พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติตอน2
ตอนที่แล้ว พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติตอน1 เป็นรีวิวระหว่างเดินทางมาพิพิธภัณฑ์ค่ะ ส่วน พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติตอน2 นี้เราจะเข้ามาด้านในเต็มๆแล้วนะคะ
ส่วนแรกเป็นห้องโถง
เมื่องเข้ามาในห้องโถงพิพิธภํณฑ์ธรรมชาติ จะเจอกัช้างจำลอง กับพวกสัตว์ป่าทั้งหลาย เป็นสัตว์ในปัจจุบันแหล่ะค่ะ ไม่ใช่สัตว์ดึกดำบรรพ์อะไร แต่ใหญ่มากนึกว่าแมมมอส
The Nature World around Us
ส่วนแรกเป็น The Nature World around Us หรือ ธรรมชาติรอบตัวเรา
เป็นพวกพันธุ์พืชชนิดต่างๆ และสัตว์ตัวเล็กๆที่เราเห็นอยู่ทุกวัน แมลง ปลา สัตว์ชนิดต่างๆที่อยู่ในป่า แต่มันมีหลายพันธุ์มากจริงๆเลยค่ะ รวมถึง แต่มีอยู่ชนิดนึงที่คุ้นเคยกับมันดี แต่เกลียดมันที่สุดในโลกก็คือ แมลงสาบ
แต่ที่เขาทำจำลองขึ้นมานี่สิ มันมองแล้วต้องรีบหันหน้าไปทางอื่นเลยค่ะ เพราะเขาจำลองมาได้ใหญ่เท่าเต่ายักษ์เลยน่ะสิคะ กลัวไม่เห็นกันรึไง ถ้าแมลงสาบใหญ่ขนาดนี้นะ ช็อคตายไปแล้วมั๊ง (ไปดูรูปในสไลด์โชว์ข้างล่างสุดละกันนะ กลัวว่าเอาโชว์จะรีบปิดเวปแทบไม่ทัน)
จริงๆเข้าไปดูเนี่ยะก็อ่านไม่ออกหรอกนะคะ ดูแต่รูป กับของโชว์ ซึ่งมันก็ทำให้สนุก ติดตา และที่ชอบก็คือเรื่องของการจัดแสดง การนำเสนอ ที่ดูน่าสนใจค่ะ
ของทุกอย่างเหมือนได้รับการบำรุงรักษาประจำ ไม่มีฝุ่น ไม่สกปรก ไม่มีกลิ่นอับ ทำให้ผู้เข้าชมอยู่ได้นานโดยไม่รู้สึกเบื่อเลยค่ะ คือแอดมินก็ไม่ได้อยากจะเปรียบเทียบกับของเมืองไทยนะ เพราะค่าครองชีพมันก็ต่างกัน ค่าเข้ามันก็ต่างกัน เพียงแต่อยากให้เห็นภาพว่าที่แอดมินชอบน่ะมันไม่ได้เว่อร์ หรือเอาแต่จะยกย่องประเทศญี่ปุ่น
เช่นถ้าใครเคยไปท้องฟ้าจำลอง ส่วนของพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์(ดูรีวิวศูนย์วิทย์ ท้องฟ้าจำลอง) เขาก็มีพวกเกี่ยวกับธรรมชาตินะ แต่การนำเสนอมันคนละเรื่องกันเลยนะ กลิ่นก็อับ ของก็ดูโทรม เก่า ฝุ่นเกาะ คือมันทำให้เรารู้สึกอยากกลับน่ะค่ะ
อันนี้ที่ดูตลกและน่ารักในสายตาแอดมินคือ ตัวด้วง คือมันจะปั้นดินเป็นก้อนๆใหญ่ๆ ปั้นได้ไง กลมเกลี้ยงขนาดนั้น แล้วปั้นไปทำไมไม่รู้นะ (ตัวขนาดจริงอยู่ในกล่องค่ะ ตัวใหญ่นั่นเขาจำลองให้เห็นง่ายๆค่ะ)
สไลด์โชว์ ธรรมชาติรอบตัวเรา
ฟอสซิลไดโนเสาร์
ห้องถัดไปก็จะเป็นฟอสซิลไดโนเสาร์ และสัตว์ดึกดำบรรพ์ทั้งหลายที่ถูกค้นพบในญี่ปุ่น เห็นมีช้าง กวาง สัตว์เลื้อยคลานต่างๆ เป็นฟอสซิลทั้งห้องเลยนะคะ ห้องใหญ่มากด้วยค่ะ นี่คือส่วนที่ทำให้แอดมินอยากมาที่นี่ค่ะ เห็นในรูปมีโครงกระดูกนี่แหละเลยต้องดั้นด้นกันมาค่ะ แต่ก็ยอมรับว่ามีไม่เยอะอย่างที่คิดค่ะ
ชิ้นส่วนของสัตว์ต่างๆ
กระดูกส่วนต่างๆของสัตว์ที่เห็นในปัจจุบัน ชอบตรงที่เขาเอากระดูกเล็กๆ แค่ชิ้นเดียว เอามาวางบนรูปสัตว์ชนิดนั้นๆ เราก็จะรู้ได้ทันทีว่า มันเป็นกระดูกของสัตว์อะไร แม้ว่าเราจะอ่านไม่ออกก็ตาม
มีการนำเสนอเป็นระบบนิเวศ สัตว์ชนิดไหนอยู่ร่วมกันบ้าง เมล็ดพืชชนิดต่างๆ หิน ฟอสซิล เห็ด ผลึก แร่ธาตุ รวมถึงแสดงแผนที่ให้รู้ว่ามันมาจากตรงไหนของประเทศค่ะ
พัฒนาการมนุษย์จากลิง
ส่วนนี้จะมีแต่โครงกระดูกค่ะ ทั้งโครงกระดูกของลิงพันธุ์ต่างๆ ตั้งแต่ลิงชนิดเล็กๆ ลิงชนิดใหญ่ๆ ไปจนถึงมนุษย์ผู้ชาย ผู้หญิง เปรียบเทียบให้เห็นเลยว่า ลิงกับมนุษย์มันเป็นญาติกันแน่ๆ
ชอบตรงที่เขาไม่ได้เอามาวางๆ โชว์ๆธรรมดาๆค่ะ เขาเอามาโชว์เหมือนมันมีชีวิต ปีน ไต่ต้นไม้ และเปรียบเทียบกระโหลกลิง กับกระโหลกมนุษย์
ชีวิตในทะเล
ส่วนนี้จะเป็นชีวิตที่อยู่ในทะเลค่ะ พวกหอย ปลา ปู พันธุ์ต่างๆ ปะการัง แต่ที่เด่นที่สุดก็คือโครงกระดูปลาวาฬที่ห้อยลงมาจากเพดานค่ะ
แมลง
ส่วนนี้เป็นส่วนที่ชอบมากที่สุดเลยค่ะ จะมีผีเสื้อพันธุ์ต่างๆ ถูกสต๊าฟไว้ ทุกสี ทุกแบบ มันเยอะมาก และสวยมากๆ มันเหมือนคอลเล็กชั่นเป็นตู้ๆ แบ่งแยกประเภท ไม่ใช่เฉพาะที่อยู่ในญี่ปุ่นค่ะ มันมาจากทั่วโลกเลย
แมลงชนิดอื่นๆก็มีค่ะ อย่างจิ้งหรีด แต่ที่เด่นๆก็น่าจะเป็นตัวด้วง ไม่รู้ว่าที่ญี่ปุ่นนี่ด้วงเยอะขนาดนั้นเลยหรอ เห็นในมาสค์ไรเดอร์ยังมี ไรเดอร์คาบูโตะ ที่เป็นหน้ากากตัวด้วงเลย
สไลด์โชว์ ฟอสซิล โครงกระดูก ผีเสื้อ ชีวิตในทะเล
The Lives of Living Thing
ส่วนนี้ชื่อธีมว่า The Lives of Living Thing หรือชีวิตของสิ่งมีชีวิต จะนำเสนอว่าชีวิตของสัตว์แต่ละชนิด อยู่ได้เพราะชีวิตอื่นๆ ถ้าขาดสิ่งมีชีวิตใดไป ไม่ว่าจะเป็นพืช หรือคน หรือสัตว์ต่างๆ จะเล็ก หรือใหญ่ ล้วนกระทบถึงกันทั้งสิ้น เหมือนเป็นห่วงโซ่อาหารที่เอื้อต่อกันค่ะ
ส่วนนี้จะมีเกมส์ให้เล่นสนุกๆ มีปุ่ม มีอะไรให้ผู้ชมมีส่วนร่วม จัดวางของอย่างน่าสนใจมากๆ แถมยังสว่างเห็นชัด น่าอยู่ ถ้ามีเวลาสามารถเดินเล่น นั่งเล่นได้ทั้งวันเลยค่ะ
แต่ก็อย่างที่รู้ๆกันนะคะว่า รูปแบบการนำเสนอของญี่ปุ่นจะออกแนวน่ารักๆ มีตัวการ์ตูน อธิบายได้ด้วยภาพ และเกมส์ตู้ ซึ่งมันดีมากเลยค่ะ ดูไม่น่าเบื่อเลย
สไลด์โชว์ The Lives of Living Thing
สรุป Osaka Museum of Natural History
- ราคาค่าเข้า 300 เยน (ถูกมากๆค่ะไม่ถึง90บาท) ใช้ Osaka Amazing Pass เข้าฟรีค่ะ แต่ราคาแค่นี้ไม่ต้องใช้พาสก็ได้มั๊ง แต่ไหนๆก็มีพาสแล้วก็ต้องใช้ให้คุ้มค่ะ
- เปิด 9.30 – 17.00 น แต่อย่าลืมเช็ควันหยุดนะคะ ที่นี่หยุดทุกวันจันทร์ค่ะ
- ราคากับสิ่งที่ได้มันโคตรคุ้มอยู่แล้วล่ะค่ะ เพราะเป็นของรัฐบาลไม่หวังผลกำไร
- แต่ที่ต้องคิดหนักคือ ระยะทางค่ะ มันไกลจริงๆ เดินเกือบกิโลจากสถานีNagai exit3
- แนะนำให้มามั้ย? – อยากให้มานะ แต่ไม่ได้ถึงกับตื่นตาตื่นใจมาก แต่ถ้าใครชอบธรรมชาติก็น่าจะชอบค่ะ
- ถ้าจะมาควรเผื่อเวลาให้ที่นี่+เวลาเดิน รวม 2-3 ชั่วโมง
- อยากให้เมืองไทยมีพิพิธภัณฑ์ดีๆแบบนี้เยอะๆ(ขอถูกๆสมกับค่าครองชีพเมืองไทยด้วยนะ)
แผนที่สถานที่ที่ได้ไปมาในโอซาก้า ด้วยบัตร Osaka Amazing Pass(ชนิด2วัน 3000 เยน)
สีแดงคือวันแรก สีน้ำเงินคือวันที่สอง ของการเที่ยวเฉพาะในโอซาก้า
คลิปวิดีโอรีวิว พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ
ติดตาม GoNoGuide ผ่าน Facebook
สวัสดีค่ะ GoNoGuide มีเป้าหมายที่จะให้ข้อมูลท่องเที่ยวและวีซ่า อย่างเต็มที่ในทุกเรื่องที่เรารู้ เพื่อนๆที่ต้องการสนับสนุนเรา สามารถทำได้ดังนี้
- เลือกบริการที่ต้องการสนับสนุนเรา
- GoNoGuide จะได้รับค่าคอมมิชชั่นเล็กๆน้อยๆ โดยที่เพื่อนๆไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม สำหรับลิงค์แนะนำโรงแรม เครื่องบิน และประกันต่างๆ
- กดติดตามช่อง Youtube และ Facebook GoNoGuide
ขอขอบคุณที่สละเวลาอ่านค่ะ