โตเกียว16
5 เมษายน 2556 วันที่สิบสอง(วันสุดท้าย)ของการเดินทาง
Tsukiji – Nakameguro – jiyugaoka – Shibuya – Sugamo – Ikebukuro
วันสุดท้ายของการเที่ยว ตั้งใจจะเก็บตกให้ได้มากที่สุด
เริ่มต้นกันที่ตลาดปลา Tsukiji ซึ่งก็ตั้งใจจะไม่ให้เวลามากมายกับที่นี่
เพราะเป็นแหล่งที่ทัวร์มักมาลง นักท่องเที่ยวพลุกพล่านเกินไป
แต่ระหว่างทางเดินไป ก็เจอวัดหนึ่ง ด้านนอกคล้ายๆโบสถ์ของคริสต์
หรือพิพิธภัณฑ์ หรือสถานที่ราชการ ก็ไม่กล้าเข้าไป
แต่เห็นรถทัวร์จอดกันเป็นแถว มีฝรั่งเดินเข้าได้ เราก็เลยเข้าไปบ้าง
ข้างในมีพระพุทธรูป แต่เฟอร์นิเจอร์ ที่นั่งต่างๆเป็นแบบคริสต์
เค้าผสมผสานได้อย่างลงดัวดี เรากลัวไปรบกวนคนด้านใน
ก็เลยไม่ได้อยู่นานนัก รีบไปต่อกันที่ ตลาดปลาทซึคิจิ
แต่วันนี้อากาศร้อน จนต้องถอดเสื้อกันหนาวกันเลย เหลือแต่เสื้อยืดแขนสั้น
ทำให้นึกเจ็บใจไม่หายว่า ไอ้ตอนไปดูภูเขาฟูจิ
และวันก่อนๆ หนาวเจียนตาย พอตอนจะกลับอากาศดีซะนี่
ตลาดปลาขายส่งอะร๊ายย แพงชะมัด แพงกว่าที่อุเอโนะอีก
ข้าวปั้นก็แพงกว่า เห็นแต่ละอย่างแล้ว ซื้อไม่ลงจริงๆ
ข้าวหน้าปลาต่างๆ ตอนแรกคิดว่า เป็นแหล่งขายปลา น่าจะถูกที่สุด
แต่ปรากฏว่าที่นั่งก็ไม่ค่อยมี แถมแพงอีก
แต่ที่น่าแปลกคือ ร้านที่ว่าแพงๆบางร้านน่ะ มีคนยืนต่อคิวยาว มากกว่า 20 คนชัวร์
แล้วที่มองๆดู ทั้งหมดเป็นญี่ปุ่น ไม่ใช่นักท่องเที่ยวแน่
คนญี่ปุ่นนี่เขาบริโภคกันเองทุกที่เลยนะ แม้แต่สถานที่ท่องเที่ยวฮิตๆ
คือเราก็ไม่ได้มีลิ้นที่รับรู้รสดีขนาด แยกแยะออก
ดังนั้นจึงไ่ม่จำเป็นที่ต้องลองชิมเลย
สามีบอกว่า ไหนๆก็มาแล้ว ขอกินไข่หวานของโปรด
ที่ตั้งใจว่ามาญี่ปุ่นเมื่อไหร่ จะกินไข่หวานแบบออริจินอล ให้เต็มคราบหน่อยนะ
ก็เลยลองดูชิ้นนึงก่อน เพราะร้านขายไข่หวาน เรียงรายกันยังกับดงไข่หวาน
สำหรับเราแล้วไข่หวาน ก็ไม่ต่างอะไรกับไข่เจียว
เราชอบกินไข่เจียว หรือไข่ดาวมากกว่า กินไข่ก็ต้องกินแบบเค็มๆสิ
เจ้าไข่หวานนี่ เหมือนกินไข่จิ้มน้ำตาล
แต่สามีได้ตั้งปนิธานแล้ว ว่าจะต้องกินให้ได้
100 เยน สำหรับไข่หวาน 1 ไม้ เป็นไงล่ะ ทำเอาฝันสลาย
เหมือนกับเล็งสาวสวยคนนี้ไว้แล้ว ว่าสักวันจะต้องได้จับมือกับนางให้ได้
แต่พอได้จับแล้วมือ มันสากอย่างกับกระดาษทราย ไม่เป็นอย่างที่ฝันเลย
เพราะไข่หวานของเขา (ไม่รู้ว่าเฉพาะร้านหรือป่าว) มันไม่อร่อยอย่างที่คิดเลย
เดินดูอาหารหน้าตาแปลกๆหลายอย่าง แต่ที่น่าซื้อคือ พวกปลาสดต่างๆ มันก็ถูกดี
แต่จะซื้อมาทำไมล่ะ ถึงจะเอาขึ้นเครื่องได้ ถึงบ้านคงจะหนอนขึ้นไปแล้ว
หรือจะเอาไปดองใส่เกลือแช่ไว้ ก็ดูจะพยายามเกินเหตุ
อีกอย่างที่น่าซื้อคือ พวกเห็ดต่างๆ ได้เยอะดี ราคาก็ไม่แพง
แต่ขืนซื้อไปมีหวังเละก่อนกลับแน่ จึงใช้เวลาที่นี่ได้ไม่เกิน 1 ชม. เท่านั้น
ไปต่อกันที่แถวๆ Nakameguro แล้วก็สถานีระแวกนั้น (Ebisu)
เพราะใช้ Metro day pass แบบบุปเฟ่ต์อยู่แล้ว เลยเที่ยวแบบชะโงกทัวร์ไปเลย
ย่านนี้ก็เป็นบรรยากาศบ้านๆ ที่ไม่บ้าน แต่เหมือนญี่ปุ่นในจินตนาการ เหมือนในการ์ตูน
เสียดายที่ไม่ได้เก็บรายละเอียดมาก เพราะต้องรีบไปต่อ
ฝากไว้เป็นที่ๆเดินเล่นได้เลย ถ้ามีเวลา
เหลือบไปเห็นป้าย Part-time Job ของโยชิโนยะ
อ่านไม่ออกหรอกแต่เดาเอาเองว่า
ชั่วโมงละ 1050 เยน (ตี5-4ทุ่ม) และ 1312 เยน (4ทุ่ม-ตี5)
ถ้าเดาถูกนะถือว่าค่าตอบแทนสูงเหมือนกันแฮะ แต่ก็ญี่ปุ่นนี่เนอะ
แวะดูซุปเปอร์มาร์เก็ตอีกแล้ว ลองสังเกตุลูกค้าที่มา
เวลาเคาร์เตอร์คิดเงิน เขาจะไม่หยิบของใส่ถุงให้นะ
แต่จะหยิบใส่กลับเข้าตะกร้า แล้วลูกค้าก็ต้องเดินไปจัดการใส่ถุง
ที่เราเตรียมไปเองอีกมุมนึง เขาไม่ให้ถุง ก็ไม่แปลก อันนี้เข้าใจ
แต่กลับมีถุงม้วนๆ เหมือนถุงใส่ผักให้ สงสัยเอาไว้ใส่ผลไม้มั๊ง
การเที่ยวในวันนี้ เป็นวันหนึ่งที่มีความสุขมาก
เพราะชอบเที่ยวแบบเดินไปเรื่อยๆ ดูบ้านเมือง ดูคน ดูสิ่งแวดล้อม ดูไปเรื่อย
เห็นมีพวกราคาห้องให้เช่า ดูๆไว้ เผื่อมาอยู่นานๆ
แต่โดยรวมแล้ว น่าอยู่เป็นระยะสั้นมากกว่า
แต่ถ้าให้อยู่ระยะยาวคงไม่น่าอยู่สักเท่าไหร่
มาถึงย่าน jiyugaoka ในรีวิวที่อ่านมา ก็เป็นที่มานั่งเล่นกันได้
ดูชิลๆดี แต่พอไปจริงหาไม่เจออ่ะ เลยเอาแผนที่ไปถามเด็กวัยรุ่นที่เดินผ่าน
เขาหมุนไปหมุนมา แล้วสุดท้ายคือตอบว่า ไม่รู้จัก เราก็นึกว่ามาผิดที่ซะแล้ว
แต่พอตอนจะกลับ ได้เดินผ่านพอดี จำภาพสถานที่ได้ บรรยากาศสวย น่าเดินเล่น
ผ่านร้านนึงขายของ 315 เยน ทั้งร้าน ตกแต่งได้สวยมากๆ โทนสีชมพูทั้งหมด
เลยเสียเวลาที่ร้านนี้นานไปหน่อย และได้ของติดไม้ติดมือมาอีก
แถวนี้มีร้านขายเสื้อผ้ามือสอง ราคาถูกมากจนน่าซื้อ
แต่ไม่มีเวลาเลือกนี่สิ เลยพลาดไป
อีกอย่าง ที่ทำให้การเดินเล่นมันชิลสุดๆคือ เด็กๆสาวๆ แต่งตัวน่ารักมาก
ส่วนน้อยที่หน้าตาไม่ได้น่ารักมาก แต่แต่งตัวน่ารัก ก็ทำให้โดยรวมดูดีได้
ชุดนักเรียนบ้าง แต่ทำไมถึงชอบนุ่งสั้นก็ไม่รู้ อากาศก็หนาว
ที่สำคัญคือ ส่วนใหญ่เท่าที่เห็น นั่งแบบไม่ค่อยหุบ
อย่างคนไทยเรา ยังมีสอนให้นั่งแบบหนีบๆบ้าง แม้จะใส่กางเกง
แต่นี่ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ นั่งแบบไม่เหนียมกันเลย อ้าซ่ามาก
อีกสถานีหนึ่ง ที่อ่านรีวิวมา คือ daikan-yama ก็อยากมาดูเล่นเฉยๆ
พอเดินรอบๆแล้ว ก็หาไม่เจอแบบที่เขารีวิว แต่ก็เดินไปเรื่อยๆ
ย่านนี้ดูคนแต่งตัวดูดี หรู กว่าย่านที่ผ่านมา และดูสงบเงียบกว่าย่านอื่นด้วย
จนมาเจอคอนโดหรูที่หนึ่ง ข้างล่างมีซุปเปอร์มาเก็ต สนามเด็กเล่น
เลยเป็นที่เหมาะที่เราจะมานั่งปิคนิคกัน โดยซื้อของกินจากซุปเปอร์มาเก็ต
มีลดราคาเต็มเลย มานั่งกินที่ม้านั่ง ข้างๆสนามเด็กเล่น ดูเด็กเล่นไปด้วย
แม่ๆก็นั่งเฝ้า เป็นสถานที่ที่น่าอยู่จริงๆ ไม่ห่างจากตัวเมืองเลยด้วย
นั่งรถไฟหลงกันจนวันสุดท้าย เลยมาโผล่ที่ Shibuya แหล่งนัดพบ
ที่มีสุนัขฮาจิโกะ กับตู้รถไฟที่นำมาแสดง ซึ่งก็ให้คนเข้าไปดูเรื่องราวได้
คล้ายๆ พิพิธภัณฑ์รถไฟย่อมๆ แต่คนที่มานั่งข้างในรถไฟ
นี่เขานั่งทำไรกันเนี่ยะ เป็นคนญี่ปุ่นทั้งนั้น ไม่ใช่นักท่องเที่ยวเล้ย
แต่ก็ดี มาเป็นนางแบบให้ถ่ายรูปซะเลย
ย่าน Shibuya นี้มาก็ไม่ได้อยากซื้ออะไร มาแค่ดูแฟชั่น
ดูการแต่งตัวของคนญี่ปุ่น แค่นี้ก็คุ้มแล้ว
แต่ถ้ามาซื้ออะไรสักอย่าง จะเริ่มไ่ม่คุ้มแล้วเพราะแพงมหาโหด
ขนาดเดรสกองใส่กะบะขายแบบ special sale เลหลัง กองๆไว้
ไม่ได้ใส่ไม้แขวนเสื้อ ยังราคาตั้ง 6,600 เยน จะบ้าตาย
แต่ชุดเขาน่ารักจริงๆไม่เถียง กลัวว่าหน้าไม่ให้
หน้าเราไม่เข้ากับชุดเขาเท่านั้นเอง
ที่ชิบุยะนี้ จะไม่เล่าอะไรมาก เพราะคนไปกันมากอยู่แล้ว
สำหรับเราไม่ได้ให้เวลามาก เดินผ่านๆ แล้วก็ไปต่อเท่านั้น
ต่อกันที่ย่าน Sugamo เขาเรียกกันว่า harajuku obasan
คือเป็นที่เที่ยวสำหรับผู้สูงวัย อันนี้ชอบมาก ดูเป็นญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น
คนขายก็เป็นผู้สูงวัย คนซื้อก็สูงวัย สงสัยเราจะสูงวัยเลยชอบด้วย
บังเอิญว่ารอบนี้มาตอนจะมืดแล้ว ร้านค้ากำลังปิดกัน
ถ้ามาตอนกลางวันจะคึกคัก น่าเดินมาก เสียดายจริงๆ
ใครสามารถไปได้ แนะนำจริงๆเลยที่นี่ ห้ามพลาดเด็ดขาด ชอบมากๆ
ย่านนี้เป็นแหล่งที่เราคิดว่า น่าอยู่ที่สุดเลย เท่าที่เดินผ่านมา
เพราะมันดูเป็นธรรมชาติของชาวบ้าน ไม่ใช่วิวธรรมชาติสวยนะ
แต่รู้สึกถึงความเป็นครอบครัว
ทั้งที่จริงๆแล้ว Sugamo อยู่ไม่ห่างกับ Akihabara เลย ใกล้ใจกลางเมืองมาก
เริ่มมืดแล้ว เวลาผ่านไปเร็วจังเลย ตามกำหนดการ
เราจะต้องไปรับกระเป๋าที่โรงแรม ก่อน 3 ทุ่ม เพื่อจะไปสนามบิน
เพราะรถไฟฟ้าจะปิดตอนเที่ยงคืน แต่คืนนี้ เรายังไม่ได้กลับ
ยังต้องนอนที่สนามบินอีกหนึ่งคืน เพราะเครื่องจะออก ตอน 8 โมงเช้า
เพราะอยากสัมผัสบรรยากาศ การนอนสนามบินที่ญี่ปุ่นบ้าง
เพราะไปไหนก็ได้นอนมาทุกที่แล้ว ถ้าได้อ่านรีวิวทุกรีวิว
ก็จะได้นอนสนามบินทุกที่มาแล้ว
แต่ตอนนี้ ยังมีเวลาเหลืออยู่นิดหน่อย จะไปไหนต่อดี
ที่่วางแผนกันไว้ ก็ไม่ได้ไปกัน เช่น korakuen jimbocho
เลยตัดสินใจไป Ikebukuro ไม่รู้หรอก ว่าจะไปทำไม ไปงั้นๆแหล่ะ
มีแต่ตึกสูงๆ เลยตกลงกันว่าจะลองไป namco ที่ sun city ดูละกัน
ปรากฏว่าหอบสังขาร เดินหาอยู่ตั้งนาน ไกลด้วย แถมไปถึงดันปิดปรับปรุงซะนี่
เลยเข้าไปดูเขาเล่นหยิบตุ๊กตาในร้านดีกว่า มันเยอะมากจริงๆเต็มไปหมด
ยังกะอยู่คาสิโน แต่เราก็ไม่ได้เล่น เพราะไม่ชอบเสี่ยง รู้สึกเหม็นบุหรี่ด้วย
ได้แต่ดูคนอื่นเล่น ก็สนุก ลุ้นไปกับเขาด้วย ของรางวัลแต่ละอย่างก็น่าดึงดูดทั้งนั้น
บางคนถึงกับเตรียมถุงมาใส่ แล้วที่แบกๆ อยู่หลายถุงอีก ก็เป็นตุ๊กตา โมเดล ฯลฯ
เห็นได้มาเยอะมาก ไม่รู้เอาไปทำอะไร ช่างสะสมจริงๆเล้ย
จากนั้นก็ไปต่อที่ย่าน Ginza มีแต่ร้าน brandname
ไม่มีอะไรที่เราสนใจเท่าไหร่ (สำหรับเราตอนนั้นนะ)
ได้เวลากลับแล้ว เจอชายชุดดำ เมาเดินสโลสเล ปาดซ้าย ปาดขวา
ซึ่งเป็นเรื่องที่เราอ่านมาแล้ว ว่าต้องเจอแน่ๆ
แต่ตั้งแต่วันแรกยังไม่เคยเจอ ก็คิดในใจว่า ไม่เห็นจะมีคนเมาอย่างที่เขาว่าเลย
มาได้เห็นตอนจะกลับนี่แหล่ะ เหมือนได้สัมผัสความรู้สึกแบบญี่ปุ่น
ในจินตนาการเหมือนในการ์ตูนมากขึ้น
ขณะนั้นรู้สึกดีใจมากที่ได้กลับบ้าน แต่ก็เสียดายที่ต้องกลับแล้ว
สับสนในตัวเองมาก นี่ถ้ามีเวลาชะโงกทัวร์มันทุกสนานีเลย
สงสัยต้องอยู่กันเป็นเดือนเป็นปี เป็นคนชอบดูบ้านเมืองมากกว่าตึกย่านการค้า
ย่านไฮโซ ย่านนักท่องเที่ยว แต่วันนี้ก็เป็นวันที่มีความสุขที่สุดวันหนึ่ง
โดยไม่รู้ตัวเลยว่า ต่อไปจะเกิดเรื่องใจหายที่ไม่คาดฝัน ด้วยความประมาทแท้ๆ
สรุปค่ากินวันนี้
ซาลาเปาถั่วแดง ที่ไส้เยอะมากซื้อจากซุปเปอร์ เก็บไว้ในตู้เย็น 80 เยน
ไข่หวานเสียบไม้ Tsukiji 100 เยน
ทาโกะยากิ 8 ลูก SuperMarket Daikanyama 250 เยน
ปลาอะจิชุบแป้งทอด 8 ชิ้น SuperMarket Daikanyama 250 เยน
เค้กถ้วย SuperMarket Daikanyama 138 เยน
ช็อกเอแคลร์ชิ้นยาว SuperMarket Daikanyama 109 เยน
ร้าน 315 เยน เน้นของน่ารัก ได้รองเท้า+เสื้อคลุม 630 เยน
สตรอเบอรี่ 1 แพ็ค ใกล้ Harajuku Obasan 200 เยน
เต้าหู้บางห่อข่าว2ชิ้น 140+น้ำมะม่วงกล่องเล็ก Harajuku Obasan 238 เยน
ของทอด Harajuku Obasan 300 เยน
ขนมปัง Family Mart เก็บไว้กินตอนเช้าที่สนามบิน 198 เยน
รวม 2493 เยน
สวัสดีค่ะ GoNoGuide มีเป้าหมายที่จะให้ข้อมูลท่องเที่ยวและวีซ่า อย่างเต็มที่ในทุกเรื่องที่เรารู้ เพื่อนๆที่ต้องการสนับสนุนเรา สามารถทำได้ดังนี้
- เลือกบริการที่ต้องการสนับสนุนเรา
- GoNoGuide จะได้รับค่าคอมมิชชั่นเล็กๆน้อยๆ โดยที่เพื่อนๆไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม สำหรับลิงค์แนะนำโรงแรม เครื่องบิน และประกันต่างๆ
- กดติดตามช่อง Youtube และ Facebook GoNoGuide
ขอขอบคุณที่สละเวลาอ่านค่ะ