Floating Garden Observatory สวนลอยฟ้า
Floating Garden Observatory เป็นดาดฟ้าที่สามารถขึ้นไปชมวิวสูง 173 เมตร ซึ่งสูงกว่า Tsutenkaku Tower(สูง 103 ม.) (ซึเทนคะคุที่คนไปลูบเท้า Billiken กันนั่นแหล่ะค่ะ)
ในจินตนาการก่อนไปนะ ก็จะนึกถึงสวน มีต้นไม้ ดอกไม้ มีที่นั่งตากอากาศ แต่จะเป็นอย่างนั้นจริงๆหรือไม่ต้องติดตามในโพสนี้ค่ะ
บ้า ผสมโง่
ก่อนอื่นจะเล่าความเซ่อ ความโง่ และความบ้าของเราให้ฟัง(อ่าน)ก่อนค่ะ รู้แล้วก็เหยียบไว้อย่าไปเม้าท์ให้ใครรู้เชียวนะคะ อายมาก!(นี่ขนาดอายแล้วนะ)
เรื่องมันมีอยู่ว่า เวลาเราจะไปในแต่ละที่ก็จะดูจากแผนที่ แล้วก็คิดเองเออเองว่ามันใกล้แค่นี้เอง มันต้องเตินไปทางนั้นทางนี้ โดยที่ลืมมองป้าย หรือมองคน หรือใช้สามัญสำนึก (คือปกติไม่ได้โง่ขนาดนั้นนะ แต่ขอแก้ตัวล่วงหน้าว่า ก็เก๊าไม่ค่อยได้กินอะไรอ่ะวันนี้ เลยสมองฝ่อชั่วขณะ)
ทีนี้เรามาดูแผนที่ด้านล่างนี้กันก่อนค่ะ
จะเห็นว่า Floating Garden Observatory มันอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสถานีรถไฟใช่มั้ยคะ เรามองจากแผนที่ดังนั้นปั๊บ… อ๋อ….มันต้องเดินไปตามทาง แล้วอ้อมขึ้นไปเรื่อยๆสินะ ตึกมันสูงและทรงมันก็เด่นอยู่แล้ว คงหาไม่ยากหรอก (ดูจากในแผนที่แล้วมันไม่มีทางให้เดินข้ามอ่ะ)
คิดได้ดังนั้น ก็เดินขึ้นจากทางรถไฟใต้ดิน เดินไปตามถนน อ่า…ใช่ค่ะ เดินค่ะ อ่านไม่ผิดนะคะ (ตามเส้นสีดำเลยค่ะ) ระหว่างที่เดินบอกเลยว่ามองไม่เห็นตึกรูปทรงแบบนี้เลยซักแว๊บนะคะ (ดูรูปข้างล่างค่ะ)
แฟนก็เอะใจว่า มันไม่เห็นมีคนเดินเยอะๆเลย แล้วใต้ดินเขาไม่มีทางเชื่อมไปถึงหรอ เราก็บอกว่า เออน่า… ตามมาเงียบๆเหอะ (ทริปนี้เราหาข้อมูล แฟนจะไม่ยุ่งเรื่องข้อมูลเลย เดินตามอย่างเดียว คือสสับกันในแต่ละทริป)
แต่ก็มั่นใจนะว่ามาถูกทางแน่ พอเดินไปเรื่อยๆจนเจอสะพานที่ทั้งรถและคนเดินข้ามได้ ไอ้ข้างล่างก็ไม่ใช่คลองหรือแม่น้ำนะคะ แต่เป็นพื้นที่โล่งๆ ใต้ดินก็คงเป็นพวกรางรถไฟพันกันเต็มไปหมด มองลงไปแล้วก็คุยกับแฟนว่า เนี่ยทำไมไม่ทำสะพานลอยเชื่อมจากรถไฟฟ้า ไปที่ตึกซะเลย คนทำงานตั้งเยอะ จะเดินอ้อมทำ…..มัยยย (ทำเสียงหนัก…แต่ลงท้ายด้วยมัยเสียงเริ่มอ่อย)
พอสิ้นเสียงตัวเองปุ๊บ เฮ้ย…หรือว่า…ไม่นะ หันไปมองหน้าแฟนที่หน้ากระตุก(แบบในการ์ตูน) เอ่อ…หรือว่ามันอาจจะไม่มีสะพานลอยเชื่อม แต่มันอาจจะ…มี…ทาง…ลอด…ใต้ดิน…ก็…ได้…นะ (เสียงเริ่มอ่อยกว่าเดิมอีก)
เสียงฮึ่มๆดังอยู่ข้างๆ …ก็บอกแล้ว ไม่เชื่อ เห็นมั่นใจนักก็เลยไม่อยากขัด
แต่ก็เดินกันมาครึ่งทางแล้ว ไหนๆก็ไหนๆแล้ว จะเดินกลับก็ไม่ใช่ คิดซะว่าเดินเที่ยวละกัน (แต่พื้นที่แถวนั้นไม่ได้มีอะไรน่าดูเลย) แถมสิ่งที่กลัวก็เป็นจริงค่ะ มันคือ…ฝนตกค่ะ…ไม่น้าาาา
รู้ใช่มั้ยคะ เวลาฝนตกมันจะหนาวมาก เอาร่มมาก็กันไม่มิดหรอกค่ะ เพราะลมมันแรง จากเดิน กลายเป็นจ้ำ และจากจ้ำอ้าวก็กลายเป็นวิ่งอ้าวค่ะ รูปไม่มีเพราะฝนตก(กลัวกล้องเจ๊ง)
และแล้วพวกเราก็มาถึงใต้ตึก Floating Garden Observatory แล้วก็เห็นคนเดินกันมาจากไหนไม่รู้เยอะแยะ ทำให้ชัวร์แล้วว่ามันต้องมีทางลอดใต้ดิน สำนึกผิดมาก
รูปด้านบนนี้เป็นแผนที่อยู่ในสถานีรถไฟ คิดดูนะ…ขนาดดูแผนที่แล้ว แต่ตายังบอดไม่เห็นทางเชื่อมอีก โง่ผสมบ้าเลยแหละ
ขึ้นผิดตึกอีก
พอมาถึงยังไม่หายเซ่อนะ หาทางเข้าไม่ได้อีก ไม่รู้ขึ้นทางไหน เดินวนอยู่ตั้งนาน เห็นคนขึ้นลิฟท์ก็ลองขึ้นไปมั่ง กดลิฟท์ขึ้นไปชั้นอะไรก็ไม่รู้เป็นพวกสำนักงาน แต่ชั้นนั้นมันเป็นทางเชื่อมระหว่างตึกสองตึก เป็นชั้นที่เราสามารถยืนบนสะพานแล้วดูวิวได้ด้วยค่ะ
ทีนี้พอมีหนุ่มออฟฟิศเดินผ่านมาพอดี เลยถามซะเลย ปรากฏว่าเขาไม่รู้ (ฮะ…ไม่รู้ได้ไง) แต่เขาก็พูดประมาณว่าเดี๋ยววิ่งไปถามเพื่อนให้ เราก็เห็นว่ามันไม่จำเป็นขนาดนั้น เดี๋ยวหาเองได้ เลยบอกไม่ต้องก็ได้ เกรงใจ (จะวิ่งไปถามคนอื่นให้เลยหรอ ลงทุนไปป่าว)
เลยตัดสินใจลงมายืนดูว่าใครมีแววเป็นนักท่องเที่ยวบ้าง แล้วก็เดินตามเขาไป วิธีนี้ได้ผลแฮะ ปรากฏว่าคนที่เราเดินตามก็ไม่รู้ทางเหมือนกัน…ง่ะ…
แต่บังเอิญว่า จังหวะนั้นมองเห็นป้ายพอดี แล้วก็กดลิฟท์ขึ้นไปชั้น35(ตามป้ายบอก)
แล้วก็มาถึงด้านหน้าทางเข้าจนได้ค่ะ เฮ้อ….กว่าจะมาถึง จริงๆต้องบอกก่อนนะว่า มันมาไม่ยากหรอกค่ะที่นี่น่ะ เดี๋ยวคนอ่านจะกลัวว่ามันยากเลยไม่อยากมา มันไม่ยากเลยค่ะ แต่สงสัยจะขาดสารอาหาร และเหนื่อยมากก็เลยเบลอๆ(แก้ตัวน้ำขุ่นๆได้อีก)
ขึ้นบันไดเลื่อนสูงจนหวาดเสียว
บรรยากาศไร้ผู้คนมาก ไม่คิดว่าจะน้อยอย่างนี้ เดินตามป้ายไปเรื่อยๆจนถึงเคาร์เตอร์จำหน่ายตั๋ว ซึ่งดูหรูหรามาก
เมื่อซื้อบัตร(800เยน) /แลกบัตรฟรี(ใช้Osaka Amazing Pass) เรียบร้อยแล้ว ก็ขึ้นบันไดเลื่อนไปอีก จนถึงชั้น39 ชั้นนี้ก็ไม่มีอะไรนะ มีแต่บันไดเลื่อนสูงๆ
บันไดเลื่อนที่ขึ้นจากชั้น39 ไปชั้น40 มันสูงมาก สูงจนหวาดเสียวเลย เพราะมองลงไปมันเป็นกระจกใสๆ เห็นเมืองด้วยค่ะ
ชั้น40
พอขึ้นมาถึงชั้น40 ชั้นนี้ก็จะเป็นคอฟฟี่ช็อป มีที่นั่งชมวิวเยอะแยะเลยค่ะ(แต่ไม่มีที่ว่างสำหรับเราเลย) ธีมของที่นี่ค่อนข้างดูหรูหราค่ะ
แถมยังมีที่นั่งแบ่งเป็นคอกส่วนตัว หันหน้าออกชมวิว หรือเอาไว้สวีทกับแฟนก็ได้ค่ะ
แต่เราไม่มีเวลามานั่งสวีทแล้วค่ะ ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว ฝนก็ตกเกาะหน้าต่างพรำๆ เรารีบไปชั้นดาดฟ้าชม สวนลอยฟ้า ข้างบนกันดีกว่า มีที่โรแมนติกกว่านี้ตั้งเยอะ เพราะเห็นรูปที่ป้ายโชว์ไว้ จินตนาการไว้เลยว่าจะต้องเป็นแบบนั้น
ชั้นดาดฟ้า
พอขึ้นมาถึงชั้นดาดฟ้าแล้ว แต่ฝนก็ยังตกพรำๆอยู่ มีรปภ2คน คอยห้ามนักท่องเที่ยวไม่ให้เอาร่มออกไปกางด้วยค่ะ ทีแรกก็คิดว่าเขากลัวว่าจะเสียทัศนียภาพหรือไง ก็อดด่าในใจไม่ได้ว่า เห็นฝนตกแบบนี้ยังจะห้ามเอาร่มกางอีก แล้วจะดูยังไงล่ะ แบบนี้ก็เปียกแย่สิ
ทันใดนั้นก็มีชายหญิงวัยรุ่นคู่นึง วิ่งเข้ามาอย่างหน้าตาตื่น สองมือปิดหัวเพื่อกันฝน พอเข้ามาถึงในร่มก็หอบแฮ่กๆ ไอ้เราก็คิดในใจว่า อะไรกัน ฝนตกแค่นี้ทำไมต้องวิ่งด้วย ลูกคุณหนูกันจริงนะ
นี่ต้องดูอย่างเรานี่ แล้วก็จัดแจงเอาผ้าคลุมกล้องเพื่อกันฝน แล้วเดินออกไปอย่างสง่างาม เดินทอดน่องชมวิวอย่างไม่รีบเร่ง
แชะ1 แสงก็ไม่ค่อยมี ภาพก็มัวมาก ไม่สวยเลย
แชะ2 เริ่มเดินเร็วขึ้น เดินไปแชะไป ภาพทุเรศมาก
แชะ3 ลมเริ่มกระหน่ำ เม็ดฝนเริ่มหนาขึ้น
แชะ4 เอาวะ ขอภาพดีๆ ที่ดูได้ซักภาพเหอะ แต่ภาพออกมาแล้วเหมือนกล้องเสีย ละอองขาวๆเต็มไปหมด (รูปล่าง)
สรุปแล้วได้แค่ 4 ภาพ จากที่ตั้งใจจะมาถ่ายแบบเต็มที่เลย
ว่าแต่ไหนดาดฟ้าโรแมนติกๆ ที่สวยๆ ที่เค้าเอากุญแจมาคล้องกันน่ะอยู่ไหน
อ๊ะ…นี่ไง…คงเป็นอันนี่ล่ะมั๊ง แต่เอ๊…มันแคบกว่าที่คิดเยอะเลยนะ มีแค่นี้เองหรอ แหมอุตส่าห์จินตนาการไว้ซะหรูเลย
จริงๆต้องเดินลงบันไดไปได้นะคะ แต่สถานการณ์ฝนกระหน่ำแบบนั้น คงไม่ต้องลงทุนขนาดนั้นมั๊ง
หลังจากนั้นก็วิ่งอย่างเดียวเลยค่ะ ไม่ไหวแล้ว ลมแรงมาก ตัวจะปลิวเลย(แหม…พูดเหมือนตัวเองผอมนักแหละ) ไม่กล้าชะโงกหน้ามองวิวใกล้ๆรั้วเลยล่ะ กลัวปลิวตกลงไป หวาดเสียวมาก
แม้ว่าฝนจะไม่ได้ตกหนักเม็ดใหญ่ๆ แบบซู่ๆ หนักๆ มันตกแบบแค่พรำๆ แต่รู้สึกเลยว่าอยู่ไม่ได้แล้ว อีกอย่างกล้องจะเจ๊งเอาได้
เราใช้เวลาในการชมดาดฟ้า(เรียกว่าวิ่งผ่านมากกว่านะ)ประมาณ 1-2 นาที เทียบกับการเดินอ้อม กว่าจะมาถึงมากว่า 15นาที นี่มันอะไรกัน
ก็เลยยืนรอที่รปภ.ซักครู่ เผื่อฝนจะหยุดหรือเบาลง เห็นนักท่องเที่ยวผู้หญิง3คน กำลังจะกางร่ม รปภ.ก็เลยรีบเข้าไปห้าม นักท่องเที่ยวก็งง ฝนตกแบบนี้ไม่ให้กางร่มจะออกไปดูยังไง รปภ.ก็ทำนิ้วมือกากบาท ทำท่าห้ามอย่างซีเรียส
นักท่องเที่ยวหญิงคนกลุ่มนั้นก็เลยไม่ออกไป แต่มีคนนึงยื่นกล้องถ่ายรูปให้รปภ. ให้ช่วยถ่ายรูปให้หน่อย รปภ.ก็ทำมือกากบาทอีก บอกประมาณว่า อยู่ในหน้าที่ห้ามทำอย่างอื่น
เรื่องขำยังไม่หมด นักท่องเที่ยวหญิงคนนั้นก็เลยหันไปทำหน้ายั่วยวนให้กับรปภ.อีกคนนึง ที่ยืนข้างๆกัน แล้วก็ยื่นกล้องให้ บอกว่างั้นคุณล่ะถ่ายให้หน่อยได้มั้ย (ทำหน้าไร้เดียงสามาก)
ที่ขำเพราะว่า ก็รปภ.คนนึงบอกว่าอยู่ในหน้าที่ห้ามทำอย่างอื่น แล้วอีกคนนึงเขาไม่ได้อยู่ในหน้าที่รึไงคะ
พอถูกปฏิเสธกลับมาก็เสียเซ๊วสาวมั่นเลยสิ ขำรอบที่สามคือ เห็นพวกเธอออกไปยืนกลางฝน แล้วให้แต่ละคนถ่ายให้กันและกัน ที่ขำคือ เธอก้าวเท้าออกไปจากหลังคาแค่2-3ก้าว แล้วให้เพื่อนถ่ายรูปให้แบบเร็วๆ แล้วรีบกระโดดกลับเข้าร่ม นับแล้วไม่น่าจะเกิน 3 วินาที แล้วก็กลับลงไป 1-2 นาทีของเราก็เลยดูมีค่าขึ้นมาทันทีเลยค่ะ
ส่วนเราก็เพิ่งจะมาคิดได้ว่า ที่เขาห้ามกางร่มก็เพราะกลัวร่มจะปลิวต่างหาก เดี๋ยวไปตกใส่หัวใครก็ไม่รู้ ต่อให้ฝนไม่ตก เขาก็ห้ามกางร่มอยู่ดีค่ะ เขาใส่ใจเรื่องรายละเอียดแบบนี้จริงๆ ไม่ทันคิดถึงเรื่องนี้เลย
ขากลับ
พอเห็นว่าฝนไม่มีทีท่าจะลดลงเลย ลมก็แรงขึ้น ก็คิดว่ากลับกันดีกว่า กลับลงมาสำรวจชั้น 40 ต่ออีกนิดนึง เห็นมีมุมที่สั่นกระดิ่งขอพร เสี่ยงเซียมซี เรื่องความรักด้วยนะคะ เป็นมุมเล็กๆน่ารักๆ
ขากลับก็เดินตามคนอื่นเขาไป จนมาเจอภาพบาดตาบาดใจ ..ฮือๆ… และภาพด้านล่างนี้ คือทางเชื่อมใต้ดิน ที่เห็นทีไร ก็อดขายขี้หน้าไม่ได้ทุกทีค่ะ รู้สึกเสียความมั่นใจ รู้สึกว่าตัวเองทั้งโง่ทั้งบ้าไปเลย
ว่าแต่ทางเชื่อมนี่ทำให้ดูดีกว่านี้หน่อยไม่ได้หรอ แต่ดีนะที่สว่างมาก และไม่มีกลิ่น(ปัสสาวะ) ถ้ามืดแล้วก็ไร้ผู้คนนี่ทำให้นึกถึงเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ ตอน ภาคีนกฟีนิกซ์ ที่มีผู้เสพวิญญาณจะจุมพิตดั๊ดลี่ย์ในอุโมงเลยนะ
สรุป สวนลอยฟ้า Floating Garden Observatory ควรเสียเวลามามั้ย?
- ถ้าฝนไม่ตกก็ควรมาอย่างยิ่งเลยค่ะ (ถ้าใช้พาสนะ) แต่ถ้าฝนตกก็อย่ามาเลย
- ค่าเข้า 800 เยน (กรณีไม่มีพาส) ไม่คุ้มหรอกค่ะ ไปดูวิวที่ Cosmo Tower ก็ได้ ถูกกว่า
- ควรมาตอนเย็นๆเพื่อถ่ายรูปตอนมีแสง แล้วรอให้ฟ้ามืด แล้วถ่ายตอนกลางคืนด้วยค่ะ(สวยกว่ากลางวัน)
- ควรพกเสื้อกันฝนมาด้วยเผื่อฝนตกค่ะ (เพราะเขาไม่ให้กางร่ม)
- ที่นี่เปิด 10โมงเช้า ถึง 4ทุ่มครึ่ง มากลางคืนก็ได้ค่ะโรแมนติกดี(ย้ำว่าถ้าฝนไม่ตก)
- ให้คะแนนความประทับใจ3/10 (ก็ฝนตกอ่ะ) ถ้าตัดเรื่องฝนตกออกไปล่ะก็ ให้ 8/10
- ปล.อย่าลืมล่ะว่ามีทางเชื่อมใต้ดิน ไม่ต้องเดินอ้อมนะ(ใครเขาจะโง่แบบแกล่ะ)
สไลด์โชว์ สวนลอยฟ้า
คลิปรีวิว Floating Garden
แผนที่สถานที่ที่ได้ไปมาในโอซาก้า ด้วยบัตร Osaka Amazing Pass(ชนิด2วัน 3000 เยน) สีแดงคือวันแรก สีน้ำเงินคือวันที่สอง
ติดตาม GoNoGuide ผ่าน Facebook
สวัสดีค่ะ GoNoGuide มีเป้าหมายที่จะให้ข้อมูลท่องเที่ยวและวีซ่า อย่างเต็มที่ในทุกเรื่องที่เรารู้ เพื่อนๆที่ต้องการสนับสนุนเรา สามารถทำได้ดังนี้
- เลือกบริการที่ต้องการสนับสนุนเรา
- GoNoGuide จะได้รับค่าคอมมิชชั่นเล็กๆน้อยๆ โดยที่เพื่อนๆไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม สำหรับลิงค์แนะนำโรงแรม เครื่องบิน และประกันต่างๆ
- กดติดตามช่อง Youtube และ Facebook GoNoGuide
ขอขอบคุณที่สละเวลาอ่านค่ะ