Penang-Kuala Lumpur ; Malaysia review 3-3

 

26 เม.ย. 2557 วันที่สามของการเดินทาง(ต่อ)

ต่อเนื่องจากตอนที่แล้ว มาถึงโรงแรม นอนพัก เตรียมออกผจญภัย ซึ่งต้องเปลี่ยนแผนการเที่ยวใหม่

วางมาแบบไหน ไม่ค่อยได้ตามแผนเท่าไหร่

เช้านี้ตั้งใจจะไป China Town แต่พอเดินมาถึงสถานีโมโนเรล

ทางเข้าซื้อตั๋วก็ไม่ได้ผิดสังเกตุอะไร  แต่พอซื้อตั๋วเดินขึ้นด้านบน พบว่ามีคนยืนออกันเต็มไปหมด

รถไฟก็จอดนิ่งอยู่  ปรากฏว่ารถเสีย นึกว่าจะซ่อมแป๊บเดียว เลยยืนรอ  รอไปรอมา

เริ่มมีคนเดินออก  รอไม่ไหวแล้ว  บ้างก็เดินมาถามทางเราอีก ว่าจะไปที่นั่น ที่นี่ไปยังไง

เห็นเราเป็นคนท้องถิ่นนักรึไงนะ  แต่ก็พอรู้เรื่องเลยชี้ที่แผนที่บอกทางเค้าไป  (จริงๆตัวเองยังเอาไม่รอดเลย)

จนกระทั่งพวกเราหมดความอดทน  เดินลงไปขอคืนตั๋ว  แต่ทางเจ้าหน้าที่ซึ่งมีแค่ 1 คนเท่านั้น

ก็มาเขียนใบอะไรไม่รู้ ไม่คืนเป็นเงิน แล้วเอาตั๋วคืนไป  ก็มาเข้าใจทีหลังว่า เป็นใบสำหรับใช้แลกตั๋วขึ้นโมโนเรลในครั้งอื่นๆ

ไม่ได้ระบุว่าจากไหนไปไหน แต่ต้องใช้ภายใน 5 วัน จึงตัดสินใจเดินไปเรื่อยๆ ไปทางสถานี Medan  Tuanku

---

แผนที่ตลาด Chow Kit

แต่ระหว่างทาง เห็นตลาดที่อยู่ใกล้สถานี Chow Kit เป็นตลาดสด ตลาดขายผลไม้  อาหาร  กับข้าว

นั่งกินก็ได้  ขนม  ของใช้  เสื้อผ้า  แทบจะมีทุกอย่าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นมะม่วง

ซึ่งถ้าเราซื้อไปก็ไม่รู้จะกินยังไง  ไม่มีมีดปอก  ถึงจะมีก็จะกินทำไมล่ะ  บ้านเราก็มี มะม่วงเยอะแยะ

แต่เห็นคึกคักดี  เดินเข้าไปดู เป็นที่ที่น่าสนใจดี จริงๆก็คล้ายๆกับ ตลาดตามต่างจังหวัดบ้านเราแหล่ะ

แต่มีอาหารที่คนในท้องถิ่นกินกันประจำ ส่วนด้านข้างๆเป็นห้างเล็กๆ  เก่าๆ มีซุปเปอร์มาเก็ต ราคาค่อนข้างถูก

แต่วางของเต็มไปหมด ระเกะระกะ  เหมือนห้างขายส่งเล็กๆ  แต่คนเยอะยังกับแจกฟรี

ซื้อกันทีเป็นโหลๆ  แถมใส่ถุงให้ด้วย (ที่อื่นต้องซื้อถุงใส่เอง)

เลยหมายตาไว้ว่า ขากลับเข้าโรงแรมตอนเย็น จะได้มาซื้อของที่นี่

ออกจากบริเวณนั้น เดินต่อไปทางสถานี Medan Tuanku  ก็เจอ Giant Supermarket อีก

เข้าไปสำรวจอีก แต่ไม่น่าสนใจมากนัก  จึงนั่งรถไฟสายโมโนเรล จากสถานี Medan Tuanku ไปลง Dang Wangi  เพื่อเปลี่ยนสายไปลงสถานี Pasar Seni

---

ใกล้ๆกับสถานี Pasar Seni มีทางเชื่อมไปสถานีของสาย KTM (Komutor) ชื่อสถานี Kuala Lumpur

ซึ่งเมื่อก่อนเป็นศูนย์กลางรถไฟคล้ายๆหัวลำโพงบ้านเรา  สถานีค่อนข้างดูเก่า มีทั้งรถไฟเก่าๆ

คล้ายๆกับรถไฟไทย แต่เขาดูดีกว่า  เดินเล่นไปเรื่อยจนฝนตก เลยเข้าไปหลบฝนใน Central Market

ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากสถานี Pasar Seni จริงๆแล้วเราไม่ได้ตั้งใจอยากมา Central Market สักเท่าไหร่

แต่จะมา China Town แต่ไหนๆก็อยู่ใกล้ๆกัน ก็มาเดินผ่านๆซักหน่อย  ก็เป็นอย่างที่คาดคือ

มีของขายแบบขายนักท่องเที่ยว ของฝากทั่วๆไป ไม่ได้สนใจมากนัก

---

พอฝนหยุดก็ออกไปด้านนอก เห็นร้านอาหารร้านนึง น่ากินมาก  อยู่ข้างๆกับ Central Market เลย

เดินเข้าไปตั้งใจจะกินเมนูที่เป็นถาดหลุมๆมีโรตีน กับแกง2อย่างที่ใส่หลุมในถาด  แบบที่เคยกินที่สิงคโปร์

พอเห็นแกงต่างๆ  ก็เลือกนั่น1 นี่1 โรตี1  เอาแบบนี้ 2 ชุด  กลายเป็นว่า ได้กับข้าวมาเป็นถ้วยๆใหญ่เลย อย่างละถ้วย

  โรตีแผ่นใหญ่ๆอีก 2 แผ่น ตายละสิ เท่าไหร่ล่ะเนี่ยะ  จะกินกันหมดหรอ   แต่ก็ค่อยๆละเลียดไปเรื่อย

โรตีแผ่นบางกรอบ ตอนร้อนๆจะอร่อยมาก แต่สักพักก็เย็นแล้วเหนียว

ส่วนแกงอร่อยมากๆ เหนียวๆ ข้นๆ ดูไม่ออกว่ามันคืออะไร  แต่เย็นชืดมากๆด้วย

---

อิ่มหนำสำราญ เดินต่อไปย่าน ไชน่าทาวน์ ที่อยู่ใกล้ๆ  แต่ไม่ค่อยเจอคนจีนเลย  มีแต่แขกขายของ

บรรยากาศคล้ายๆพัฒน์พงศ์  ของจีนๆก็ไม่เห็นมี  มีแต่เสาที่แสดงให้รู้ว่านี่ย่านจีนนะ  ไม่ค่อยปลื้มย่านนี้เท่าไหร่นัก

พอเห็นรถ Go KL ซึ่งเป็นรถเมลฟรี วิ่งรอบระแวกนั้นวงเล็กๆ  ก็เลยขึ้นไป

คิดว่าถ้าเห็นตรงไหนคึกคักน่าเดิน ก็ค่อยลง  แต่ดูแล้วไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่

เพราะมีแต่ตึก กับห้าง ชอบหาอะไรแบบชาวบ้านๆมากกว่า  แต่ก็ตัดสินใจลงป้าย Ain Arabia แล้วเดินเล่นไปเรื่อยๆ

---

แผนที่ Saturday Market

เวลานั้นก็เย็นมากแล้ว เลยกลับไปที่สถานี Medan Tuanku เพื่อไป Saturday Market

ที่วางแผนไว้ว่าต้องไปตอนเย็นเท่านั้น และเปิดเฉพาะวันเสาร์ เวลา 5โมง – 4 ทุ่ม

โดยจะมีการปิดถนนในซอย Lorong Tuanku Abdul Rahaman  ให้คนมาตั้งร้านขายของ

แถมถนนใหญ่ด้านข้าง ก็มีสารพัดห้าง  ทั้งห้างท้องถิ่น และห้างหรูๆ

วิธีไป Saturday Market คือ

เดินจากสถานี Medan Tuanku เดินไปถึงสี่แยก ก็ลงจากทางเชื่อม ลงทางซ้าย  ตรงไป

ข้ามถนนใหญ่  เห็นคนเยอะแยะ ล้นออกมาที่ถนน อยู่ไกลๆ  สังเกตุง่ายมาก

ดูคึกคักน่าเข้าไปสบทบดีจัง  เข้าไปซอยใดซอยหนึ่ง  เพราะมีแต่ของขายเต็มไปหมด

---

เดินกันจนเมื่อย กินกันจนอิ่มไปเลย (แต่ไม่ได้ซื้ออะไรกิน เพราะอิ่มมาแล้ว)

มีทั้ง ขนมหวาน เหนียวๆ ตัดเป็นชิ้นๆ สี่เหลี่ยม แบบนี้ขายกันเยอะมาก ชิ้นละ 1 ริงกิต

แต่เราไม่ชอบกินของหวานๆมากๆ สีสันก็สดเชียว  ของทอดนี่ยิ่งเยอะ มิน่าคนอ้วนกันเยอะ

ยิ่งใส่ชุดปกปิดหุ่นง่ายซะด้วย  กินกันเต็มที่เลยสินะ

ส่วนที่เห็นขายกันเยอะมากคือน้ำหวานที่ใส่โถใหญ่ๆ  ตักใส่แก้วขาย มี 1 ริงกิต กับ 2ริงกิต

แต่ไม่อยากแนะนำให้กินเลย  เพราะพวกเราหลงซื้อกินแล้ว ไม่อร่อยเลย เจือจางยังกับกินน้ำเปล่า

แถมดูท่าทางไม่สะอาดอีกด้วย  อีกอย่างเราสั่ง 1 แก้ว ดันให้แก้วใหญ่บิ๊ก 2 ริงกิตมาอีก

ทั้งๆที่ไม่ได้ถามเลยว่าจะเอาแก้วเล็กหรือใหญ่ เราก็ไม่รู้ว่ามีแก้วเล็กด้วย

เลยฝืนกินให้หมด แต่ก็เหมือนกินน้ำใส่น้ำแข็งในราคา 20 บาท ไม่คุ้มเลย

---

อีกอย่างที่เห็นขายกันเยอะมากคือ เสื้อผ้า ผ้าคลุมของสตรี ผ้าอะไรต่อมิอะไรเต็มไปหมด ขายผ้ากันเยอะมาก

โดยสรุปแล้ว ของขายเยอะ น่าสนใจ น่าเดิน ใครชอบแนวเดินตลาด  มาเลยไม่ผิดหวัง

ดีกว่าไปเดิน Central market หรือ China town ซะอีก

แต่เรื่องอาหารจะถูกปากใครรึป่าวต้องไปพิสูจน์กันเอง  สำหรับพวกเรา ไม่ได้ซื้ออะไรกลับมาเลย

เพราะไม่ชอบของทอด กับของหวาน  แต่ก็ได้เห็นของแปลกๆดี

ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว  ตลาดที่เราเดินนี้ก็อยู่ไม่ไกลจาก Chow Kit เลยใช้วิธีเดินกลับซะเลย

ระหว่างทางก็ผ่านห้างที่ว่าอยู่ข้างๆตลาด Chow Kit ที่ตั้งใจว่าจะแวะขากลับโรงแรมตอนเย็น

เพื่อซื้อน้ำ และอาหาร ผลไม้  เลยได้ น้ำขวดใหญ่ 2 ขวด ที่ถูกมากๆ

เพราะปกติที่อื่นขาย ขวดใหญ่1.5ลิตร ขวดละ 2 ริงกิต  แต่ที่นี่ 2ขวด ยังไม่ถึง 2 ริงกิตเลย

องุ่น กับส้มที่ลด30% ตกลูกละ 5 บาทเอง  เพราะมากินอาหารที่นี่

แทบจะไม่ได้กินผักเลย  กับข้าวมีแต่แกงกับไก่ และปลา ไม่มีผัดผักเลย

จากนั้นกลับเข้าโรงแรม พักผ่อน ประมาณ 2 ทุ่ม

---

 

รวมรีวิวเที่ยวมาเลเซียทุกตอน

---