาศมันช่างสบายอะไรอย่างนี้ อุณหภูมิประมาณ 12-16 องศาเซลเซียส
กลางวันก็มีแดด แต่อากาศเย็นสบาย ตกเย็นเริ่มเย็นลงมาก มีฝนตกปรอยๆ
ปิดท้ายเล็กน้อย กับม้าหมุนที่ Fantasy Land และตามด้วย Pooh Story
ที่พาเรานั่งรถรางเล็กๆ ดูเรื่องราวของหมีพูห์ ที่ทำมาเป็นฉากๆน่าัรัก น่าประทับใจที่สุด
ปิดท้ายด้วย Disney Fireworks พลุสุดอลังการ ที่ปราสาทเจ้าหญิงนิทรา
ที่มีคนรอดูจนแน่นสวนสนุก จนเราหาที่ยืนแทบไม่ได้ ต้องออกไปรอบนอก
การแสดงพลุชุดนี้ อลังการงานสร้างมาก ลุกโชติช่วงเหนือปราสาทเจ้าหญิงนิทรา
เปลี่ยนสีได้ เสียงเพลงกระตุ้นหัวใจกระหึ่มขึ้น รู้สึกคึกคัก จนไม่อยากออกไปสู่โลกภายนอกเลย
แต่แฟนเรียกสติกลับคืนมา ด้วยการชี้ไปที่ทางออก ซึ่งมีคนบางส่วนทยอยกันออกไป
จึงคิดว่า คนจำนวนมหาศาล ถ้าเดินออกไปพร้อมๆกัน จะเกิดอะไรขึ้น
จึงรีบออกไปก่อนที่คลื่นมนุษย์จะมากกว่านี้
เรามาเดินเล่นต่อที่ Temple Street แถว Jordan ก็ไม่มีอะไรที่ประทับใจนัก
เป็นตลาดนัดขายของผู้ชาย (ไม่ใช่ของลามกนะ ของใช้ทั่วไปแหละ กางเกง เสื้อผ้า เข็มขัด ของใช้ต่างๆ)
ซอยข้างๆมีภัตตาคารเล็กๆ คล้ายที่เยาวราช
เป็นอันจบทริปของวันนี้ ด้วยความสุขใจ แต่ลำบากเท้า
ค่าใช้จ่ายวันนี้
ค่ากิน 142.9 HKD
ค่าเดินทาง 75.6 HKD
รวม 218.5 HKD
รวมรีวิวเที่ยวมาเก๊า-ฮ่องกงทุกตอน
สวัสดีค่ะ GoNoGuide มีเป้าหมายที่จะให้ข้อมูลท่องเที่ยวและวีซ่า อย่างเต็มที่ในทุกเรื่องที่เรารู้ เพื่อนๆที่ต้องการสนับสนุนเรา สามารถทำได้ดังนี้
- เลือกบริการที่ต้องการสนับสนุนเรา
- GoNoGuide จะได้รับค่าคอมมิชชั่นเล็กๆน้อยๆ โดยที่เพื่อนๆไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม สำหรับลิงค์แนะนำโรงแรม เครื่องบิน และประกันต่างๆ
- กดติดตามช่อง Youtube และ Facebook GoNoGuide
ขอขอบคุณที่สละเวลาอ่านค่ะ