พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติตอน1
ตอนที่แล้ว สรุปทริปคันไซวันที่2 วันนี้เราเริ่มวันที่3 ของการเดินทาง ในทริปคันไซ 7วัน 7 คืน กันที่ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ จริงๆแล้วชื่อเต็มๆว่า Museum of Natural History หรือพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ ก็จะมีพวกต้นไม้ สัตว์ พืช ดูเป็นคนรักษ์โลกขึ้นมาทันทีเลยเนอะ
ที่นี่อยู่ห่างจากตัวเมืองพอสมควรค่ะ แต่เห็นว่ามีฟอสซิลไดโนเสาร์ด้วย ก็เลยสนใจอยากมาดู และวันนี้เราจะเดินทางกันด้วย Osaka Amazing Pass ชนิด2วัน วันนี้ใช้เป็นวันที่สองแล้วนะคะ
เช้านี้เราต้องเปลี่ยนโรงแรมจาก Keihan Tenmabashi Hotel ไปยัง For Leave Inn (สาขา Uehonmachi) ไปฝากกระเป๋า แล้วเดินทางต่อไป พิพิธภํณฑ์ธรรมชาติ ที่อยู่สถานี Nagai กันต่อค่ะ
วันนี้ฝนตกปรอยๆ เย็นๆ สบายๆ แต่ที่ลำบากคือ มันเดินไกลมากจากสถานีรถไฟ เข้าไปในสวนสาธารณะ แล้วยังต้องเดินต่อไปอีก รวมๆแล้วระยะทางประมาณเกือบกิโลได้มั๊ง
บรรยากาศของพิพิธภัณฑ์นี้ร่มรื่น สวยงาม ผู้เข้าชมส่วนใหญ่ก็จะเป็นเด็กๆตัวเล็กๆ อนุบาล ประถม เข้าแถวกันมาทัศนศึกษา แต่ก็มีวัยรุ่นบ้างประปราย เป็นคนญี่ปุ่นทั้งนั้น ส่วนนักท่องเที่ยวอย่างเราไม่มีหรอกค่ะ
ก็ดีนะให้ความรู้สึกถึงท้องถิ่นดีค่ะ แล้วพิพิธภัณฑ์ของเขาก็ทำได้ดีมากๆ ทั้งส่วนของการจัดแสดงที่เป็นระเบียบ จัดหมวดหมู่ ดูง่าย เรียบร้อย ดูดี สว่าง อ่านง่าย(แม้จะอ่านไม่ออก) ทำเป็นตัวการ์ตูนน่ารักๆ น่าอ่านดี น่าสนใจทุกส่วนเลย เสียดายที่มีเวลาน้อย เลยต้องเดินดูแบบเร็วๆค่ะ
โดยจะแบ่งบทความเป็นสองช่วงนะคะ บทความนี้ (พิพิธภํณฑ์ธรรมชาติตอน1) รีวิวตั้งแต่ระหว่างทางเดินไปพิพิธภัณฑ์ ไปจนถึงด้านหน้าพิพิธภัณฑ์
ส่วนอีกบทความนึงจะเป็น พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติด้านในทั้งหมดค่ะ (พิพิธภํณฑ์ธรรมชาติตอน2)
ระหว่างทางเดินไป Museum of Natural History
มีภาพปฏิมากรรมฝาผนังที่บิ้วถึงธรรมชาติ ให้ได้อารมณ์กันตั้งแต่สถานี Nagai กันเลยทีเดียว พออเดินออกมา ก็จะเจอ Nagai Park สวนสาธารณะขนาดใหญ่มากๆ สวยน่านั่งเล่นมากๆค่ะ ที่แปลกคือเขาไม่มีประตูกั้นค่ะ
คืออย่างสวนลุม สวนสาธารณะบ้านเราก็จะมีเวลาปิดเปิดใช่มั้ยคะ ใครจะเข้าไปแอบนอนก็ไม่ได้ หรืออย่างบางที่ก็จะมีเก็บค่าผ่านประตู่ แต่ที่นี่สวย ร่มรื่น ใหญ่มากจริงๆค่ะ แต่เป็นสวนแบบเปิด ไม่เห็นมีรั้วกั้นอะไรเลย
ระหว่างทางเดินไปก็จะมีคนขี่จักรยานบนฟุตบาท สวนไปมาตลอด แถมยังขี่มือเดียว อีกมือนึงถือร่ม แล้วไม่ได้ขี่ช้าๆนะ ขี่เร็วด้วยค่ะ บางคนจะมีที่วางร่ม เป็นที่หนีบให้ร่มตั้งขึ้นโดยที่ไม่ต้องถือ คล้ายๆที่จับของGopro น่ะค่ะ ไม่รู้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่มากับจักรยานอยู่แล้ว หรือต้องหาซื้อมาติดเพิ่มเองนะ
ถึงพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติแล้วค่ะ
ดูจากแผนผังแล้ว เห็นมั้ยคะว่าพื้นที่มันใหญ่ขนาดไหน ใกล้ๆก็จะมีสวนพฤษศาสตร์ Botanical Garden ด้วยนะ จะเป็นพวกสวนดอกไม้ ต้นไม้แปลกๆ และมีสวนสวยมาก แต่พื้นที่มันใหญ่มากเลยค่ะ ขี้เกียจเดินอ่ะ
แม้แต่ทางเข้า หรือด้านหน้าออฟฟิศ สำนักงาน และส่วนจัดแสดง ก็ชุ่มฉ่ำไปด้วยต้นไม้ และดอกไม้ ดูสดชื๊นสนชื่น
แต่เดินเข้ามาแล้ว ก็ยังไม่ใช่พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่เราจะไปนะคะ มันเป็นเหมือนสำนักงานรวมๆ แผนกต้อนรับ จุดจัดแสดงส่วนกลาง ตอนเดินเข้ามาก็พยายามมองหาจุดแลกตั๋ว ก็ไม่เจอค่ะ แล้วไม่รู้ว่าเขาให้เข้ามาได้ด้วยมั้ย เพราะตอนนั้นไม่มีนักท่องเที่ยวให้เดินตามเลยค่ะ
รู้สึกเหมือนตัวประหลาด แต่ก็ลองเดินๆดู ก็ไม่มีใครเข้ามาว่าอะไรนะ ดูนั่นดูนี่สำรวจไปเรื่อย จนไปเจอส่วนจัดแสดงเป็นห้องๆนึงให้เข้าชมได้ ทีแรกก็นึกว่านี่คือพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติที่เราดั้นด้นกันมา มีแค่นี้หรอ
Nature of Osaka
แต่ไม่ใช่ค่ะ เขาเขียนว่า Nature of Osaka แสดงเกี่ยวกับธรรมชาติในโอซาก้าแหละค่ะ สัตว์ต่างๆ พืชพันธุ์ต่างๆ ที่ชอบคือแผนที่(เหมือนgoogle earth)สกรีนอยู่บนพื้นค่ะ เป็นแม่น้ำ Yodo แม่น้ำสายหลักที่ไหลผ่านโอซาก้า
เพิ่งจะรู้ว่าเป็ด มันก็มีหลายพันธุ์นะ แม้หน้าตามันจะคล้ายกันแต่ บางพันธุ์ปากยาว บางพันธุ์บากกว้าง บางพันธุ์ตัวดำ บางพันธุ์ตัวขาวสลับดำ มีเป็นสิบๆพันธุ์เลยทีเดียวค่ะ
วิธีการนำเสนอของเขาดูเข้าใจง่ายดีนะคะ แม้ว่าเราจะอ่านไม่ออก ดูมันเป็นระเบียบ ตัวอักษรใหญ่ ไม่ต้องเพ่ง แสงพอดี สีไฟโอเค ดูห้องไม่รก สะอาด กลิ่นสะอาด สรุปคือทำดีอ่ะค่ะ ส่วนนี้เขาให้ดูฟรีนะ
แต่ที่เรากำลังจะไปเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติทั่วๆไปของญี่ปุ่นค่ะ ไม่เฉพาะแต่ในโอซาก้า และปรากฏว่าต้องเดินทะลุไปอีกตึกนึงค่ะ
ทางเข้า Museum of Natural History
เอาพาสโอซาก้าแลกบัตรเข้าชมเรียบร้อย ก็เดินทะลุออกมาจะเจอพื้นที่โล่งๆ มีโครงกระดูปราวาฬแขวนอยู่ที่หลังคาด้วยค่ะ ทีแรกนึกว่าไดโนเสาร์ ไม่ใช่ค่ะ แค่วาฬ
เจอเด็กๆมาทัศนศึกษาอีกแล้วค่ะ มาที่ญี่ปุ่น ไปที่ไหนก็มักเจอเด็กๆมาทัศนศึกษาทุกที่เลย (อิจฉาเด็ก) และที่เคยสังเกตุว่าครูคนนึงดูแลเด็กเพียงแค่ 5-7 คนเท่านั้น ที่เห็นที่นี่ก็เช่นกันค่ะ
รู้สึกดีจังเลยค่ะ ที่มีจำนวนครูคอยดูแลเด็กๆ ในอัตราส่วนที่ดูแลได้ทั่วถึง แต่แอดมินไม่แน่ใจนะว่าเป็นครูหรือเปล่า ถ้าเป็นเมืองไทยบ้านเรา เด็กทั้งห้อง 30-40 คน มีครูดูแลแค่คนเดียว
แต่ดูแล้วเหมือนจะเป็นเด็กอนุบาลนะ ว่าแต่เด็กอนุบาลเขาก็มาพิพิธภัณฑ์แบบนี้กันแล้วหรอ ดีจัง
อ่านต่อที่ พิพิธภํณฑ์ธรรมชาติตอน2 ค่ะ
สไลด์โชว์ พิพิธภํณฑ์ธรรมชาติตอน1
แผนที่สถานที่ที่ได้ไปมาในโอซาก้า ด้วยบัตร Osaka Amazing Pass(ชนิด2วัน 3000 เยน) สีแดงคือวันแรก สีน้ำเงินคือวันที่สอง ของการเที่ยวเฉพาะในโอซาก้า
คลิปวิดีโอรีวิว พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ
ติดตาม GoNoGuide ผ่าน Facebook
สวัสดีค่ะ GoNoGuide มีเป้าหมายที่จะให้ข้อมูลท่องเที่ยวและวีซ่า อย่างเต็มที่ในทุกเรื่องที่เรารู้ เพื่อนๆที่ต้องการสนับสนุนเรา สามารถทำได้ดังนี้
- เลือกบริการที่ต้องการสนับสนุนเรา
- GoNoGuide จะได้รับค่าคอมมิชชั่นเล็กๆน้อยๆ โดยที่เพื่อนๆไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม สำหรับลิงค์แนะนำโรงแรม เครื่องบิน และประกันต่างๆ
- กดติดตามช่อง Youtube และ Facebook GoNoGuide
ขอขอบคุณที่สละเวลาอ่านค่ะ