สิงคโปร์5 ชะโงกทัวร์ 2
วันที่ 7-11 ก.ค. 2555 รีวิวเที่ยวสิงคโปร์ 5วัน 4คืน เที่ยวเอง ไปเอง หลงเอง ไม่ง้อทัวร์ ของสองสามี-ภรรยา เที่ยวต่างประเทศเองครั้งที่สอง เขียนรีวิวเชิงเล่าเรื่อง และบันทึกความทรงจำ ไม่ใช่ไกด์บุ๊ค
11 ก.ค. 2555 วันที่ห้า เป็นวันสุดท้ายของการเเที่ยว
Punggol – Sengkang – Potong Pasir – Little India – Bugis – กลับ
ทางที่เป็นสายสีเทาๆ วิ่งเป็นวงนั้น จะเป็นรถไฟฟ้าเล็กๆ เรียกว่า LRT มันจะวิ่งวน เราลองนั่งวนเล่น มีแต่ตึกคอนโด แต่ก็เพลินดี
วันสุดท้ายนี้ มาชะโงกทัวร์ เป็นวันที่สอง เหตุเพราะอยากรู้ว่า เกาะเล็กๆแห่งนี้ มีอะไรอยู่บ้าง
สถานีแรกของวันนี้คือ Sengkang ซึ่งก็เป็นแหล่งที่พักอาศัย ป่าคอนโด แต่เป็นระเบียบ และยังมีพื้นที่ ที่กำลังก่อสร้างคอนโดต่อๆกันอีกเพียบ
.
จริงๆ ตั้งใจจะมาดูทะเล เพราะเห็นว่าสถานี Punggol ดูใกล้ๆทะเลดี นึกว่าจะเห็นวิวทะเล แต่เห็นมีแต่คอนโดสูงๆ ไม่มีเตี้ยๆเลย คอนโดสูงมากๆ เท่าๆกันหมด ลักษณะคล้ายๆกันหมด เหมือนต้องใช้พื้นที่ให้คุ้ม มองไปจะเหมือนเล่นเกมส์ซิมซิตี้ หรือ City XL แต่ละจุดก็จะเห็นพื้นที่สีเขียว ไว้ให้เย็นตาทุกที่ และมีโรงอาหารเกือบทุกจุด
.
ที่นี่ไม่ใช่ว่าจะเปิดร้านค้าที่ไหนก็ได้ ตามใจเหมือนไทย ที่พักคือที่พัก ที่ทำงานคือที่ทำงาน แต่การเดินทางสะดวกแบบนี้ ถึงที่ทำงานจะไกล ก็ไม่เป็นปัญหา
.
เราไปต่อกันที่ สถานี Little India ระหว่างทางไป Little India ลองแวะ Potong Pasir ดู ก็เป็นป่าคอนโดเช่นกํน แต่แถวนี้มีบ้านด้วย เห็นบ้านเป็นของแปลกไปเลย สำหรับที่นี่ แต่ทุกที่จะมีโรงอาหาร สงสัยว่าคนมีบ้านที่นี่ คงต้องรวยมากแน่ๆ
.
ตอนนั่งรถไฟฟ้า เจอพี่คนไทย ที่ทำงานที่สิงคโปร์ มานานกว่าสิบปีแล้ว เข้ามาทักเราว่าคนไทยหรอ มาเที่ยวหรอ ดูเขายินดี ดีใจที่เจอคนไทยด้วยกัน พี่เขาเล่าว่า มาทำงานเกี่ยวกับก่อสร้าง รายได้ดีมาก แต่ค่าครองชีพก็สูง ที่นี่งานก่อสร้างเพียบไม่รู้จักหมด
.
พี่เขาแนะนำให้ไปแถว Wood Lands (ชื่อสถานีรถไฟฟ้า) มีคนไทยเพียบ ร้านอาหารไทยเยอะ เข้าไปทักทายกันหน่อยสิ แต่เรากำลังจะกลับแล้ว ไม่มีเวลาไปแถวนั้นแล้ว เลยต้องขอโทษกันไป
.
มาถึงลิตเติ้ลอินเดีย ก็รู้สึกถึงกลิ่นไอของอินเดี๊ยอินเดีย กลิ่นธูป เสียงเพลง สภาพแวดล้อม ผู้คน การแต่งตัว บ้านเรือน ของที่ขาย ทำให้เรารู้เลยว่า มาไม่ผิดที่แน่นอน เหมือนมาอินเดียที่เจริญแล้วยังไงไม่รู้
.
แต่คนที่นี่ ขายมะม่วงกันเยอะจัง ทั้งมะม่วงอบแห้งนำเข้าจากไทย จนทำให้ซื้อกลับมากินแล้วติด ต้องตามหาซื้อ จนมาเจอแถวเยาวราช ราคาถูกกว่า แต่อร่อยไม่เท่าของที่สิงคโปร์ ไม่เข้าใจเหมือนกัน เพราะของที่ขายที่นี่ ก็นำเข้าจากไทยทั้งนั้น แต่หาซื้อถูกๆจากไทยไม่ได้
.
มาเจอโรงอาหารอีกแล้ว แต่ที่นี่ราคาถูก และอร่อย มีความเป็นอินเดียสุดๆ มาเจอร้านนี้ชื่อ CEYLON HUT คนขายเป็นแขก หน้าคล้ายๆคนขายโรตีที่ไทย แต่เขาดูท้วมๆ มีหนวด ดูเผินๆแล้วน่ากลัว แต่พอหยุดดูอาหารว่ามีอะไรบ้าง คนขายก็ยิ้มซะเห็นฟันขาว ดูใจดีเป็นมิตรซะยิ่งกว่า ร้านที่เป็นคนหน้าจีนๆขายเสียอีก คนขายหน้าจีนๆส่วนใหญ่ จะไม่เห็นใครยิ้มเลย บึ้งตลอด
.
โรตีใส่กะหรี่ ที่ซื้อมานี้ อร่อยซะจนอยากซื้อกลับมากินที่บ้านเลย เจ้าของร้านก็แถมแกงสีแดง กับสีเหลือง ใส่ปนกันในถ้วยเล็กๆให้ด้วย ใจดีจริงๆ เขาบอกให้เอาไปลองชิม เห็นรูปแล้วยังอยากกินอีกเลย อร่อยมากๆๆๆจริงๆ
.
ตลาดก็มีขายทุกอย่าง แต่ส่วนใหญ่เป็น ผลไม้ ดอกไม้ ของที่บอกว่าถูกในที่นี้หมายถึง ถูกกว่าในเมือง หรือถูกสำหรับบ้านเขาน่ะนะ แต่ก็ยังค่าครองชีพสูงกว่าไทยอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติ
.
จากนั้นมาต่อกันที่ Bugis แต่ก่อนไปขอแวะดูแถว Outram Park กันก่อนว่ามีอะไรบ้าง ปรากฏว่า มีแต่บ้าน กับ พาร์ค
Bugis แตกต่างจากที่เคยมา เมื่อหลายปีก่อนนิดหน่อย ขยายใหญ่ขึ้น แต่ที่ยังอยู่เป็นสัญลักษณ์คือ ร้านน้ำปั่น ที่ต้องกิน (ไม่เห็นอร่อยสักเท่าไหร่) แต่ต้องกินเพราะมันร้อน หิวน้ำ
.
มีของขายเยอะ แต่ก็ไม่ได้ซื้ออะไรเลย เพราะซื้อที่ไทยก็ได้ ถูกกว่า ในส่วนของร้านอาหารที่เคยอยู่ด้านใน ก็ย้ายไปอยู่ด้านหลัง ขยายใหญ่ขึ้นเยอะ
.
และในที่สุดก็ได้กิน Rojak สมใจซะที ตั้งใจมากินตั้งแต่วันแรก แต่ก็หาไม่เจอ น้ำราดรสชาติจะคล้ายๆน้ำราดปอเปี๊ยะปนถั่ว ผลไม้ที่ใส่ ก็มีหลายอย่างแล้วแต่ร้าน จะเรียกตำผลไม้สิงคโปร็ก็น่าจะได้ (แต่ไม่ได้ตำ) เห็นมีบางร้านเขียนเป็นภาษาไทยด้วยว่า ส้มตำสิงคโปร์
.
แต่ปอเปี๊ยะดันไม่มีน้ำราด เขาใส่ข้างในมานิดหน่อยอยู่แล้ว และตบท้ายด้วยน้ำแข็งใส ตามสูตรทุกมื้อเลย มื้อนี้ต้องใช้เงินเหรียญให้หมด เพราะจะกลับบ้านแล้ว
.
ได้เวลาอันสมควร ที่จะต้องไปรอขึ้นเครื่องกันแล้ว แต่จิตใจยังอาลัยอาวรณ์มะม่วงอบแห้ง ที่ซื้อมาจาก China Town อยู่ เราสองคนจึงแยกย้ายกัน(เป็นครั้งแรกที่เดินทางแยกกัน)
.
คนหนึ่งไปซื้อมะม่วงอบแห้ง ที่ China Town ส่วนอีกคนหนึ่งไป Check Out ที่โรงแรม แล้วมาเจอกันทีสถานี Aljunied เพราะมีตั๋ว unlimited อยู่แล้ว เลยไม่ต้องห่วงเรื่องค่ารถไฟฟ้า
.
เราซึ่งเป็นคนชอบหลงทาง ไม่ค่อยจำทาง ได้รับหน้าที่ไปซื้อมะม่วงที่ไชน่าทาวน์ เพราะขี้เกียจลากกระเป๋า ทางที่เคยมา เป็นทางออกคนละทางกัน จึงเดินหลงไปนาน กว่าจะเจอร้านที่จะซื้อ ก็วนอยู่หลายรอบ
.
มีเศษเหรียญเหลืออีก 1 เหรียญ หลังจากซื้อมะม่วงแล้ว แต่อยากได้วุ้นเมล่อนอีกอัน ราคา 2 เหรียญ ก็ยืนมองจดๆจ้องๆ เหมือนเด็กอยากกินขนม แต่ไม่มีตังค์ เลยหยิบไปถามเขาว่า จะลดให้ได้มั้ย แหมมาต่างบ้านต่างเมือง ยังไม่ทิ้งนิสัยต่อรองเลย คนขายเห็นซื้อมะม่วงด้วย ก็ยิ้มแล้วก็ตกลง
.
ระหว่างทางไปสนามบิน ก็แวะดูที่สถานี Pasir Ris ซะหน่อย หวังว่าจะดูทะเลอีก แต่ก็เจอแต่ป่าคอนโดอีกแล้ว แต่แถวนี้คอนโดดูดีกว่าแถวอื่น มีบ้านเป็นหลังๆเยอะด้วย คงจะเป็นถิ่นคนรวยแน่ๆ
.
มาถึงสนามบิน 17.30 น. ผ่านด่าน ตม.เร็วมาก มีร้านเยอะกว่าสุวรรณภูมิ จัดเป็นโซนได้ดีมาก มีสวนกระบอกเพชร ให้ขึ้นไปเดินเล่นได้ด้วย แต่มีตู้เสี่ยงโชคเหมือนในคาสิโนด้วยแฮะ
.
และสุดท้ายขึ้นเครื่องตอน 19.30 น. สุดท้ายก็ไม่มีเรื่องให้ตื่นเต้น หัวใจจะวายเหมือนที่ฮ่องกง รอดตัวไป
สวัสดีค่ะ GoNoGuide มีเป้าหมายที่จะให้ข้อมูลท่องเที่ยวและวีซ่า อย่างเต็มที่ในทุกเรื่องที่เรารู้ เพื่อนๆที่ต้องการสนับสนุนเรา สามารถทำได้ดังนี้
- เลือกบริการที่ต้องการสนับสนุนเรา
- GoNoGuide จะได้รับค่าคอมมิชชั่นเล็กๆน้อยๆ โดยที่เพื่อนๆไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม สำหรับลิงค์แนะนำโรงแรม เครื่องบิน และประกันต่างๆ
- กดติดตามช่อง Youtube และ Facebook GoNoGuide
ขอขอบคุณที่สละเวลาอ่านค่ะ