เที่ยวนิกโก้ วันเดียวไม่พอแน่ๆ ต่อให้มาแล้วก็อยากมาอีกแน่นอน เพราะที่นี่เป็นเมืองมรดกโลก เต็มไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีพาสจากโตเกียวแบบคุ้มๆ

การเดินทาง เที่ยว Nikko

พาสเที่ยวนิกโก้ ที่คุ้มที่สุด มีให้เลือก 2 แบบ ขึ้นอยู่กับจำนวนวันเที่ยวของเรา

• Nikko Pass World Heritage Area : บัสไปพวกวัดๆ และรถไฟ ไป Kinugawa -onsen ใช้ได้ 2 วัน
• Nikko All Area Pass : ไปได้ทั่วทุกเส้นทางในแถบบนิกโก้ ใช้ได้ 4 วัน

ทั้งสองพาสสามารถเดินทางไป-กลับ Asakusa – Nikko ได้ 1 รอบ เพราะขากลับเขาจะเก็บตั๋วไปเลย และเดินทางในนิกโก้ได้ไม่จำกัดตามพาสที่ซื้อ

สำหรับ GoNoGuide เลือก Nikko All Area Pass เดินทางจาก Asakusa ประมาณ บ่ายๆ ไปถึงประมาณ 4 โมงเย็น ก็ถือว่าไม่ได้เที่ยวอะไร ฉะนั้นวันเที่ยวเต็มๆจะแค่ 3 วัน ค้าง 3 คืน ส่วนวันสุดท้ายเที่ยวนิกโก้เสร็จก็กลับ Asakusa ช่วงค่ำๆ

---

แผนที่ Nikko Pass

พาสนิกโก้ใช้ขึ้นอะไรได้บ้าง

พาสนิกโก้ใช้ขึ้น Local train กับ Tobu line(Private) เท่านั้น ดังนั้นต้องติ๊กช่อง Ordinary Train และ Private Railways นอกนั้นปล่อยว่างไป ไม่งั้นมันจะขึ้นสายที่เราใช้พาสไม่ได้ ถ้าขึ้นไปก็โดนปรับนะจ๊ะ

โดยส่วนใหญ่ ผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบนี้ ขึ้นสายเหล่านี้ได้แน่นอน ไม่เสียเงินเพิ่มแน่ๆ เปลี่ยนสายประมาณ 3 ครั้ง แต่ก็ไม่ยาก แค่เดินออกจากประตูนึง แล้วเดินไปฝั่งตรงข้าม เดินไม่กี่ก้าว ก็ขึ้นอีกคันนึงได้เลย แต่ต้องรู้ว่าเราจะต้องไปเปลี่ยนสายที่ไหนนะ

แต่ถ้าใครอยากไปแบบหรูหราหน่อย ก็เพิ่มเงินขึ้น Spacia ได้ จะเร็วกว่าประมาณ 50 นาที และไม่ต้องเปลี่ยนสาย

รายละเอียดเรื่องตั๋วควรเช็คที่เว็บทางการของ Tobu ค้นคำว่า Nikko pass + tobu หรือ tobu.co.jp/foreign/en/

---

Tobu Asakusa

มาขึ้นต้นทางที่ Tobu-Asakusa ซื้อพาสนิกโก้ และขึ้นรถไฟที่นี่ได้เลย หรือถ้าใครพักใกล้ Tokyo Skytree ก็ซื้อพาสและขึ้นที่นั่นก็ได้

ซื้อพาสข้างล่าง ขึ้นมาชั้นสอง มีแค่ 2 รางเท่านั้น ทางซ้ายเป็น Spacia ต่อให้ซื้อพาสนิกโก้ ก็ต้องจ่ายเพิ่ม (ประมาณ พันกว่าเยน) ทางขวาเป็นรถไฟธรรมดา ใช้พาสได้เลย

---

Tobu-Nikko

ที่เที่ยวในนิกโก้

1. Kinugawa Onsen (รถไฟ)
2. Tobu World Square (รถไฟ)
3. Taiyuin Futarasan (บัส)
   ———1-3 ใช้ Nikko Pass World Heritage————
4. Kirifuri no Taki (บัส)
5. Kirifuri Kogen (บัส)
6. Akechidaira Ropeway (บัส)
7. Chuzenji Onsen (บัส) : Boat cruise , Kogen Falls
8. Hangetsusan (บัส)
9. Ryuzu Falls (บัส)
10. Senjogahara (บัส)
11. Yumoto Onsen (บัส)
    ———1-11 ใช้ Nikko All Area Pass————

---

1. Kinugawa Onsen

ที่ Kinugawa Onsen จริงๆแล้วก็ไม่ได้มีที่เที่ยวอะไรมากมาย จะออกแนวมาพักผ่อน แช่ออนเซนในโรงแรมมากกว่า

สำหรับ GoNoGuide วันนี้เลือกมาเดินเล่นเพลินๆ ไปที่สะพาน Kinu-Tateiwa-Otsuribashi Suspension Bridge มีทางเดินชมวิวเล็กๆ

Kinugawa River Cruise

หรือใครชอบกิจกรรมหน่อย ก็จะมีล่องเรือไม้ น้ำไหลแรงๆหน่อยบางจุด ใช้เวลา 40 นาที จุดขึ้นเรืออยู่ไม่ห่างจากสถานี Kinugawa Onsen

จุดขึ้นบัสไป Edo Wonderland

อีกจุดหนึ่งที่คนส่วนใหญ่มาลง Kinukawa Onsen ก็เพราะว่าจะไป Edo Wonderland ซึ่งพอลงรถไฟจากสถานี Kinukawa Onsen แล้วก็เดินออกมานิดเดียวหันขวา ก็จะเจอป้ายบัสชานชาลา3 เบอร์บัส201 พาเราไปถึง Edo Wonderland เลย สามารถใช้นิกโก้พาสได้เลยด้วย

2. Tobu World Square

อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยคือ Tobu World Square เป็นเมืองจำลองสถานที่สำคัญทั่วโลกที่อลังการมาก ลงรถไฟสถานี Tobu World Square ก็ถึงเลย

---

3. Taiyuin Futarasan

เป็นพื้นที่วัด ศาลเจ้า พิพิธภัณฑ์ และที่สำคัญคือมีสุสานของตระกูลโทกุกาวะด้วย เพราะเมืองนิกโก้ เป็นฐานดั้งเดิมของตระกูลนี้มาก่อน

Shinkyo Bridge

ถ้านั่งบัสจาก Tobu-Nikko ก็ลงป้าย Shinkyo Bridge จะเจอสะพานชินเงียว หรือสะพานศักดิ์สิทธ์ ซึ่งถือเป็น1ใน3สะพานที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นเลยด้วย

ถ้าจะข้ามสะพานนี้จะมีค่าเข้าเล็กน้อย เพราะเป็นสะพานเก่าแก่มาก

Rinnoji temple Nikko

Rinnoji temple เป็นวัดเก่าแก่สมัยศตวรรษที่8 และมีความสำคัญที่สุด มีสวนและพิพิธภัณฑ์ภายใน

Nikko Toshoku Museum

Toshoku Museum จะมีศาลเจ้าประจำตระกูลโตกุกาวะอยู่ ภายในตกแต่งด้วยศิลปะแบบโบราณละเอียดอ่อนและมีรายละเอียดมาก

Taiyuin Mausoleum

Taiyuin Mausoleum เป็นสุสานประจำตระกูลโทกุกาวะ ภายในมีสุสานแต่ละโชกุนที่ใหญ่โตและสมเกียรติ

---

สำหรับคนที่มีเวลาที่นิกโก้แค่ 1-2วัน ก็ให้ซื้อ Nikko Pass World Heritage Area ดีกว่า ใช้ไป Kinukawa Onsen และ Taiyuin Futarasan แค่นี้ก็เต็มที่แล้ว

ในส่วนต่อจากนี้จะสำหรับคนที่ซื้อ Nikko All Area Pass นะคะ นอกจากที่ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังมีอีกหลายที่ที่น่าสนใจ พาสนี้ใช้ได้ 4 วัน แต่เลือกที่ไปให้ดีล่ะ เพราะแต่ละที่มันสวยๆ และต้องใช้เวลาดื่มด่ำกับธรรมชาติมากพอสมควร ยิ่งถ้าใครชอบ Hiking ด้วยล่ะก็ มีเส้นทางเดินป่าหลายที่มากๆ จนคิดว่ามาครั้งนี้ครั้งเดียวไม่พอแน่ๆค่ะ

---

4. Kirifuri no Taki

จุดชมวิวน้ำตก Kirifuri ที่ต้องเดินลึกเข้าไปพอสมควร แต่วันนั้นมีหมอกเลยบังวิวหมดเลย (9-12 กรกฎาคม)

---

5. Kirifuri Kogen

Kirifuri Kogen เป็นเส้นทางเดินป่า Hiking ที่สวยงามมาก มีหลายเส้นทางมากมาย และอาจได้เจอกวาง และลิงด้วย เพราะบริเวณนั้นเป็นป่าอุดมสมบูรณ์มาก ขึ้นไปจะเจอจุดชมวิวหลายจุด

---

6. Akechidaira Ropeway

พาสนี้ใช้ขึ้น Ropeway ได้เลย ขึ้นไปก็จะเห็นดั่งภาพบน แต่ GoNoGuide ไป เห็นดั่งภาพล่าง (9-12 กรกฎาคม)

มีแต่หมอกและแมลงปอ ได้แต่ดมกลิ่นดินและดูหยดน้ำบนใบไม้

---

7. Chuzenji Onsen

Chuzenji boat cruise

เป็นเรือลำใหญ่ล่องทะเลสาบ Chuzenji ถือว่าเป็นไฮไลท์ของการมานิกโก้อย่างหนึ่งเลย

สามารถใช้พาสได้ด้วย เรือจะจอดเป็นท่าๆ แต่เราใช้พาส จะใช้ได้แบบ Round Trip วิวสวยมากๆ แต่ถ้าหมอกลงมากหรือพายุเข้า ก็จะถูกยกเลิกได้

ภูเขา Nantai มีทางเดิน Hiking ด้วยนะ ถ้ามีโอกาสจะมาปีน

ภายในเรือ มีที่นั่งแบบหรูหรามาก แต่ถาอากาศดีๆ ใครๆก็ขึ้นไปบนดาดฟ้ากันทั้งนั้นค่ะ

Kegon Falls

น้ำตกเดือนกรกฎาคม ถือว่าแรงพอสมควร แต่จะมีเดือนอื่นที่ใหญ่และแรงกว่านี้มาก ส่วนช่วงหน้าหนาวน้ำเป็นน้ำแข็งก็จะเป็นสายน้อยๆกว่านี้ (ควันที่เห็นคือหมอกนะ ไม่ใช่น้ำพุร้อน ได้ดูน้ำตกแป๊บเดียว หมอกก็พัดมาบังซะแล้ว)

ใครที่อยากลงไปดูน้ำตกใกล้ๆ ก็สามารถลงลิฟท์ไปได้ด้วย (ขึ้นลงประมาณ 5xx เยน)

ถ้าจะไปน้ำตกก็ลงบัสป้าย Chuzenji Onsen แล้วเดินไปอีกประมาณ 5-10 นาทีก็ถึง
ถ้าจะไปขึ้นเรือก็ลงป้าย Funenoeki Chuzenji (เบอร์ 28)
แต่ทั้งล่องเรือและน้ำตกจะอยู่ไม่ห่างกันมาก สามารถเดินถึงกันได้

---

8. Hangetsusan

เป็นจุดชมวิวอีกจุดหนึ่ง แต่….หมอกลง ก็ไม่เห็นอะไรเหมือนกัน ฮือๆ

---

9. Ryuzu Falls

น้ำตกที่แสนย๊าว…ยาว มีทางเดินชมธรรมชาติมากมาย

---

10. Senjogahara

ตั้งใจแวะที่นี่เพราะเป็นทางผ่านไป Yumoto Onsen เห็นเว็บท่องเที่ยวญี่ปุ่น บอกว่าเป็นทางไม้เดินชมธรรมชาติ แต่พอลงบัสแล้ว เป็นแค่จุดชมวิวเล็กๆ ไม่เห็นมีทางเดินอะไรเลย ก็เลยแปลกใจว่ารูปในเว็บทางการเขาเอามาจากไหน

มาศึกษาข้อมูลทีหลังก็พบว่า จุดนี้เป็นแค่ชมวิวเล็กๆ แต่ทางเดินชมธรรมชาติจะอยู่รอบๆ ซึ่งห่างจากจุดนี้มาก

---

11. Yumoto Onsen

เป็นจุดเดินป่าชมธรรมชาติอีกที่หนึ่ง ส่วนใหญ่มาแช่ออนเซน

ทะเลสาบยูโนะ สวยมากๆจริงๆ จะมาพายเรือ นั่งปิกนิก ก็สบ๊ายสบาย

ตรงนี้เป็นต้นกำเนิดของน้ำพุร้อน กลิ่นจะอบอวลคล้ายไข่เน่า เพราะมี Sulfer อยู่เยอะ

จะมีกระท่อมจิ๋ว ครอบบ่อน้ำพุอยู่ แต่ที่น่าแปลกว่าแถวนั้นเหมือนไม่ใช่ที่เที่ยว ไม่มีของขาย ไม่มีพิพิธภัณฑ์ใดๆ แต่จะมีโรงออนเซ็นจะมีที่ให้แช่เท้า แค่ 200 เยนเท่านั้น หรือจะไปแช่ทั้งตัวด้านในร้านก็ได้

---

สรุปความเห็นของ GoNoGuide

• แม้ว่าที่พักแถวนิกโก้จะแพงมาก แต่ก็คุ้มค่ากับการมาเยือน
• พาส 4 วัน คุ้มค่ามากๆ จริงๆก็ไม่พอหรอก ถ้ามีโอกาสจะต้องกลับมาอีกแน่ๆ
• เนื่องจากช่วงนั้นเป็นช่วงหมอกลงทำให้ไม่เห็นวิวมาก แต่มั่นใจว่าถ้าไปช่วงที่ไม่มีหมอก วิวต้องสวยมากๆแน่ๆ
• จุดที่แนะนำไม่อยากให้พลาด เรียงลำดับตามความชอบของ GoNoGuide นะคะ
  • เบอร์ 7. Chuzenji Boat Cruise
  • เบอร์ 6. Akechidaira Ropeway
  • เบอร์ 4. Kirifuri no Taki (Kirifuri Falls)
  • เบอร์ 5. Kirifuri Kogen (ชมวิว เดินป่า ถ้าจะเดินป่าต้องให้เวลาทั้งวัน)
  • เบอร์ 9. Ryuzu Falls (ทางเดินชมน้ำตก และธรรมชาติ)
• ส่วน เบอร์ 3. Taiyuin Futarasan (ถ้าจะเข้าชมภายในด้วยจะใช้เวลานานมากให้ไป 1 วันเลย)
• ส่วน Edo Wonderland กับ Tobu World Square ต้องแยกเป็นวันละ 1 ที่ไปเลย

---

อ่านรีวิว GoNoGuide Season 4 เที่ยวโตเกียว คาวากุจิโกะ นิกโก้

---

---

จากคาวากุจิโกะ ไป นิกโก้ ไปยังไงถูกที่สุด ต่อรถไม่ยาก

---

นิกโก้ โอ้โหว…เมืองหมอก

---

เที่ยว Kinukawa Onsen เดินเล่นนิกโก้

---

Nikko มรดกโลก ล่องเรือ ชมน้ำตก

---

เที่ยวนิกโก้ เดินทางยังไง

---

---