เที่ยว Arashiyama แบบรีบๆ

หลังจากเสร็จศึกจากอารมณ์ขุ่นมัวกับ Romantic Train ก็กลับมาที่จุดเดิมแล้วเดินไปตามเส้นทางนักท่องเที่ยว โดยผ่านป่าไผ่ วัด Tenryuji แต่เป็นการเดินแบบตามใจฉัน เดินแบบชะโงกทัวร์  ข้ามสะพาน Togetsu-kyo แล้วไปสุดที่สถานี Arashiyama ที่อยู่ล่างสุด

เหตุผลที่ต้องรีบ ไม่เจาะลึกเพราะ 1.ปวดข้อเท้ามาก 2.เริ่มมืดแล้ว หนาวก็หนาว ยุงก็ตัวใหญ่อย่างกับแมลงวัน 3.แบตกล้องจะหมดแล้ว เหลือถ่ายได้เท่าที่เห็นนี้ค่ะ

ระหว่างเส้นทางเดินของนักท่องเที่ยว จะมีร้านขายของกินเยอะมาก  ขนาดเย็นมากๆเกือบจะมืดอยู่แล้วก็ยังคึกคักไม่ขาดเลยค่ะ

แต่พอเข้าซอยเล็กๆที่เป็นทางเดินเข้าป่าไผ่ก็จะเริ่มเงียบ  ไม่ใช่เพราะคนน้อยลงนะคะ  แต่เพราะมันมีแต่ต้นไม้ ไม่มีบ้าน ไม่มีร้านค้า ไม่มีรถ  แต่คนก็ยังทยอยเดินเข้าออกกันเรื่อยๆ

จริงๆส่วนที่แอดมินเดิน มันยังไม่ใช่ป่าไผ่ที่เป็นไฮไลท์นะคะ  มันเป็นแค่ทางเข้า ต้นไผ่ก็จะเป็นแค่กระหย่อมเฉยๆ  ของจริงอยู่ด้านในเข้าไปลึกพอสมควร   แต่แอดมินเดินไปไม่ไหวอ่ะค่ะ ปวดข้อเท้ามาก เลยได้แค่นี้ค่ะ

พอเจอทางโค้งที่จะไปป่าไผ่ของจริง (ชะโงกดูแล้วก็ถอดใจค่ะ มันสุดลูกหูลูกตาเลย) ตรงหัวมุมจะเป็น Nonomiya shrine

ตำนานของ Nonomiya shrine

น่าสนใจดีค่ะคือ ในวรรณกรรม the Tale of Genji เล่าว่า Lady Rokujo ซึ่งเป็นท่านหญิงในตระกูลสูงศักดิ์ ได้ถอดจิตไปทำความชั่วร้ายคือคบชู้กับ Genji ซึ่งเป็นชายหนุ่มที่มากด้วยรัก  จนภรรยาของ Genji ต้องฆ่าตัวตาย  แต่สุดท้ายก็ก็รู้สึกสำนึกได้

พอดีลูกสาวต้องไปบวชเป็นนักบวชหญิง(Saigu) ที่ศาลเจ้า Ise(เป็นศาลเจ้าที่สำคัญมาก) แต่ก่อนไปต้องมาชำระบาป ทำร่างกายให้บริสุทธิ์ที่ Nonomiya shrine นี้ก่อนเป็นเวลา 1 ปี  Lady Rokujo เลยถือโอกาสตามไปด้วยซะเลย

แต่ Genji ก็ยังแอบลักลอบมาหาอีกที่ Nonomiya shrine นี่แหละ โดยยื่นกิ่งต้น Sakaki ให้ผ่านช่องรั้ว แล้วบอกกับเธอว่า “ ’With heart unchanging as this evergreen, This sacred tree, I enter the sacred gate”

ต่อมาศาลเจ้าแห่งนี้จึงเป็นที่กล่าวขานในเรื่องของการทำให้สมหวังในความรัก และการคลอดบุตรให้ปลอดภัย

สรุปจากโพสของสมาชิกเวปพันทิป คุณ blueschizont

---

 

 

หลังจากเยี่ยมชม Nonomiya shrine แล้วก็ชะโงกโค้งที่จะไปป่าไผ่ดู เห็นหนทางแล้วก็พยักหน้าให้แฟน  บอกว่า…ป่ะ เรากลับกันเหอะ  แล้วก็เดินย้อนกลับไปทางเก่า มุ่งลงใต้ไปทางสะพาน Togetsu-kyo

ระหว่างทางก็จะเห็นคนลากรถแบบโบราณอยู่เรื่อยๆค่ะ  คนนั่งก็จะดูเหมือนลูกท่านหลานเธอ ดูดีมีสง่าขึ้นมาทันใดเลย  ส่วนคนลากก็ดำๆเหมือนทาสในเรือนเบี้ยไป   แต่จริงๆคนลากน่ะน่าจะมีกะตังค์นะ  เพราะค่ารถลาก ก็ไม่ใช่ถูกๆนะ  คนนั่งนะสิจะจนเอา เพราะจ่ายไปเยอะ

พูดถึงคนลากรถลากหน่อยนะคะ คือพื้นที่แถบเกียวโต arashiyama มันจะมีส่วนที่เป็นเนิน เป็นสะพานเยอะนะคะ

ทีนี้มีอยู่ครั้งนึง  ยืนดูอยู่ตรงสะพานโค้ง  แล้วก็เห็นรถลาก  ลากรถที่มีคนนั่ง2คนขึ้นสะพาน (อันนี้ไม่เท่าไหร่เพราะเขาน่าจะแรงเยอะ) พอขาลงสะพานเนี่ยะ   โหย…ลุ้นแทบแย่  เพราะปลายสะพานมันเป็นไฟแดง  คือเขาต้องเบรคแบบว่า….ซอยเท้ายิกเลย   เราลุ้นแทบแย่ว่าจะเบรคอยู่หรือเปล่า   ถ้าเราเป็นคนนั่งคงจะเสียวไส้แย่เลย

จะว่าไปการนั่งรถลาก  อารมณ์คงจะเหมือนพวกฝรั่งชอบมานั่งตุ๊กตุ๊ก สามล้อบ้านเรา   เขาว่ามองเห็นวิวได้ชัดดี (กลิ่นควันท่อไอเสียก็คงจะหอมด้วยมั๊ง)

แต่พูดถึงควันรถ ที่ญี่ปุ่นไม่ค่อยได้กลิ่นควันรถเลยนะ  ควันขาวๆดำๆไม่ต้องพูดถึง  ไม่มีเลย  แล้วที่เขาว่าเกียวโตรถติด ก็ไม่เห็นติดซักหน่อย(ไม่ว่าจะในเมืองเกียวโต หรือรอบนอก ก็ไม่เห็นติดเลย)

---

 

เดินเล่นมาจนถึงหน้าวัด Tenryuji  (ได้ไงไม่รู้) เลยเข้าไปชมซักหน่อย  (ประวัติ  Tenryuji Temple)

บริเวณวัดกว้างขวางมาก เดินไปชะโงกเห็นพื้นที่ใหญ่โตแล้วก็ถอยเลยค่ะ  ช่วงเย็นบริเวณวัด Tenryuji  ก็เริ่มมืดแล้ว  บรรยากาศก็เลยออกแนววังเวงนิดหน่อย ด้านข้างมีสระบัวขนาดใหญ่  ที่พื้นเป็นหินกรวดโรยเต็ม เว้นทางเดินตรงกลางปูแผ่นหินเป็นแนวไปสู่อาคารไม้  ที่นี่ห้ามใช้ขาตั้งกล้องนะคะ  เพราะเดี๋ยวพื้นเป็นรู

เดินออกมา มุ่งหน้าไปทางใต้อย่างเดียวเลย   ระหว่างทางเจอรูปปั้นพระ และกองหินอธิษฐาน เห็นแล้วนึกถึงในละครญี่ปุ่น

เขาจะเอาหินมาวางทับๆกัน คนนึงก็หยิบมาก้อนนึง วางไว้แล้วก็ยกมือไหว้ อธิษฐาน   อีกคนก็จะเอาหินมาวางต่อ  แล้วยกมือไหว้อธิษฐานอีก  บางคนก็เอามาหลายๆก้อน  ใหญ่-เล็ก แล้วซ้อนๆกัน แต่ไม่ให้ล้ม  คล้ายกับเป็นการขอพร

พวกเราไม่มีหินก็ได้แต่ยกมือขอให้เดินทางปลอดภัย จิตใจมั่นคงเหมือนหิน…สาธุ

แล้วก็เดินข้ามสะพาน Togetsu-kyo  ที่อลังการมาก  ข้างใต้ก็เป็นแม่น้ำที่มีหน้ากว้าง  กว้างมากจริงๆ  สวยจนอยากลงไปนั่งเล่นเลย  แต่อากาศก็เริ่มหนาว คงต้องรีบกลับแล้วค่ะ

 

จากนั้นก็กลับไปเดินเล่นย่าน Tenjinbashisuji 6 Chome มีซอยที่มีร้านค้าตลอดแนวร่วม 1 กม. แต่ร้านค้าปิดไปเยอะแล้ว เพราะเกือบ 3 ทุ่มแล้ว

เป้าหมายคือซื้อเสบียง  และหาซื้อเสื้อกันหนาวบางๆซักตัว เพราะลืมหยิบมาจากบ้าน  บ้ารึป่าวเนี่ยะ…ลืมได้ไงไม่รู้ เลยต้องทนหนาวมาตลอด

---

สไลด์โชว์ อาราชิยาม่า

สรุปความรู้สึกโดยรวมของพื้นที่ Arashiyama

1. สวยค่ะ ยอมรับเลย ร่มรื่น บางส่วนคึกคัก น่าเดิน หลากหลาย
2. สามารถใช้เวลากับที่นี่ได้ครึ่ง-ค่อนวันเลย ถ้าเดินไหว
3. คุ้มค่านะที่จะแวะมา
4. บรรยากาศโดยรวมให้ความรู้สึกถึงความสมัยเก่าชนบทที่ดูดี  มีสตอรี่
5. ถ้าให้มาอีกจะมาเดินส่วนที่ไม่ได้เดิน จะให้เวลาครึ่งวัน(ซัก 4 ชั่วโมง) ไม่ขึ้น Romantic Train นะ
6. ชอบป่าไผ่ ทางเดินระหว่างทาง พีื้นที่บริเวณสะพาน Togetsu-kyo สวยมากๆ น่านั่งเล่น(ไม่มีรูป เพราะแบตหมดค่ะ น่าเสียดายสุดๆ)
   

   ---

สรุปทริปคันไซวันที่1 

สรุปรีวิวทริปคันไซทั้ง7วัน

ติดตาม GoNoGuide ผ่าน Facebook

---

 คลิปรีวิว Arashiyama

---

 

แผนที่เที่ยวคันไซวันที่1

---