ทริปนี้ GoNoGuide มาลงที่สนามบินนาริตะ และตรงไปยังคาวากุจิโกะเลย โดยไม่แวะในเมืองโตเกียว เดินทางด้วยบัสตรง ไม่ต้องต่อรถใดๆทั้งสิ้น

การเดินทางในคาวากุจิโกะ

มีตั๋ววันบัส 3 เส้นทางคือ

• Red Green Blue Line Bus : อันนี้เป็นที่นิยมที่สุด ครอบคลุมที่เที่ยวมากที่สุด
• Loop Bus : อันนี้ไปที่ยอดฮิตที่คนไทยรู้จักกันดีคือ Oshino Hakkai และ Chureito Pagoda แถมยังมีซ้อนทับเส้นทาง Red line เช่น Ropeway ด้วย
• F Line : อันนี้ไปสุดที่ทะเลสาบยามานากะ เป็นทะเลสาบที่เห็นวิวภูเขาฟูจิใกล้ที่สุด สายนี้ผ่าน Oshino Hakkai แต่ไม่ผ่าน Chureito

ทุกตั๋วจะใช้ได้ 2 วัน ถ้ามีเวลาแค่วันเดียว และแค่จะไปที่ยอดฮิตของคนไทย แนะนำ loop bus (ไป Oshino Hakkai , Chureito Pagoda , Ropeway)

ตั๋วเดินทางที่ GoNoGuide ใช้

• Red Green Blue Sightseeing Bus
  บ้างก็เรียกว่า Omni Bus หรือบ้างก็เรียก Retro bus
  แนะนำว่าเวลาไปซื้อตั๋วให้บอกว่า Red Green Blue Sightseeing bus จะเช้าใจกันง่ายกว่า
  • พาสนี้ใช้ได้ 2 วัน ราคาแค่ 1500 เยน (ปี 2019) ซื้อตั๋วได้ที่สถานีคาวากุจิโกะ
  • สถานที่ที่ตั้งใจจะไปคือ Iyashi-no-Sato Nenba , Wind Cave , Ice Cave , จุดชมวิว Koyodai , Lake Saiko , Lake Shojiko , Lake Motosuko คืออยากไปชมวิวธรรมชาติรอบๆทะเลสาบ
• Loop Bus
  • พาสนี้ใช้ได้ 2 วัน ราคาแค่ 1050 เยน (ปี 2019)
  • สถานที่ที่ตั้งใจจะไปคือ shino Hakkai , Chureito Pagoda , Ropeway

สำหรับแผนที่เต็มให้ดูจากเว็บ http://bus-en.fujikyu.co.jp/ แนะนำว่าให้ดูเป็นภาษาอังกฤษ เพราะจะมีข้อมูลที่มากกว่า และ ง่ายต่อการนำไปใช้จริง

ส่วนต่อไปนี้จะมาสรุปแบบง่ายๆ และเฉพาะที่พวกเราไปเท่านั้นนะคะ

---

ที่เที่ยวในคาวากุจิโกะ

Red Green Blue Sightseeing Bus

Kawaguchiko Ropeway

• Red line หรือ Loop Bus : ป้ายชื่อ Sightseeing Boat/Ropeway
• มีล่องเรือชมทะเลสาบคาวากุจิโกะ และ กระเช้าขึ้นไปจุดชมวิวภูเขาฟูจิ
• สำหรับใครที่ตั้งใจจะมาทั้งขึ้นเรือ ทั้งขึ้นกระเช้า ก็ให้ซื้อตั๋วแบบรวมตั๋วบัสไปด้วย (ถามได้ที่จุดขายตั๋วตอนซื้อตั๋วบัสที่สถานีคาวากุจิโกะ)

ไม่ขึ้นกระเช้า แต่จะเดินขึ้นเองได้มั้ย

สำหรับ GoNoGuide มาแบบประหยัด เราเลือกที่จะเดินชมธรรมชาติขึ้นไปแทนค่ะ (ไปถึงได้เหมือนกัน ไม่เสียค่าใช้จ่าย แค่เสียเวลาและต้องใช้แรงงาน)

ระหว่างทางเดินขึ้น จะมีจุดชมวิว และเก้าอี้นั่งพักหลายจุด ก็ถือเป็นการชมธรรมชาติระหว่างทางไปในตัว

ทางขึ้นอยู่ห่างออกไปหน่อย ไม่ค่อยมีคนรู้จัก แต่าทางเดินดี ไม่ยาก แต่ถ้าฝนตกอาจลื่นหน่อย ใช้เวลาเดินขึ้นประมาณ 1 ชม.แบบช้าๆ และลงประมาณ 30 นาทีแบบช้าๆ

ขึ้นไปถึงยอดแล้ว จะมีระเบียงให้ขึ้นไปชมวิวฟรีๆ ตรงในรูปจริงๆแล้วต้องเห็นภูเขาฟูจิอยู่ข้างหน้า แต่วันนั้นหมอกลงเยอะมาก (6 ก.ค.)

นอกจากนี้ยังมีทางเดินป่าอีกหลายเส้นทางในบริเวณนั้นอีกด้วย

Lake kawaguchiko

กลับลงมาแล้วก็เดินชมวิวรอบๆทะเลสาบคาวากุจิโกะ มีเรือใหญ่ล่องทะเลสาบ และเรือถีบ

---

Natural Living Center

Red Line ลงป้ายชื่อ Natural Living Center เดินมาอีกนิดเดียวก็จะเจอ Oishi Park เป็นสวนสาธารณะที่มีการประดับตกแต่งตามฤดูกาล ชมวิวสะพาน และวิวฟูจิ เช่น

• ปลายเมษายน ทุ่งทิวลิป
• ต้นพฤษภาคม มอสสีชมพูที่ปูเป็นพรม
• ปลายมิถุนายน-ต้นกรกฎาคม ทุ่มลาเวนเดอร์
• ปลายมิถุนายน-ต้นตุลาคม ทุ่งดอกไม้หลากสี
• 1 ธันวาคม-31มกราคม ไฟประดับสวนในตอนกลางคืน

---

Saiko Iyashi-no-Sato Nenba

Green Line ลงป้า้ยชื่อ Saiko Iyashi-no-Sato Nenba (No.48 แต่อย่าไปจำตัวเลข เพราะอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
คำว่า Iyashi-no-Sato เป็นชื่อหมู่บ้าน
คำว่า Nenba แปลว่าหมู่บ้าน
ส่วนคำว่า Saiko คือหนึ่งในทะเลสาบทั้ง5 ที่อยู่รอบๆภูเขาไฟฟูจิ

• ค่าเข้า 350 เยน (ปี 2019) ซึ่งถือว่าไม่แพง ถ้าไปตอนอากาศดีๆและเห็นฟูจิ
• นั่งรถบัสสาย Omni Bus Green Line (Saiko Line) จากสถานีคาวากุจิโกะประมาณ 40 นาที

หมู่บ้าน Iyashi-no-Sato เคยได้รับความเสียหายจากพายุไต้ฝุ่น ในปีค.ศ. 1966
40 ปีต่อมา ก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ และเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง
เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาศึกษาวัฒนธรรม

ภายในมีบ้านทรงโบราณกว่า 20 หลัง ซึ่งก็ไม่ได้ทิ้งร้างเฉยๆนะ แต่มีการจำหน่ายสินค้าท้องถิ่น ทั้งงานปั้น งานฝีมือ ร้านอาหาร และอื่นๆอีกมากมาย
ส่วนใครที่ชอบถ่ายรูป จุดเด่นของที่นี่ก็คือ

• วิวฟูจิ พร้อมหลังคาบ้านโบราณ ยิ่งใครมาช่วงซากุระ หรือใบไม้เปลี่ยนสี ก็จะพิเศษยิ่งขึ้นด้วย
• เช่าชุดกิโมโน ราคาเบาๆ พร้อม พร็อบเพียบ เดินถ่ายกันให้ทั่วหมู่บ้านได้เลย

---

Wind Cave

• Green Line ลงป้าย Wind Cave No.51
• ง่ายกว่า คนมาเยอะกว่า Ice cave
• ตอนแรกได้ยินว่า wind cave ก็นึกว่าถ้ำลม ก็นึกว่าไม่หนาว แต่พอเข้าไปไม่เห็นมีลมเลย มีแต่น้ำแข็ง หนาว และมีการเพาะเลี้ยงตัวไหมให้ศึกษาเป็นตู้เย็นของคนโบราณ

ข้างในมีจัดไฟให้ด้วย ที่เดินไม่ได้เยอะมาก เดินแป๊บเดียวก็หมดแล้ว แต่ค่าเข้าก็ไม่ได้แพงมาก ก็ถือว่าโอเค

ภายในถ้ำ wind cave เพดานถ้ำจะเตี้ยๆแบบนี้ บางจุดเวลาเดินต้องย่อตัว แต่มีติดไฟให้เป็นระยะ ไม่อันตรายเลย เด็กๆมาทัศนศึกษากันเยอะแยะ

Ice Cave

• Blue Line ลงป้าย Ice Cave No.80
• สามารถเดินจาก Wind Cave ก็ได้ จะเป็นเส้นทางเดินป่า แต่ไกลหน่อยนะ
• ทางเดินในถ้ำจะยากกว่า wind cave เพดานถ้ำบางจุดเตี้ยมาก
• คนโบราณใช้เป็นที่เก็บน้ำแข็ง ซึ่งจะแข็งได้ตลอดทั้งปีแม้อยู่ในช่วงหน้าร้อน พวกเราก็ไปช่วงหน้าร้อน ก็ยังเห็นมันเป็นน้ำแข็งอยู่เลย

แนะนำ
– ข้างในหนาวมาก ถ้าขี้หนาวก็ต้องเตรียมเสื้อกันหนาวด้วย
– ชื้นแฉะ ใครกลัวเปียก ก็ใส่เสื้อกันฝน ใส่หมวกมาด้วย แต่น่าตื่นเต้น
– มีหมวกกันน็อคให้ยืม ควรใส่ไว้ เพราะมันมีโอกาสโขกหินแน่ๆ
– ภายในไม่ได้น่ากลัวมากอย่างที่ป้ายชอบขู่ซะเหมือนจะอันตราย แต่จริงๆไม่อันตรายเลย
– อย่าลืมซื้อตั๋วแบบรวมทั้งสองถ้ำด้วย (ถ้าคิดจะเข้าทั้ง 2 ถ้ำ)
– จริงๆแล้วมี Bat cave อีกแห่งนึง ก็น่าสนใจ แต่พวกเราข้ามมันไปเพราะกลัวค้างคาว (จริงๆไม่มีมั๊ง)

---

Koyodai

เป็นภูเขาเล็กๆลูกหนึ่ง ที่มีจุดชมวิวภูเขาฟูจิ ที่เข้าถึงง่ายมากๆด้วยรถยนต์ หรือจะเดินจากป้ายบัส แค่ 30 นาที ทางเดินง่ายๆ ชมธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มากๆ

เมื่อไปถึงยอดจะมี Observation deck ซึ่งจะมีค่าเข้าเพียงน้อยนิด (200 เยน ปี 2019) และร้านอาหารที่ดูเหมือนจะถูกทิ้งร้าง แต่ก็ยังมีของขายในราคาที่ถูก เมื่อเทียบกับวิวที่ได้เห็น (ถ้าเห็นฟูจินะ)

สำหรับ GoNoGuide แม้ว่าไปถึงแล้วไม่เห็นฟูจิ ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว กับการเดินชมธรรมชาติระหว่างทาง

พวกเราอุดหนุนขนมกับน้ำของลุงกับป้าที่ดูแลร้านแค่ 2 คน ดูเงียบเหงา เฟอร์นิเจอร์ผุพัง มองเข้าไปทีแรกนึกว่าร้างซะแล้ว พอกำลังจะเดินกลับ ก็มีป้าออกมาเรียก แอบสงสัยไม่ได้ว่าทำไมร้านถึงได้โทรมขนาดนั้น ทั้งๆที่การเข้าถึงก็ง่ายดาย

---

Kodaki Fuji View Point

ฺBlue Line ลงป้ายชื่อ Kodaki Fuji View Point (bus stop no.86)

Lake Shojiko เป็นทะเลสาบเล็กๆ แต่ก็เป็นจุดชมวิวฟูจิดีๆที่อีกที่หนึ่ง

---

Lake Motosuko

Blue Line สุดสาย ลงป้ายชื่อ Lake Motosuko (bus stop no.97)

ตรงนี้มีล่องเรือที่มีรูปร่างเหมือนเรือดำน้ำสีเหลืองสวยเลย พวกเราก็มานั่งปิคนิคกันที่นี่อยู่ซะนาน

เป็นการเที่ยวช้าๆ ดื่มด่ำไปกับสถานที่ นั่งมองภูเขา ก้อนหิน แม้ว่าจะไม่เห็นยอดฟูจิเลย อากาศก็เย็นๆสบายๆ (ต้นก.ค.) ใส่เสื้อกันหนาวบางๆ ก็เพียงพอแล้ว

---

Loop Bus

เรามาเที่ยวทางขวาของสถานีคาวากุจิโกะกันบ้าง ด้วยการใช้ Loop Bus

Chureito Pagoda

Chureito Pagoda หรือ เจดีย์แดงที่คนไทยเรียกกัน แต่ชื่อจริงๆอย่างเป็นทางการก็คือ The Fujiyoshida Cenotaph Monument
สร้างเสร็จเมื่อค.ศ.1962 นี้เอง เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานให้กับผู้เสียชีวิตในสงครามใหญ่ถึง 4 สงครามของญี่ปุ่นคือ Sino-Japanese War, The Russo-Japanese War , World War I และ The Pacific War of world War II

มีอะไรให้ชม

• Arakura Sengen Shrine เป็นศาลเจ้าใหญ่ประจำเมือง Fujiyoshida
• จุดชมวิวเจดีย์แดง 5 ชั้น โดยมีพื้นหลังเป็นวิวภูเขาฟูจิ
• ทางเดินป่าชมซากุระแบบง่ายๆ (อันนี้น่าสนใจมาก)

วิธีไปด้วยรถไฟ

• เดินจากสถานี Shimo-Yoshida 15 นาทีมาถึงศาลเจ้า และเดินขึ้นอีก 15 นาทีมาถึง เจดีย์แดง

วิธีไปด้วยบัส

• ขึ้น World Heritage Loop bus จากสถานี Kawaguchiko 15 นาที
• ลงป้าย Chureito Iriguchi แล้วเดินมาอีกนิดเดียวก็ถึงศาลเจ้า
• แต่วิธีนี้รอบบัสอาจจะนานหน่อย คือทุก 90 นาที
• และขากลับจะใช้เวลา 45 นาที ไปถึงสถานี Kawaguchiko

---

Oshino Hakkai

Oshino Hakkai หรือที่คนไทยเรียกกันว่า หมู่บ้านน้ำใส

คำว่า Oshino Hakkai แปลว่า “แปดทะเล” หมายถึงสระ 8 สระ ในบริเวณ Oshino Hakkai ซึ่งได้แก่ Deguchi, Okama, Sokonashi, Choushi, Waku, Nigori, Kagami, and Shoubu
โดยถือกำเนิดมาจากการระเบิดของภูเขาไฟนั่นเอง ทำให้น้ำแร่ใต้ดินผุดขึ้นมากลายเป็นสระทั้งแปด ที่นั่นจะมีน้ำแร่ให้รองใส่ขวดนำกลับไปได้ด้วย

สิ่งที่น่าสนใจ

• ชิมขนม ช้อปของฝาก ใช้จ่ายกันได้อย่างเต็มที่ ทัวร์จะลงตลอด คนไม่มีเงียบ ไปคนเดียวไม่มีเหงา
• Open-air museum เข้าชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ที่มีระเบียงชมวิวสระที่ใหญ่ที่สุด ปลาเท่าฉลาม เป็ดยุโรป และบ้านโบราณให้ชม

วิธีไป

• ไม่มีรถไฟไปถึงโดยตรง
• ต้องไปด้วยรถบัส ถ้าขึ้นจากสถานี Kawaguchiko สามารถใช้ World Heritage Loop Bus ลงป้าย Oshino Hakkai Iriguchi

---

สรุปทริปเที่ยวคาวากุจิโกะ

• GoNoGuide ค้างที่คาวากุจิโกะ 5 คืนโดยคืนแรกมาถึงไม่ได้เที่ยวอะไร
• วันที่เต็มๆ 3 วัน ใช้ Red Green Blue bus 2 วัน และ Loop Bus 1 วัน รวมค่าเดินทาง 3 วัน คนละ 2550 เยน (เฉลี่ยวันละ 240 บาทเท่านั้น)
• อีกวันนึงไปปีนฟูจิเต็มวันแบบไม่ค้างกระท่อม

---

เที่ยว Iyashi-no-Sato , Wind Cave , Ice Cave , Koyodai

---

เที่ยว Lake Shojiko , Lake Motosuko , Oishi Park , Fuji Q Highland

---

เที่ยว เจดีย์แดง บ้านน้ำใส กระเช้า ทะเลสาบคาวากุจิโกะ

---

วิธีเดินทางในคาวากุจิโกะ ชมวิวฟูจิ แบบประหยัดที่สุด

---

อ่านรีวิว GoNoGuide Season 4 เที่ยวโตเกียว คาวากุจิโกะ นิกโก้

---

---

---