Airbnb Hacked

Airbnb Hacked โดนแฮ็ก airbnb

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติ และทำใจ สำหรับคนจอง airbnb แล้วมีปัญหา กรณี โดนแฮ็ก airbnb โดนแฮ็ก airbnb account หรือ airbnb ถูกลบ รวมถึงปัญหาอื่นๆที่อาจเกิดขึ้นได้เกี่ยวกับ airbnb


โดนแฮ็ก airbnb ไอดีหาย บัตรเครดิตถูกตัดเงินกว่า 6x,xxx บาท airbnb Support ช่วยคุณได้แค่ไหน เร็วแค่ไหน

โดนแฮ็ก airbnb account บัตรเครดิตที่ผูกกับ airbnb ก็โดนใช้ไปจองห้องที่อื่น 3 ยอด (37,xxx 11,xxx และ 2,xxx บาท

ซึ่ง 2 ยอดแรก เป็นห้องเดียวกัน ซ้ำกัน แต่คนละวัน คือไอดีเดียวสามารถจองได้ไม่จำกัด แม้จะเข้าพักวันเดียวกัน คนเดียวจะพักหลายที่หลายประเทศในวันเดียวกันได้ยังไง

ยังมีอีกหลายอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความไม่ปลอดภัยของระบบ airbnb ทั้งเรื่องการตัดเงินโดยไม่ต้องยืนยัน การลบบัตรไม่ได้ การลบบัญชีโดยไม่ต้องยืนยัน

เมื่อรู้ตัวว่าโดนแฮ็กทำอย่างไร

พอรู้ตัวว่าโดนแฮ็กไอดี และมีการตัดบัตรเครดิต ก็โทรอายัดบัตรทันที ซึ่งโทรทางไกลจะมีค่าโทรที่สูงมาก นานหลายสิบนาทีเกิน 500 บาทแน่ๆ (บางธนาคารสามารถแจ้งอายัดทางไลน์ได้ ไม่ต้องเสียค่าโทร แต่อาจช้าหน่อย)

เมื่ออายัดบัตรเรียบร้อยแล้ว ธนาคารจะส่งบัตรจริงไปที่ที่อยู่ที่เราต้องการ แต่ปัญหาคือตัวเราอยู่ต่างประเทศ บัตรส่งในไทย แปลว่าบัตรใหม่เราจะใช้ได้เฉพาะการทำธุรกรรมทางออนไลน์เท่านั้น

ยอดคงค้าง ยอดคงเหลือ และยอดทุกอย่างที่จะเข้า ก็จะไปเข้าบัตรใหม่หมด เรื่องธนาคารไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง


ปัญหา airbnb account ถูกลบ

airbnb account ถูกลบ ใช้งานไม่ได้ ข้อมูลหายหมด ล็อคอินก็ไม่ได้ ต้องสมัครใหม่ แปลว่า ห้องที่ได้จ่ายเงินไปแล้ว ซึ่งเคสของเรา เหลืออีก 7 วันจะเข้าพักแล้ว ก็ถูกลบไปด้วย อีกห้องนึงคือห้องที่เราอยู่ตอนนี้ก็ถูกลบไปด้วย

ความเสี่ยงที่หนึ่งคือ ห้องที่เราอยู่ตอนนี้ในระบบเป็นห้องว่าง คนอื่นสามารถจอง และเข้าพักได้ แต่คิดว่าโฮสต์น่าจะยกเลิกได้

ความเสี่ยงที่สองคือ ห้องที่กำลังจะเข้าพักที่ถูกลบไปทั้งที่เราจ่ายเงินแล้ว ติดต่อโฮสต์ โฮสต์บอกว่าให้จองและจ่ายเข้ามาใหม่ แล้วเดี๋ยวเขาจะทำ refund คืนเงินให้

เราก็บอกว่า ให้เขา refund ก่อนได้มั้ย แล้วเราจะใช้เงินนั้นจองใหม่ แต่โฮสต์ก็ไม่ยอม ซึ่งก็ไม่ได้ว่าอะไรโฮสต์ เพราะไม่ใช่ความผิดเขา

แต่เราก็กลัวว่าจะมีปัญหาทีหลัง ถ้าจ่ายเงินซ้ำไป แต่ก็กังวลอีกว่าจะมีคนจองทับวันที่เราจอง ทำให้วันแหว่งไป แล้วโฮสต์ไปรับคนอื่นแทน เพราะเราเห็นแล้วว่าในปฏิทินกลายเป็นวันว่างที่ใครๆก็สามารถจองได้ และเราก็อยู่ 4 สัปดาห์ ถ้ามีคนจองแหว่งไปแค่วันเดียว เราก็จองไม่ได้แล้ว อีกอย่างก็เสียดายที่ได้ห้องราคาพอรับได้ และทำเลดีมาก

สรุปคือจองใหม่ทันทีก็ไม่กล้า ติดต่อ airbnb support ก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือ มีแต่รับเรื่องแล้วก็หาย นี่คือความรู้สึกของคนที่อยู่ในสถานการณ์ ณ เวลานั้น

บทความนี้อยากเขียนเพื่อให้คนที่มีปัญหาคล้ายๆกันได้รับรู้ รับมือ แก้ปัญหา และทำใจ แต่ไม่ต้องกังวลมาก ซึ่งเดี๋ยวจะเล่าต่อไปว่าควรทำอย่างไร


ติดต่อ airbnb support

หลังจากอายัดบัตรเครดิตแล้ว ก็ติดต่อ airbnb support ถ้าเลือกไปถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว เขาจะถามว่าจะโทร หรือจะส่งข้อความ ก็ไม่ต้องคาดหวังว่าถ้าโทรแล้วจะได้รับการแก้ไขทันทีนะ การโทรก็คือแค่รับเรื่อง รับฟังเราบ่นแค่นั้นเอง ส่งข้อความดีกว่าจะได้มีหลักฐานพูดคุย และชัดเจนกว่าการคุย

airbnb support ขั้นแรกจะเป็นแค่คนรับเรื่อง คัดกรองคำถาม ถ้าเขาตอบได้ก็ตอบเลย ถ้าเป็นเรื่องทางเทคนิค ก็แค่ส่งเรื่องให้อีกทีมนึง

airbnb support ตอนนี้ยังใช้มนุษย์อยู่ก็จริง แต่หัวใจอาจเป็นหุ่นยนต์ไปแล้วเมื่ออยู่ในหน้าที่

ตอนแรกที่ติดต่อ เคสของเราคือโดนลบ account ไปเลย เข้าล็อกอินไม่ได้ ก็ต้องทำสมัครใหม่แล้วติดต่อ airbnb support ให้เอา account ของเรากลับมาได้มั้ย หรือกู้คืนไม่ได้ คือไม่รู้อะไรเลยว่าทำอะไรได้บ้าง

หลังจากติดต่อไป ประมาณ 3-4 ชม. account ของเราก็กลับคืนมา ทั้งกระบวนการไม่มีการแจ้งบอกว่ารับทราบแล้ว จะแก้ภายในกี่ชม. แก้แล้วจะแจ้งกลับมาอีกที หรือแม้กระทั่งการขออภัย คือ account กลับมาก็ถือว่าชื่นชมที่นำกลับมาได้ภายในวันเดียว แต่ให้เรารอโดยไม่มีการสื่อสารใดๆว่าได้รับเรื่องแล้วหรือไม่ ทำให้ผู้เสียหายร้อนใจหนักกว่าเดิม

แต่ห้องที่ถูกยกเลิกไปก็ยังยกเลิกอยู่ ทีนี้ก็มาแก้ปัญหาถัดไปคือ ห้องที่เราจ่ายไปแล้วเอากลับคืนมายังไง ก็ใช้ account ที่ได้กลับคืนมา ติดต่อ airbnb support อีกทีหนึ่ง

เริ่มต้นติดต่อ หาคำว่า contact us หรือ Help center อะไรก็ได้ หาง่ายอยู่นะ จากนั้นจะมี AI คัดกรองคำถามของเราก่อน

แล้วจะให้เราอธิบายปัญหา เขียนเป็นภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาไทยก็ได้ แล้ว AI จะให้เราอ่านแต่ละข้อ เผื่อว่าจะเจอคำตอบโดยไม่ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ ถ้ายังไม่สามารถแก้ปัญหาที่เราสงสัยอยู่ ก็จะให้ติดต่อคนได้

จากนั้นจะมีให้เลือก 2 แบบคือ ติดต่อแบบโทร หรือ แบบข้อความ เราแนะนำให้ติดต่อแบบข้อความ เพราะทุกอย่างจะมีหลักฐาน ถ้าโทรจะไม่มีหลักฐาน และข้อมูลอาจคลาดเคลื่อนได้ เพราะเราจำไม่ได้ หรือเขาพูดผิด หรือมีแต่น้ำ

จากนั้นก็เล่าปัญหาไปแบบกระชับที่สุด คือเราต้องตรงประเด็นไม่ต้องอ้อม ไม่ต้องเกริ่น ไม่ต้องมารยาทมาก แต่ airbnb support มักจะใช้คำดูมีมารยาท ดูฟุ่มเฟือย ใจความสำคัญมีนิดเดียว หรือไม่ค่อยช่วยอะไรเลย

พิมพ์ภาษาไทยก็ได้ แต่ต้องใช้คำแบบทางการ ไม่งั้นเวลาแปลอาจจะเข้าใจผิดได้ ส่วนตัวพวกเราใช้ภาษาอังกฤษแม้ว่าจะไม่ค่อยเก่ง แต่ไม่ค่อยสนใจแกรมม่า ให้พอมีคีย์เวิร์ดพอรู้เรื่อง จะง่ายกว่าการพิมพ์ภาษาไทยที่อาจแปลผิดได้

ทีนี้ถ้าเป็นคำถามที่คนแรกคัดกรองตอบได้ เขาก็จะตอบ แต่ถ้าเป็นเรื่องทางเทคนิคหรืออื่นๆ เขาก็จะส่งไปทีมที่เกี่ยวข้อง

เราก็เล่าเคสของเราไป ก็ถูกส่งต่อให้อีกคนนึง ตอนแรกก็เฉยๆไม่ได้หงุดหงิดอะไร เพราะก็ไปตามระบบ และคิดว่าไม่น่าเกิน 24 ชม.รู้เรื่อง

แต่จากรูปข้างบน airbnb support บอกว่า ฉันกำลังจะออกจากออฟฟิศ เดี๋ยวจะตอบกลับหลังจาก 2 วัน คือถ้าบอกว่าภายใน 2 วันก็ปรี้ดแล้วนะ นี่บอกว่า หลังจาก 2 วัน ซึ่งอาจเป็น 3,4,5 ก็ได้ใช่มั้ย สรุปว่าเราไม่มีทางรู้ว่าจะได้รับการตอบกลับเมื่อไหร่

เคสของเราอาจรู้สึกเร่งปานกลางในสายตาคนอื่น แต่ให้ลองจินตนาการว่าห้องที่จ่ายไปแล้ว 25,xxx บาท มันหายวับไป แต่เงินไม่ได้คืนนะ และห้องที่เรากำลังอยู่ก็ถูกยกเลิกไปด้วย

นั่นก็แปลว่า ห้องทั้งสองอาจมีคนจองทับได้ โอเคว่าห้องที่อยู่ปัจจุบันคงไม่น่าจะเป็นอะไรมาก แต่ห้องที่จ่ายไปแล้วและรอเข้าพักในสัปดาห์หน้า ถ้ามีคนอื่นจองทับจะเป็นยังไง เราขอให้โฮสต์ล็อควันให้หน่อย เดี๋ยวจะจองใหม่แน่นอน แต่โฮสต์ไม่ตอบและไม่ล็อควันให้ เราต้องจองใหม่ไปก่อน เขาถึงจะคืนเงินให้ โอเค ไม่ว่ากัน

ทีนี้ก็หันมาทาง airbnb support เมื่อไหร่จะตอบว่าเราควรต้องทำยังไง rebook ให้เลยได้มั้ย ไม่ต้องคืน หรือเสียไปเลย หรือยังไง ไม่มั่นใจอะไรเลย

ได้แต่รอๆๆๆ airbnb ตอบกลับ อย่างมีมารยาท เพราะคิดว่าไม่น่าจะเกิน 24 ชม.

พอผ่านไป 24 ชม. ก็เริ่มนอนไม่หลับละ ทักไปอีกที เริ่มตัดพ้อเรื่อยๆ แต่….ไม่มีการตอบกลับใดๆเลย ในใจก็รู้แหละว่าสุดท้ายก็น่าจะจบ จินตนาการกรณีแย่สุด airbnb ไม่ตอบกลับ หรือตอบมาว่า ขึ้นกับโฮสต์ว่าจะคืนมั้ย ซึ่งโฮสต์ก็ให้เราจองใหม่ก่อนถึงจะคืนให้ เราก็พร้อมเสี่ยงอยู่แล้ว แต่ขอยืดเวลาให้ airbnb ตอบกลับมาซักหน่อย

ผ่านมา 2 วันเต็มๆ 48 ชม.แต่ไม่เคยได้รับคำตอบ เรื่องได้หรือไม่ได้เราเตรียมใจแล้ว แค่รู้สึกเสียเวลาที่ต้องรอเขาตอบ ซึ่งไม่รู้เมื่อไหร่ ใครมาอ่านทีหลังก็อาจไม่เข้าใจความรู้สึก แต่ถ้าเคยมีประสบการณ์คล้ายๆแบบนี้จะเข้าใจว่า 2 วัน เหมือน 2 เดือน และต้องรีบตัดสินใจ ไม่งั้นความเสี่ยงหลายๆอย่างจะตามมา เช่นต้องหาที่พักใหม่ซึ่งไกลและแพงแน่นอน หรือไม่มั่นใจว่าจะได้เงินคืนมั้ย

เราก็บ่นทุกอย่างที่คิดได้ ในเมื่อไม่มีมารยาทมา เราก็ไม่ต้องสนใจอะไรอีก ความคับแค้นคือ มันเป็นความผิดของระบบรักษาความปลอดภัยของ airbnb เอง ไม่ใช่ความผิดเรา

สองคือ เราเสียค่าธรรมเนียมการจองคิดเป็นเฉลี่ยเดือนละ 3,000-4,000 บาท (รวมในค่าที่พัก) เพราะเราเดินทางตลอด ใช้ airbnb เป็นบ้านมาต่อเนื่อง 2 ปีแล้ว

สามคือ แค่การตอบคำถาม ยังไม่ตอบ ถ้าตอบเราจะได้ตัดสินใจได้เลย ไม่ต้องมารออย่างน้อย 2 วัน ถามว่านี่ธุรกิจออนไลน์ไม่ใช่ว่าต้องมีคนคอยแก้ปัญหาตลอดหรือ อย่างมาก 24 ชม.ก็พอรับได้ แต่นี่กวนมากๆ คือไม่ตอบอะไรเลย

เราก็เลยเปิด issue ใหม่เรื่อยๆ และที่กวนมากไปกว่านั้นคือ ถามแล้วตอบไม่ได้ แล้วบอกว่าดูเหมือนคุณได้เปิด issue ไว้แล้วทางเราจะรวมไปที่นั่น แล้วก็ปิดช่องไม่ให้พิมพ์อีกเลย เราก็เปิดใหม่ ถามใหม่ เริ่มใหม่ แต่ละคนก็ตอบไม่ต่างกันราวกับว่าเป็นหุ่นยนต์ แต่เรื่องนี้พอเข้าใจได้ เพราะเขาอาจไม่มีความสามารถในการเข้าถึงพอที่จะจัดการได้

และนี่คือสิ่งที่ทำให้คับแค้นกว่าเดิมคือ เหมือนให้เราคุยกับมนุษย์ที่ไม่มีความเห็นอกเห็นใจ แบบนี้เอาหุ่นยนต์ AI มาตอบน่าจะดีกว่า น่าจะรู้และช่วยได้มากกว่า

3 วันแห่งการรอคอย

เข้าวันที่ 3 อ๊ะๆๆๆ ผู้อ่านอาจจะคิดว่า แหมๆๆๆ… 3 วันเอง แต่ลองนึกดูนะ ถ้าคุณต้องรออย่างไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ไม่มีการตอบกลับ คนที่จะไม่คิดอะไรได้คือคนมีเงินเหลือเฟือ ก็แค่จองใหม่จ่ายใหม่ ไม่ต้องคิดอะไรมาก ปัญหามันจะเล็กมากๆ

เราก็กำลังจะจองใหม่ละ (ไม่ได้เงินเหลือ แต่คิดว่าโฮสต์น่าจะไม่โกง) แต่ก่อนจอง ก็คิดว่าถ้ากำลังจองไปแล้ว airbnb ทำ rebook ให้ในระบบ แบบไม่ต้อง refund ไม่ต้องจองใหม่ แล้วเราดันไปจองซ้ำ ก็คิดไปเรื่อย เพียงเพราะไม่ได้รับการตอบกลับอะไรจาก airbnb เลย ก็ได้แต่ส่งคำบ่นๆๆๆๆ ก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี่ ก็ส่งข้อความตัดพ้อไปเรื่อยๆ

หลังจากนั้นไม่นาน ก็เห็นว่ามีการ refund ให้แล้ว โดยที่ไม่ได้รับการแจ้งจาก airbnb เลย และมั่นใจว่าโฮสต์ไม่ได้เป็นคนทำแน่นอน

เมื่อเราเห็นว่า มีการ refund เข้าบัตรเครดิตแล้ว เราก็ไม่ง้อ airbnb ก็ได้ แล้วก็จองใหม่ ก็จบไป โดยไม่มีการตอบว่า ได้ทำเรื่องคืนเงินให้แล้วนะ ขออภัยนู่นนั่นนี่ เงียบกว่าป่าช้าก็ airbnb support นี่แหล่ะ

พอตกดึกก็นึกคึกลองเหน็บไปว่าทำไม airbnb ไม่มีการแจ้งเลยว่าได้ rebook / refund หรือทำอะไรแล้วบ้าง (จริงๆคือรู้ตั้งแต่เช้าแล้ว) แต่อย่างน้อยก็ตอบว่า ทางเราได้ทำการคืนเงินแล้ว ขออภัย บลาๆ แต่ก็ไม่มีเลย ไม่เป็นไรเราแค่อยากรู้ว่าจะไม่คิดจะตอบกลับเลยใช่มั้ย

airbnb support ตอบกลับ

หลังจากนั้น ก็มี airbnb ตอบกลับมา (เข้าใจว่าตอบกลับเพราะเราเหน็บไป) ข้อความที่ส่งมาทำให้ปรี๊ดแตกมากกว่าเดิม และเสื่อมความเป็น airbnb lover อย่างเราไปเกือบหมดเลย

2 ย่อหน้าแรก ใช้คำฟุ่มเฟื่อย ดูมีมารยาท “ฉันเป็นทูตของ airbnb หวังว่าข้อความนี้จะไปถึงคุณด้วยดี ฉันขออภัยที่ล่าช้า เนื่องจากฉันไม่ได้เข้าออฟฟิศ 2 วัน”

(เดี๋ยวนะ ธุรกิจออนไลน์ในตลาดหุ้นอเมริกา มีหยุดด้วยนะ คือมีคุณทำงานคนเดียวหรือ?)

“ฉันอยากโทรหาคุณแต่นี่ก็ดึกแล้ว” (โทรเพื่อ? แก้ตัว? มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่จะโทร)

“ฉันเสียใจมากที่แอคเคาท์ของคุณถูกแฮ็ก และการจองถูกยกเลิก ฉันรู้ดีกว่าทำให้คุณลำบาก” (เพิ่งรู้เนาะ) “แต่ไม่มีอะไรต้องกังวล คุณก็ rebook ไปแล้ว” (ไอ้…ก็หลังจากที่ฉันรอเธอไม่ไหวไง ฉันช่วยตัวเองไง)

ความหมายประมาณว่า refund แล้ว rebook แล้ว คงไม่มีปัญหาอะไรแล้วเนอะ

“เงินจะถูกคืนเข้าบัตรเครดิตที่คุณจ่ายนะ แต่คุณบอกว่าคุณยกเลิกบัตรแล้ว แต่ฉันอยากบอกว่า เงินจะเข้าบัตรที่คุณจ่ายเท่านั้น” (อ๋อ เมื่อคุณรู้ตัวว่าโดนแฮ้ก คุณจะปล่อยให้บัตรยังใช้ได้โดยไม่แจ้งอายัดงั้นหรือ ฉันก็ต้องแจ้งอายัดบัตรอยู่แล้ว จะใช้คำฟุ้มเฟือยยืดยาวทำไม)

(ยาวเกินขี้เกียจแปล ไร้สาระ เพราะฉันถามธนาคารตั้งแต่วันแรกที่โดนแฮ้กแล้ว ให้ฉันรอเธอ 3 วันเพื่อมาบอกข้อมูลแบบนี้หรือ)

คำตอบของ airbnb support ที่ไร้ความรับผิดชอบ

สรุปคือ สิ่งที่ตอบมาเพราะเราเหน็บไปครั้งสุดท้าย ถ้าไม่เหน็บไป อยากรู้เหมือนกันว่าจะตอบมั้ย แต่ก็ตอบแต่สิ่งที่ไม่มีประโยชน์เลย ฉันรอมา 3 วันเพื่ออ่านสิ่งนี้หรือ

ยังมีอีกยาว แต่เป็นคำยืดเยื้อไร้ข้อมูลใหม่ แถมยังบอกว่าขอโทรมาได้มั้ย นี่คือกลยุทธ์การตลาดอย่างหนึ่ง คือทำให้เราใจเย็น ใจอ่อน และไม่เอาเรื่องเขา

แต่เทคนิคส่วนตัวก็คือ บอกไปเลย I don’s speak english และฉันก็ต้องการเก็บหลักฐานด้วย ถ้าโทรคุยจะเอาหลักฐานที่ไหน โทรมาก็ได้แค่ฟังคำแก้ตัว ไม่มีประโยชน์อะไรเลย

สิ่งที่เราต้องการคือ ความรับผิดชอบ เพราะมันคือความผิดของ airbnb ความรับผิดชอบเช่นการชดเชยค่าเสียหาย เราต้องโทรทางไกล เราต้องเสียบัตรเครดิต เราต้องเสียเวลา และเสียอารมณ์

ต้องการให้แสดงความรับผิดชอบ และแสดงความรู้สึกผิด โดยที่ไม่ต้องให้เราเรียกร้อง แต่ที่เขาตอบมาเพราะเราทักท้วงไป และนโยบายของ airbnb ดูเหมือนการเอาตัวรอด แ่ละผลักภาระให้โฮสต์ และเกสต์

ทั้งหมดนี้ไม่ได้พูดถึงตัวคนหรือตัวเจ้าหน้าที่ แต่พูดถึงนโยบายที่ airbnb ได้อบรม ได้ตั้งไว้แบบนี้เอง และโปรดเข้าใจว่านี่เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของพวกเราเท่านั้น คนอื่นอาจได้รับเหมือนกัน หรือต่างกันก็ได้

เรียกร้องค่าเสียหาย

หลังจากที่ไม่อยากคุยยืดเยื้อมาก มีแต่คำแก้ตัวไร้ประโยชน์ เราก็บอกว่าให้ airbnb แค่ชดเชยค่าเสียหายเป็นคูปองหรือเครดิตให้เราใช้จองที่พักในครั้งหน้า

ในวันถัดมา airbnb ก็ได้ส่งข้อความพร้อมโค้ดคูปองใช้จองห้องอายุ 1 ปี (พันกว่าบาท) และก็จบลงด้วยการที่เราต้องเป็นฝ่ายช่วยเหลือตัวเองและเรียกร้องเอง ถ้าไม่เรียกร้องก็คงไม่ได้

บทเรียนส่งต่อ

  • หลังติดต่อ airbnb support แล้ว ก็ต้องทำใจร่มๆ ไม่คาดหวัง สุดท้ายก็จะได้รับการแก้ไข แต่อาจช้ามากๆ
  • เรื่องเงิน refund จาก airbnb ที่ถูกยกเลิกห้องที่จ่ายไปแล้ว ที่บอกว่าจะคืนเข้าบัตร ไม่น่าจะต้องกังวลอะไรมาก แม้ว่าบัตรจะเป็นบัตรใหม่เลขใหม่ แต่ธนาคารผู้ออกบัตรก็จะลิงค์ข้อมูลให้เอง
  • เรื่องที่โดนแฮ็กบัตรไปจองห้องที่อื่น แจ้งธนาคารแล้วก็ไม่น่าจะต้องกังวลอะไรมากเช่นกัน
  • สิ่งที่ยากคือ การตัดสินใจว่าเราจะจองใหม่ไปก่อนหรือไม่ หรือจะรอ airbnb support ตอบกลับ
  • การเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ และมีการใช้จ่ายออนไลน์ ให้เตรียมใจไว้เลยว่าบัตรมีโอกาสสูงที่จะโดนแฮ้ก ให้เตรียมบัตรไว้หลายๆใบ เก็บไว้หลายๆที่แยกกัน เมื่อรู้ตัวว่าโดนแฮ้กก็แจ้งอายัด เงินที่ถูกตัดไปจะถูกคืนแน่นอน แต่เราต้องรู้ตัวเร็ว และรีบแจ้งนะ
  • โดนครั้งแรกอาจกังวลมากๆๆๆๆ แต่หลายครั้งแล้วเราจะรู้วิธีทำใจวิธีจัดการเอง เที่ยวให้สนุกอย่าให้ความกลัวมารั้งไม่ให้เราทำตามความฝัน

ทำไมไม่ลบบัตรเครดิตออก ใช้เสร็จก็ลบเลยสิ

เนื่องจากนโยบายของ airbnb จะลบบัตรได้ก็ต่อเมื่อได้ เช็คเอาท์ออกจากที่พักแล้วมากกว่า 14 วัน ซึ่งพวกเราใช้ airbnb อยู่ตลอดเวลาทุกๆเดือน ดังนั้นไม่มีทางลบบัตรได้แน่นอน

วิธีแก้ที่ทำได้คือใช้เสร็จ กดปิดบัตรทันที (ซึ่งเท่าที่รู้คือมีเฉพาะธนาคารสีม่วงเท่านั้นที่ปิดเปิดบัตรได้เองในแอพ ส่วนธนาคารอื่นไม่แน่ใจ คิดว่ายังทำไม่ได้มีแต่โทรหรือแจ้งปิดคือปิดเลย)


เพื่อนๆสามารถดูรีวิวการเดินทางของ GoNoGuide ได้ที่ www.gonoguide.com/go


สวัสดีค่ะ GoNoGuide มีเป้าหมายที่จะให้ข้อมูลท่องเที่ยวและวีซ่า อย่างเต็มที่ในทุกเรื่องที่เรารู้ เพื่อนๆที่ต้องการสนับสนุนเรา สามารถทำได้ดังนี้

  • เลือกบริการที่ต้องการสนับสนุนเรา
  • GoNoGuide จะได้รับค่าคอมมิชชั่นเล็กๆน้อยๆ โดยที่เพื่อนๆไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม สำหรับลิงค์แนะนำโรงแรม เครื่องบิน และประกันต่างๆ
  • กดติดตามช่อง Youtube และ Facebook GoNoGuide

ขอขอบคุณที่สละเวลาอ่านค่ะ


ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.