ก่อนลงเครื่อง แอร์โฮสเทสจะมาแจกใบตม.ให้เรากรอก ถ้าไม่ได้รับให้ขอได้เลย

ที่มักผิดกันบ่อยคือช่องนามสกุลกับช่องชื่อจริง อย่าลืมให้กรอกนามสกุลก่อนในช่องแรกนะ แต่ถ้าผิดก็ขีดแก้ได้ หรือจะขอใบใหม่ก็ได้

ส่วนลายเซ็นต์ ให้เซ็นต์เหมือนกับที่เซ็นต์ในพาสปอร์ตนะ จะไทยหรืออังกฤษก็ได้ ขอให้เหมือนกับที่เซ็นต์ในพาสปอร์ตก็พอค่ะ

ใบศุลกากรตรวจของที่เรานำมาด้วย คนทั่วไปมาเที่ยวก็ไม่ค่อยมีอะไรอยู่แล้ว No ให้หมด

ตม.ญี่ปุ่นหน้าตายิ้มแย้มมาก ไม่ต้องกลัวถ้าเราไปแบบถูกกฏหมาย ไม่ได้ทำอะไรผิดก็ทำไปตามขั้นตอน จะมีผู้สูงอายุคอยอำนวยความสะดวก เป็นประเทศที่จะให้ความรู้สึกว่าเราเป็นคุณหนูตั้งแต่แรกเหยียบเลยทีเดียว

---

สนามบินนาริตะ

เมื่อผ่านตม.และด่านศุลกากรมาแล้ว ถ้าจะเข้าเมืองด้วยรถไฟก็ต้องลงไปชั้นล่าง แต่ถ้าจะขึ้นบัสก็ตรงออกไปทางประตูได้เลย ไปตามชานชาลาที่บอกในตั๋วเลย

สำหรับ GoNoGuide ซีซั่นนี้ เราจะเดินทางจากสนามบินนาริตะ ตรงไปยังคาวากุ่จิโกะเลย โดยไม่แวะในเมืองโตเกียว เดินทางโดยบัส ในราคา 4000 เยน (ปี 2019) ถือว่าประหยัดเวลา ไม่ต้องต่อรถใดๆทั้งสิ้น และราคาก็ไม่แพง ใช้เวลา 3.30 ชม.

เพียงแค่ไปชานชาลาตามที่ในตั๋วแจ้ง ซึ่งพอออกจากประตูสนามบินแล้ว ชานชาลาก็จะเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ ตัวเลขชัดเจน แถมแต่ละชานชาลาจะมีปลายทางบอกอีกด้วย ดูไม่ยากเลย แถมรถก็ยังออกตรงเวลาเป๊ะ ถ้ามีกระเป๋าลากใบใหญ่ก็จะมีพนักงานยกขึ้นใต้ท้องรถให้

---

ขากลับไปสนามบินนาริตะ

จากโตเกียวจะกลับไปสนามบิน GoNoGuide ก็เลือกทางที่คุ้ม และไม่ต้องต่อรถอะไรเลย คือทางบัส มาขึ้นที่สถานีโตเกียว

ต้องเตือนตัวเองไว้อย่างว่า การขึ้นรถไฟใต้ดินในโตเกียว มันเร็วและครอบคลุมก็จริง แต่ตอนเดินหาทางออกนี่สิ มึนจริงๆ ต้องเผื่อเวลาเดินภายในใต้ดินไว้เยอะๆ เพราะมาถึงก่อนเวลารถออกแค่2นาทีเอง

มาถึงสนามบินนาริตะ ถ้ามีเวลาเหลือลองขึ้นไปชั้นดาดฟ้า จะมีที่ให้ชมเครื่องบินด้วย อย่าลืมขึ้นไปชมกันนะคะ สวยมากเลย เห็นเครืองบินกำลังบินขึ้นด้วย

เรื่องที่ต้องบันทึกเตือนตัวเองอีกคือ ญี่ปุ่นเคร่งเรื่องน้ำหนักกระเป๋ามากๆ พวกเราขึ้น Air Asia ไม่ได้ซื้อน้ำหนักกระเป๋า ไปแค่เป้คนละใบ กับกระเป๋ากล้องใบนึง กับย่ามเถ้าแก่น้อยไว้ใส่เสื้อกันหนาว

ปรากฏว่าน้ำหนักเกินไปคนละ 2 โล (แอร์เอเชีย ให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 7 กก.) ก็เลยโดนให้ออกมาจัดใหม่ วิธีคือเราก็เอาเสื้อกันหนาว เสื้ออะไรที่ใส่ได้ก็เอามาใส่ให้หมด มัดเอวบ้าง บางอย่างที่ไม่เอาก็ได้ ก็ทิ้งไว้ตรงที่จัดกระเป๋าบ้าง พอไปชั่งอีกที ผ่านแบบฉิวเฉียดเลย …เย้ (แต่สารรูปการแต่งตัวเหมือนคนบ้า ร้อนจะตายใส่เสื้อกันหนาว กันฝน กันลม มัดเอวอีกแน่ะ แถมยังแขวนกล้องกันคนละตัว แต่ก็ลดน้ำหนักกระเป๋าไปได้เยอะเลยนะ)

พอผ่านปุ๊บก็ถอดหมด แล้วใส่ย่ามเถ้าแก่น้อย ส่วนของที่ทิ้งไว้นึกเสียดายเลยเก็บๆไปก่อน ถ้าเขาตรวจอีกทีก็ค่อยทิ้งก็ได้ (กระซิบนิดนึงว่า ไม่ตรวจแล้ว 555+)

---

ลงนาริตะ ต่อบัสไปคาวากูจิโกะ

---

วิธีเดินทาง จากสนามบินนาริตะ เข้าเมืองโตเกียว

---

อ่านรีวิว GoNoGuide Season 4 เที่ยวโตเกียว คาวากุจิโกะ นิกโก้

---

---

---