เที่ยว Garmisch-Partenkirchen
หลังจากกลับจาก เที่ยว Mittenwald พวกเรานั่งรถบัสมา เที่ยว Garmisch-Partenkirchen ในช่วงเย็น ซึ่งก็คงได้แค่เดินเล่นนิดหน่อยด้วยความเหนื่อยล้า จากนั้นก็เข้าที่พักค่ะ
ทำไมชื่อยาวจัง
เมืองนี้มีชื่อเต็มๆว่า Garmisch-Partenkirchen
ใครนะช่างตั้งให้ยาวแสนยาว(แต่ยังไงก็สู้กรุงเทพฯไม่ได้ ฮ่าๆๆ)
คือเดิมที บริเวณนี้มีเมืองเล็กๆ สองเมืองติดกัน ก็คือเมือง Garmisch และเมือง Partenkirchen
แต่เนื่องจาก Adolf Hitler จะให้เมือง Garmisch เป็นเมืองจัดโอลิปิกฤดูหนาว
แต่ไม่ได้รับการยอมรับจากที่ประชุมโอลิมปิก เพราะโรงแรม และที่รองรับผู้คนไม่มากพอ
ฮิตเลอร์ก็เลยควบเมือง Partenkirchen (เมืองข้างๆ) เข้ามารวมกับ Garmisch
ทำให้เป็นเมืองเดียวกัน เลยได้ชื่อว่า Garmisch-Partenkirchen อย่างทุกวันนี้
สุดท้าย Garmisch-Partenkirchen ก็ได้เป็นเจ้าภาพในการจัด Winter Olympic ในปี 1936
ในปีเดียวกันก็ได้เป็นเจ้าภาพจัด Summer Olympic ที่ Berlin อีกด้วย
และมีการลงมติได้ เจ้าภาพจัดโอลิมปิกครั้งถัดไปก็คือ ญี่ปุ่น ในปี 1940
แต่ถูกยกเลิกไป เพราะเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง ปี 1939-1945 นั่นเองค่ะ
Garmisch-Partenkirchen เคยเป็นที่ถ่ายทำหนังดังด้วยนะ
ถ้าอยากอินกับ Garmisch-Partenkirchen ให้มากขึ้น แนะนำให้หาหนังเรื่องนึงมาดูค่ะ
ชื่อว่า Eddie the Eagle
เป็นหนังปี 2016 เรื่องราวเกี่ยวกับหนุ่ม British ที่มีความฝันตั้งแต่เด็ก ที่อยากลงแข่งโอลิมปิก
จะเป็นกีฬาอะไรก็ได้ ขอให้ได้ไปโอลิมปิก แม้ว่าจะเคยมีปัญหาเรื่องสุขภาพอยู่แล้วก็ตาม
สุดท้ายก็ติดทีมชาติอังกฤษ ประเภท ski jumping และทำลายสถิติโลกซะด้วย
เรื่องนี้สนุก ตลก และได้แรงบันดาลใจอย่างมาก เพราะมันสร้างมาจากเรื่องจริง
แถมยังมี Hugh Jackman (แต่แอดมินเรียก Wolverine ตลอดเลย) แสดงร่วมด้วยนะ
แต่ที่มันเกี่ยวกับ Garmisch-Partenkirchen ก็เพราะว่า
โอลิมปิกครั้งนั้น ก็คือ โอลิมปิกที่จัดขึ้นที่ Garmisch-Partenkirchen ไงคะ
เราจะได้เห็น…ลานสกี ก็หนังเกี่ยวกับสกีนี่นะ ไม่มีฉากเมืองหรอกค่ะ แหะๆ
สถานที่เที่ยวเด่นๆใน Garmisch-Partenkirchen
เมืองนี้เขาขึ้นชื่อเรื่องการเล่นสกี และปีนเขามากนะคะ ใครชอบแนวนั้นเรียนเชิญนะคะ
แต่พวกเราไม่ใช่สายนั้นเลยค่ะ พวกเราสายทัวร์คนแก่เดินชมเมือง ฮ่าๆๆ
จริงๆที่นี่มีที่เด่นๆอีกหลายจุดนะคะ แต่ล้วนแล้วแต่อยู่นอกเมืองทั้งนั้น เช่น
Zugspitze
ขึ้นกระเช้าไปกลับ 52 euro ยังต้องมีค่ารถจากในเมืองไปอีกนะ
อันนี้เป็นเทือกเขาที่เขาว่าสูงที่สุดในยุโรปแล้วนะคะ พีคมาก
อยากลอง แต่แพง และกลัวหนาวค่ะ
Eibsee Lake
นั่ง bus ไปประมาณ30 นาที ค่ารถไป-กลับ ประมาณ 6-8 euro
อันนี้ก็น่าไปมากๆค่ะ ถ้าอยู่หลายคืนก็น่าลองค่ะ
แต่พวกเราอยู่แค่คืนเดียว เวลาไม่พอแล้วค่ะ
Partnach Gorge
ทางเดินในหุบเขา มีน้ำตก น่าไปมากค่ะ สวยมาก
แต่ไปไกล ควรจัดเวลาให้ทั้งวัน และต้องซื้อทัวร์ ค่อนข้างแพง
Wankbahn
กระเช้าขึ้นเขา ขึ้น-ลง 16 euro อยู่ใกล้เมืองมาก
เป็นสถานที่แนะนำที่อยากให้ไปมากๆค่ะ
เพราะแอดมินมีเวลาให้ที่นี่น้อยมาก เลยไม่ได้ไป
เสียดายมากค่ะ ไปเผื่อแอดมินด้วยนะ
แล้วแอดมินมาทำอะไรใน Garmisch-Partenkirchen
เออนั่นดิ…. เรามาทำอะไรหว่า สกีก็ไม่ได้เล่น กระเช้าก็ไม่ได้ขึ้น เขาก็ไม่ได้ปีน
อย่างที่บอกน่ะค่ะว่า เราทัวร์คนแก่ แค่เดินเล่นในเมืองอย่างเดียวก็พอใจแล้วค่ะ
รวมถึงเราให้เวลาที่ Mittenwald มากกว่า (ชอบมากกว่า)
กว่าจะถึง Garmisch-Partenkirchen ก็เย็นแล้วค่ะ
แถมมีเงินแค่อยู่ได้คืนเดียว ก็คงต้องจำใจจากล่ะค่ะ
สรุปคือ มาเดินเล่นดูเมืองค่ะ
ถ้ามีเวลาทั้งวันจะทำอะไรใน Garmisch-Partenkirchen
ที่แนะนำหลักๆก็คือ เดินเล่นทั้งสองฝั่งค่ะ
ถ้าดูจากแผนที่ ฝั่ง Garmisch จะอยู่ฝั่งตะวันตก จะมีตัวเมือง โบสถ์
ใช้เวลาน่าจะไม่เกิน 1 ชม. ถ้าตั้งหน้าเดิน ไม่แวะกิน ก็คงหมดแล้วค่ะ
ส่วนฝั่ง Partenkirchen จะอยู่ฝั่งตะวันออก ก็มีตัวเมือง และโบสถ์ เช่นกัน
ใช้เวลาน่าจะมากกว่า 1 ชม. หน่อยๆ
ส่วนตัวชอบ Partenkirchen มากกว่าค่ะ ดูเป็นบ้าน ที่อยู่คนจริงๆมากกว่า
แต่ Garmisch จะออกแนวทันสมัย แบรนด์เนม โรงแรม ขายของ
ส่วนบ้านจะมีลวดลายเพ้นท์รูปสวยงามเหมือนกันค่ะ
สรุปแล้วเดินสำรวจทั้งสองฝั่งนะคะ ใช้เวลา 2 – 3 ชม.
จบแล้วก็ไป Wankbahn หรือ Zugspitze หรือ Eibsee Lake
เลือกได้ที่ใดที่หนึ่งนะคะ จะสลับไปตอนเช้าก็ดีนะ กลับมาค่อยเดินเมืองก็ได้
ส่วน Partnach Gorge อาจต้องใช้เวลานานทั้งวัน กลับมาถึงเย็น
แล้วแต่จะให้เวลาส่วนไหนมากกว่ากันนะคะ
Guest Card
ถ้าได้มาพักที่โรงแรมในแถบ Oberbayern อย่าลืมขอ Guest Card นะคะ
ไม่แน่ใจว่าทุกโรงแรมหรือเปล่า แต่ส่วนใหญ่จะมีค่ะ
Guest Card หรือ Visiter’ card เป็นการ์ดที่ทางโรงแรมจะออกให้เรา
เอาไว้ใช้ขึ้นบัสฟรี ในเขตเมืองนั้นๆ (ใช้ภายในเมือง)
แต่คนที่จะใช้คุ้มก็คือ มาเช็คอินโรงแรมแต่เช้า ขอ Guest card แล้วขึ้นรถบัสไปนู่นนี่ แล้วกลับมาโรงแรม
อย่าลืมว่าตอนมาโรงแรม เราต้องจ่ายเงินค่าบัสเองนะ(ก็ยังไม่มีการ์ดนี่นะ)
สำหรับพวกเรา ใช้ขึ้นบัสฟรีแค่ครั้งเดียวค่ะ คือตอนขาออกจากโรงแรม
เพราะขามาก็เย็นแล้ว จ่ายค่าบัสขามาเอง แล้วก็ไม่ได้ออกไปไหนอีก
พอรุ่งขึ้นก็เช็คเอาท์แล้ว แต่ก็ยังใช้ Guest card ขึ้นบัสฟรีนะคะ
ขึ้นบัสไป Garmisch-Partenkirchen bahnhof (ประหยัดไป 3.6 ยูโร)
ดูวิดีโอ[เที่ยวยุโรป] Traveling Garmisch-Partenkirchen ; painted-building : Germany Travel Vlog Ep74
รวมลิ้งค์ทุกตอน รีวิวเที่ยวยุโรป Season1
สวัสดีค่ะ GoNoGuide มีเป้าหมายที่จะให้ข้อมูลท่องเที่ยวและวีซ่า อย่างเต็มที่ในทุกเรื่องที่เรารู้ เพื่อนๆที่ต้องการสนับสนุนเรา สามารถทำได้ดังนี้
- เลือกบริการที่ต้องการสนับสนุนเรา
- GoNoGuide จะได้รับค่าคอมมิชชั่นเล็กๆน้อยๆ โดยที่เพื่อนๆไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม สำหรับลิงค์แนะนำโรงแรม เครื่องบิน และประกันต่างๆ
- กดติดตามช่อง Youtube และ Facebook GoNoGuide
ขอขอบคุณที่สละเวลาอ่านค่ะ