โควิดมา พาเปลี่ยนวิถีเที่ยว

บทความนี้อยากสรุปเรื่องราวของ GoNoGuide ตั้งแต่ก่อนโควิด จนกระทั่งมีโควิด และสุดท้าย จบโควิด ที่ทำให้ชีวิตเปลี่ยน ความคิดเปลี่ยน แต่แกนหลักความเป็นตัวเองยังอยู่เหนียวแน่น คือการได้พัฒนาตัวเอง เรียนรู้ที่จะมีความสุขกับชีวิต และแบ่งปันโดยไม่เดือดร้อนตัวเอง ที่ผ่านมาได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง จนกระทั่งวันนี้คิดว่าอยากบันทึกไว้ กลัว

ว่าผ่านไปนานๆอาจจะลืมอีก

เริ่มเที่ยว

GoNoGuide เริ่มต้นจากการที่อยากเก็บความทรงจำ เรื่องราว เรื่องเที่ยว ของจี๊กับอ๊อบ เพราะเราต้องใช้เงินในการเที่ยว เราก็ไม่อยากให้มันเสียเปล่า

จี๊กับอ๊อบ ก่อนที่จะเริ่มได้เที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเอง ก็มีอุปสรรคหลายอย่างที่ทำให้ไม่ได้ไปไหนเลย แต่หลังจากปลดภาระบางอย่างได้บ้าง ก็เริ่มเก็บเงิน และวางแผนเที่ยวต่างประเทศ โดยเริ่มจากที่ใกล้ๆก่อน

มาเก๊า-ฮ่องกง

ปี 2012 ออกเที่ยวต่างประเทศเองครั้งแรก คือ มาเก๊า-ฮ่องกง 7 วัน ตั้งแต่ทริปนี้ ก็เริ่มคิดว่า การเที่ยวของพวกเรามันไม่เหมือนอย่างที่คนอื่นรีวิวเลย เราไม่ชอบเลยกับการที่ต้องทำตามที่คนอื่นรีวิวให้ทำแบบนั้น ต้องไปตรงนี้ ไม่ใช่คนรีวิวไม่ดีนะ มีแต่คนเก่งๆรีวิวดีๆ ภาพสวยๆ แต่พวกเราเองนั่นแหล่ะที่รู้สึกว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เราชอบ

สิงคโปร์

ปีเดียวกัน ก็ไปต่อสิงคโปร์ 5 วัน ทริปนี้แหล่ะ ที่ทำให้ค้นพบตัวเองอีกทางในเรื่องการท่องเที่ยว ว่ามันไม่ใช่การไปที่ที่ทัวร์ไป ที่ที่หนังสือแนะนำให้ไป คือมันก็ต้องไปแหล่ะ ถ้าไปครั้งแรก แต่ไปแล้วมันไม่แตะหัวใจอ่ะ แต่สิ่งที่แตะหัวใจคือการได้เห็นวิธีชีวิตคนในท้องถิ่น มันเหมือนเปิดโลกเลย อยากมาลองใช้ชีวิตต่างประเทศบ้าง แต่ก็มืดแปดด้าน จะทำได้ยังไง แพงจะตาย

โตเกียว

ปี 2013 เที่ยวญี่ปุ่น (โตเกียว) 12 วัน คงเหมือนคนอื่นๆแหล่ะ ประเทศขึ้นหิ้ง ใครๆก็อยากๆไปเนอะ สิ่งที่ได้ในทริปนี้คือ ความเติมเต็มจิตใจ รู้สึกไม่น้อยหน้าคนอื่นแล้ว ได้ทำสิ่งที่ฝัน แต่ด้วยราคาที่ตอนนั้นรู้สึกแพงมากๆ ใช้เงินเก็บไปเยอะ

ปีนัง-กัวลาลัมเปอร์

ปี 2015 เที่ยวมาเลเซีย 5 วัน เพราะใช้เงินไปเยอะในทริปโตเกียว ก็เลยเที่ยวเบาๆที่ปีนัง และกัวลาลัมเปอร์ ทริปนี้ตั้งใจไว้ว่าเหมือนไปต่างจังหวัดเล่นๆ แก้เบื่อ แต่ก็เป็นที่ที่ตื่นเต้นไม่น้อยเลย แต่ด้วยความที่จำนวนวันมันน้อยมาก ทุกอย่างรีบเร่งไปหมด เลยจำอะไรไม่ค่อยได้

ตั้งแต่มาเก๊า-ฮ่องกง มาเลเซีย โตเกียว มาเลเซีย พวกเราเขียนบันทึกทุกวัน แต่ยังไม่ได้ถ่ายวิดีโอ เพราะยุคนั้นยังไม่ฮิต และถ่ายไม่เป็น กล้องวิดีโอก็แพง

โอซาก้า

ในปีเดียวกัน ทริปญี่ปุ่นก็ตามมา (โอซาก้า) 7 วัน ทริปนี้เป็นครั้งแรกที่เริ่มถ่ายวิดีโอ โดยที่ไม่รู้ว่าจะตัดต่อยังไง ไม่พูด ไม่จา ไม่รู้จะถ่ายยังไง กล้องวิดีโอก็ซื้อมาแบบของเด็กเล่น โนเนม พันกว่าบาท นึกย้อนไปว่าทำไมถึงคิดถ่ายวิดีโอ ทั้งที่ถ่ายไปทำไมก็ไม่รู้ ก็คิดว่าฝึกถ่ายไว้ก็ไม่เสียหาย แต่ก็ได้แค่ฝึก เพราะมันเสียหมด ดูแทบไม่ได้ สั่นมาก แต่ทริปนี้ก็เป็นทริปที่สนุกมาก และค้นพบตัวเองหลายอย่างว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร

จากข้างบนจะเห็นว่า ไม่ได้เที่ยวเยอะเลย เพราะไม่ค่อยมีเงิน และยุคนั้นก็ไม่ได้เที่ยวง่ายเหมือนปัจจุบัน เที่ยวทุกที่ไม่เคยซื้อซิม ไม่มีสมาร์ทโฟน แถมพวกเราเป็นคนขี้กลัว กังวลทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องเงิน ถ้าไม่ห่วงเรื่องเงิน ก็แค่ใช้เงินแก้ปัญหา มันก็ง่ายขึ้นเยอะ

เที่ยวยุโรป (เยอรมนี ออสเตรีย ฮังการี)

ปี 2016 เริ่มเที่ยวยุโรปเป็นครั้งแรก เที่ยวเยอรมนี ออสเตรีย ฮังการี 30 วัน เป็นเส้นทางยอดฮิตสำหรับคนที่คิดไปยุโรปครั้งแรกๆ ทริปนี้จริงๆอยากให้แม่ไปด้วย แต่ไปกันแค่ 15 วัน แต่สุดท้ายแม่ก็ไม่สู้ เราเลยเอาเงินส่วนที่จะจ่ายของแม่โปะวันไปเพิ่มซะเลยกลายเป็น 30 วัน

เที่ยวยุโรปครั้งแรกนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในชีวิตเลย กว่าจะตัดสินใจได้ กว่าจะเก็บเงินได้ ก็ไม่ง่ายเลย ทริปนี้ถือเป็นทริปที่เปลี่ยนชีวิตทริปหนึ่ง เพราะเหมือนเราหลุดมาอีกโลกหนึ่ง กลัวก็กลัว พูดภาษาอังกฤษก็ไม่ได้ งูๆปลาๆแบะๆไปเรื่อย แต่นึกย้อนกลับไป ก็อดเสียดายไม่ได้ว่าทำไมเราไม่ไปให้เร็วกว่านี้ น่าจะไปตั้งนานแล้ว

ทริปนี้ เป็นทริปที่ใช้เงินเยอะที่สุด เพราะประสบการณ์น้อย ย้อนมองกลับไป เราสามารถใช้เงินน้อยกว่านี้ได้อีกมาก แต่นี่แหล่ะ ชีวิตมันไม่ได้เพอร์เฟ็กต์ มันต้องโง่ก่อนฉลาด

เที่ยวยุโรป (เช็ก เยอรมนี)

ปี 2017 ติดใจยุโรปมากๆ เลยต่อด้วย เช็ก เยอรมนี 41 วัน ทริปนี้ตั้งใจแบบมากถึงมากทีสุดในการทำทั้งวางแผน ทำข้อมูล ถ่ายวิดีโอ ฯลฯ ทำให้เป็นทริปที่เหนื่อย และลดความสนุกลงไปเยอะมากๆ ทำให้เรียนรู้ถึงการรักษาสมดุล มากไปก็เหนื่อย น้อยไปก็ยังทำใจที่จะไปน้อยๆไม่ได้ ถ่ายวิดีโอน้อยๆก็กลัวว่าจะลืม อยากเก็บไว้ดูให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่มันก็ทำให้เหนื่อยมากๆ

ทริปที่ผ่านมาข้างต้น สอนให้เราสองคนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ปรับจูนเข้าหากัน แม้ว่ามันจะค่อนข้างลำบาก แม้ว่าจะรู้จักกันอยู่ด้วยกันมามากกว่าสิบปี แต่เมื่อออกเที่ยว ความรู้สึกบางอย่างก็โผล่ออกมา ต่างไปจากที่อยู่บ้าน ต้องแก้ปัญหา ต้องตัดสินใจ ต้องมีความเห็นที่ต่างกัน แต่ผ่านมาถึงตรงนี้ได้ ถือว่าคุ้มมาก

ตุรกี

ปี 2018 เที่ยวตุรกี 30 วัน เพราะเห็นว่าค่าใช้จ่ายน้อยกว่าเที่ยวยุโรป แต่มีความเป็นกึ่งยุโรปนิดๆ จริงๆแรกๆก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากกับประเทศนี้ แค่เอาตัวรอดให้ได้ก็พอ แต่เอาเข้าจริงๆกลับชอบประเทศนี้มากๆ คิดว่าอยากกลับไปอีกหลายๆครั้ง ค่าใช้จ่ายก็ไม่แพง ข้อขัดใจที่จำได้คือ กลิ่นบุหรี่ทุกที่ แม้แต่ในที่พัก รถบัส และถนนหนทาง ผู้คนที่อาจจะมีวัฒนธรรมที่ต่างจากเรา เข้ามาขอถ่ายรูป ชวนเข้าบ้าน ขอให้ถ่ายรูปตัวเขา (โดยไม่มีเราในรูป งงมั้ย?) คุยเก่ง(แต่คุยกันไม่รู้เรื่อง) รู้สึกค่อนข้างเหนื่อยสำหรับคน introvert อย่างพวกเรา

โตเกียว

ปี 2019 กลับไปเที่ยวโตเกียวอีกครั้ง 15 วัน ไม่น่าเชื่อว่าโตเกียวเมื่อ 6 ปีที่แล้ว กับโตเกียว 6 ปีให้หลัง จะแตกต่างกันมาก ไม่ใช่เพราะโตเกียวเปลี่ยน แต่เพราะพวกเราที่เปลี่ยน เราจำอะไรกับการเที่ยวได้มากขึ้น คือก่อนหน้านี้จะลืมๆเพราะมัวแต่กลัว งงๆ และตื่นเต้น แต่พอมีประสบการณ์เที่ยวมากขึ้น ความผ่อนคลายมันก็มากขึ้น มันไม่ต้องตามแบบแผน มันไปตามใจตัวเองมากขึ้น

รัสเซีย

ปี 2019 ไปต่อที่รัสเซีย 30 วัน โชคดีมากๆที่รีบไปเพราะหลังจากนั้นก็มีโควิดเกิดขึ้น ต่อด้วยสงครามอีก ไม่งั้นคงไม่ได้ไปรัสเซียเร็วๆนี้แน่ ทริปนี้ก็เป็นอีกทริปนึงที่พวกเรามีความสุขมากๆ เพราะวางแผนแบบเอาแต่ใจมาก จิ้มเอง คิดเอง ไม่สนใจรีวิวอะไรเลย ไม่ได้วางแผนอะไรมาก ขอแค่จองที่พักล่วงหน้าไว้ให้ครบ ส่วนที่เที่ยวก็ไม่ซีเรียสว่าจะไปครบมั้ย เยอะมั้ย มันเหมือนถูกปลดปล่อยจากกรอบบางอย่าง

ทุกๆทริปความคิดจะเปลี่ยนไปทุกทริป เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น เอนจอย ปล่อยวาง ไม่ยึดติดว่าจะต้องมีแผน ตามแผน ต้องเข้าให้ได้ ต้องไปให้ได้ ปล่อยให้เป็นไปตามสถานการณ์ มันไม่ได้เก่งขึ้นหรอก แค่เรารู้ตัวเองมากขึ้นว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร แต่มันก็เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะถูกใจเราไปทุกอย่าง เราแค่ปล่อยให้มันเป็น และรับรู้ว่า อย่างนี้ก็ได้หรอ เออ ได้นี่ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง โหว แปลกเนอะ อืม ไม่เป็นไร และไปต่อ ขึ้นวันใหม่ สิ่งใหม่ๆกำลังเกิดขึ้น ไม่มีเวลามานั่งคิดเรื่องเมื่อวาน

เกือบได้ไปฮกไกโด

หลังจากทริปรัสเซีย ก็ซื้อตั๋วไปฮกไกโดต่อ แต่ฟ้าผ่า โควิดมา เที่ยวบินยกเลิก และรออย่างมีความหวัง แต่วันคืนล่วงเลยไป 1 เดือน 2 เดือน จนกลายเป็นปี ก็ไม่มีวี่แววจะเปิดกัน

มีแต่ทางยุโรป ที่พวกเราติดตามข่าวเรื่องการเข้าประเทศอย่างใกล้ชิด ประเทศไหนแค่แง้ม มีช่อง ก็รีบเลย เพราะช่วงนั้นยังเพิ่งเริ่มฉีดวัคซีนกัน ก็มีแต่สวิตเซอร์แลนด์นี่แหล่ะ ที่เปิดมากที่สุด

ปี 2021 เที่ยวยุโรป 1 ปี

หลังจากที่เกิดโควิด แรกๆก็กลัว ใส่หน้ากาก 2 ชั้น หยิบจับอะไร กังวลไปหมด แต่พอสักระยะนึง ก็มีคอมเม้นท์ที่ให้ข้อมูลอีกด้านนึงของโควิด ทำให้เราหาข้อมูลเพิ่ม ถามๆๆๆ ทำไมแฟนต่างชาติถึงกล้าไป ทำไมคนต่างชาติถึงกล้าเดินทาง เขาเป็นคนมียีนส์พิเศษกว่าเราหรือ?

จนทำให้เราสรุปได้ว่า เราไม่จำเป็นต้องกลัวโควิดเลย เมื่อเรารู้ข้อมูลมากขึ้น มันคือกระแสพากลัว ทำให้ความกลัวแบบไร้เหตุผลมันหายไป ถึงยังไงทุกคนก็ต้องติด เราพยายามรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ต่อให้ติด และเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น มันคือสิ่งที่ต้องเกิด แต่เราทำดีที่สุดแล้ว เราป้องกันดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว มีโรคอื่นที่เราก็เป็น และเสี่ยงกว่ามากมาย แต่เราจะไม่ปล่อยให้ชีวิตของเรา ต้องหายไปกับโควิดแน่นอน

ชีวิตของแต่ละคน คิดไม่เหมือนกัน เพราะได้รับข้อมูลและประสบการณ์ต่างกัน และเราก็ต้องรับผิดชอบกับการตัดสินใจของเราเอง เมื่อมองย้อนกลับไป มันเป็นการตัดสินใจที่ยากก็จริง แต่มันไม่ยากเพราะเวลามันกระชั้นชิดมาก ต้องรีบตัดสินใจ ถ้าตัดสินใจช้าประเทศต่างๆอาจจะปิดกั้นอีก

ฉีดวัคซีนเข็มเดียว บินสู่สวิตเซอร์แลนด์

พวกเราฉีดวัคซีนแค่เข็มเดียวได้ไม่กี่วัน ก็บินไปสวิตเซอร์แลนด์ทันที หลังจากนั้นไม่นาน สวิตเซอร์แลนด์ก็ออกกฎว่าต้องฉีด 2 เข็มถึงจะเข้าได้ และมีห้ามไทยเข้าด้วย เราก็เลยรอดไปอย่างหวุดหวิดเพราะเข้าไปพอดี ส่วนประเทศอื่นๆถ้าเข้าแบบท่องเที่ยวก็ต้องฉีด2เข็ม หรือเข้าแบบท่องเที่ยวไม่ได้เลย (พวกเราไม่ได้ไปแบบเยี่ยมเยียน)

หลังจากนั้น เราก็หาข้อมูล พร้อมถามเพื่อนๆในคอมเม้นท์ หาที่ฉีดวัคซีนเพิ่มอีก 1 เข็ม เพื่อความคล่องตัวในการเดินทาง เพื่อนๆผู้ชมในเวลานั้นมีส่วนสำคัญมากในการทำให้เรากล้า และรู้ข้อมูลมากขึ้น จนได้ฉีดวัคซีนเพิ่มที่เยอรมนี

การเดินทางท่องเที่ยวในยุโรปครั้งนี้ เราตั้งไว้ 1 ปี เพราะประมาณไว้ว่าประเทศไทยจะเปิดโดยไม่ต้องกักตัว ซึ่งก็เดาได้ตรงมาก เพราะกลับเข้าไทยแบบปกติได้เมื่อเดินทางครบ 1 ปี

เชงเก้น 3 เดือน + นอกเชงเก้น 6 เดือน + เชงเก้น 3 เดือน

และการวางแผนการเดินทางครั้งนี้ เป็นแบบไม่รีบร้อน อยู่สวิตเซอร์แลนด์ รวม 1 เดือน อยู่เยอรมนี รวม 1 เดือนกว่าๆ อยู่ปารีส เกือบ 1 เดือน รวมเกือบ 90 วัน

หลังจากนั้น ก็ต้องออกจากเชงเก้น ไปแอลเบเนีย 3 เดือน ไปมอนเตเนโกร 7 วัน ไปโครเอเชีย 3 เดือน เพื่อพักวีซ่า และประเทศเหล่านี้ก็อยู่ในยุโรป เดินทางไม่ไกล และราคายังไม่แพง

หลังจากนั้น ก็เข้าเชงเก้นรอบสุดท้าย อิตาลี 2 เดือน และฝรั่งเศส(ใกล้เจนีวา) อีก 1 เดือน แล้วขึ้นเครื่องบินที่ซูริก กลับไทย

ถือเป็นการเดินทางที่ให้ประสบการณ์ที่ดีมากๆ ในราคาไม่แพง เพราะช่วงโควิด คนน้อย ค่าที่พักไม่สูงมาก การเดินทางไม่แออัด

ทำให้สรุปได้อย่างนึงว่า ประสบการณ์จริง กับ การนั่งมโนจากข่าว มันคนละโลกกัน

กลับไทย

หลังจากจบการเดินทางยุโรป 1 ปี ก็กลับไทย มิถุนายน 2022 ไปต่อที่เชียงใหม่ 2เดือนกว่า และภูเก็ต 2 เดือนกว่า เพื่อพักผ่อน ก็ทำให้ความคิดเปลี่ยนอีก

จากความคิดดั้งเดิมว่า หลังจากออกเดินทางยุโรป 1 ปี จะเช่าห้องรายปีที่ไทย แล้วค่อยคิดว่าจะไปไหนแบบสั้นๆเหมือนเดิม กลับเข้าสู่ชีวิตเดิมๆ แต่ 1 ปีในยุโรป มันทำให้ความคิดเปลี่ยนเป็นว่า เราสามารถอยู่ที่ไหนก็ได้ (ที่เงินเราไหวนะ) อยู่ที่ละ 1 เดือน ได้เปลี่ยนบรรยากาศ ละทิ้งความยึดติด ฝึกการปรับตัว ฝึกการปล่อยวาง เพราะของติดตัวมีได้แค่กระเป๋าเดินทางและเป้

ถามตัวเองตลอดว่าจะทำแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน และก็ได้คำตอบตลอดว่า “ไม่รู้” แต่เมื่อมีโอกาส มีหนทาง และคิดอยากทำแล้ว ถ้าไม่ทำ มันคือแค่ความกลัวใช่มั้ย? มันคือแค่เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ทำใช่มั้ย? ถ้าไม่ทำ แล้วเมื่อไหร่ถึงได้ทำ?

เมื่อสรุปได้ว่า ทำไปก่อน มีปัญหาค่อยแก้ มันก็ทำให้รู้สึกว่า ตั้งแต่เกิดมา เราไม่เคยมีความสุขเท่านี้มาก่อนเลย ชีวิตมันมีความสุขแบบนี้ด้วยหรือ พอเรามีความสุข เราก็พร้อมจะให้อภัย พร้อมแบ่งปัน ในแบบที่ทำได้ไม่เดือดร้อนตัวเอง

ออกจากไทย

หลังจากออกจากภูเก็ต ก็ไปต่อที่กัวลาลัมเปอร์ 1 เดือน โฮจิมินห์ เกือบ 1 เดือน สิงคโปร์ 5 วัน และจะเข้าสู่ยุโรปอีกครั้ง โดยซื้อตั๋วเที่ยวเดียว ยังไม่รู้จะกลับเมื่อไหร่ และนี้คือความตื่นเต้นปนความกังวลครั้งใหม่ อยากให้เพื่อนๆผู้ชมเป็นกำลังใจ และเดินทางไปด้วยกันนะคะ


ติดตามรีวิว

เข้ามาชมรีวิวการเดินทางของจี๊กับอ๊อบได้ที่ www.gonoguide.com/go

สามารถติดตาม และดูย้อนหลังได้ที่ยูทูปช่อง GoNoGuide , GoNoGuide Go

แปะลิงค์อัพเดทที่เฟสบุ๊ค GoNoGuide

สวัสดีค่ะ GoNoGuide มีเป้าหมายที่จะให้ข้อมูลท่องเที่ยวและวีซ่า อย่างเต็มที่ในทุกเรื่องที่เรารู้ เพื่อนๆที่ต้องการสนับสนุนเรา สามารถทำได้ดังนี้

  • เลือกบริการที่ต้องการสนับสนุนเรา
  • GoNoGuide จะได้รับค่าคอมมิชชั่นเล็กๆน้อยๆ โดยที่เพื่อนๆไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม สำหรับลิงค์แนะนำโรงแรม เครื่องบิน และประกันต่างๆ
  • กดติดตามช่อง Youtube และ Facebook GoNoGuide

ขอขอบคุณที่สละเวลาอ่านค่ะ


ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.