ประวัติปราสาทปราก
เท่าที่มีบัญทึกทางประวัติศาสตร์เล่าว่า ปราสาทปราก (Prague Castle) ได้ถูกก่อตั้งขึ้นประมาณปีค.ศ.880 โดยเจ้าชายโบชิวอย (Bořivoj) จากตระกูลพรีมิสลิเดส (Premyslides)
ปราสาทปราก ในสมัยยุคกลางตอนต้น จะมีถูกล้อมรอบด้วยคูน้ำ และกำแพงเมืองที่ทำจากดินและหิน โดยสิ่งก่อสร้างแรกก็คือ Church of Virgin Mary
ต่อมาในช่วงต้นๆของศตวรรษที่10 (~ค.ศ.900-950) ก็เริ่มมีโบสถ์อื่นๆก่อสร้างขึ้นมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเจริญขึ้นของเมืองปราก
ภายในปราสาทปรากแห่งนี้ไม่เพียงเป็นที่ประทับของเจ้าชาย หรือต่อมาก็เป็นกษัตริย์ แต่ยังเป็นที่ประทับของบิชอปด้วย โดยอารามหลวงแห่งแรกของโบฮีเมียก็เริ่มต้นที่แห่งนี้ ซึ่งการมีอารามแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาด้านการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ต่อมาในยุคศตวรรษที่11 (ค.ศ.1000-1099) โบสถ์ตรงกลางปราสาทที่เราเห็นได้อย่างโดดเด่นในปัจจุบันก็เริ่มสร้างขึ้น โดยมีพระธาตุของ St. Vitus , St. Wenceslas และ St. Adalbert ถูกเก็บไว้ในนั้นด้วย
ในยุคศตวรรษที่14 (ค.ศ.1300-1399) เป็นยุคที่เฟื่องฟูมากยุคหนึ่ง ปกครองโดยกษัตริย์ชาร์ล และต่อมาก็ได้เป็นจักรพรรดิชาร์ลที่4 (Emperor Charles IV) ซึ่งช่วงนี้แหล่ะที่ปราสาทแห่งนี้ได้ถูกยกระดับให้เป็นวังหลวง เป็นที่ประทับของผู้นำแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งได้ปรับปรุง ตกแต่งเพิ่มเติม เสริมความแข็งแรง ให้สมศักดิ์ศรีในช่วงนั้นด้วย
แต่หลังจากนั้น ในช่วงสมัยลูกของจักรพรรดิชาร์ลที่4 คือ เวนเซสลัสที่4 ก็เกิดสงครามนานนับสิบปี ทำให้ปราสาททรุดโทรมลงอย่างรวดเร็ว
ต่อมาหลังค.ศ.1483 ราชวงศ์ยาเกลลอนส์ (Jagellons) ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ได้ครอบครองปราสาทปรากแห่งนี้ ก็ได้เริ่มสร้างขยายพื้นที่ และทำนุบำรุงปราสาทปรากขึ้นใหม่ให้แข็งแรงยิ่งขึ้นหลายส่วน
แต่ต่อมาในยุคศตวรรษที่16 ราชวงศ์ฮับบูร์กส์ ก็เข้ามาแทนที่ แล้วก็ปรับปรุงปราสาทปรากให้เป็นแนวเรเนอซองส์ มีทั้งสวนที่สวยงาม ต่อเติมเป็นพระราชวังฤดูร้อน ห้อง Ball game โบสถ์ ห้องพัก ถูกต่อเติม และสร้างใหม่อย่างสวยงามและสง่างาม
ต่อมาในปีค.ศ.1618 ปรากเริ่มมีสงครามใหญ่อีกครั้ง ทำให้ตัวปราสาทเสียหาย แล้วยังมีการเปลี่ยนมือให้ผู้นำท้องถิ่นเข้ามาปกครองชั่วคราว ซึ่งหมายความว่าตัวปราสาทจะไม่ได้รับการบูรณะให้สง่างามเหมือนเคย
ล่วงเลยมาในยุคศตวรรษที่18 ถึงได้มีการบูรณะซ่อมแซมปราสาทปรากขึ้นใหม่ แต่ยังไงก็ยังถือเป็นเมืองรองอยู่ดี เพราะตอนนั้นเมืองหลวงไปอยู่ที่เวียนนา ทำให้ปราสาทปรากแห่งนี้ถูกลดความสำคัญ ไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนเคยอีกแล้ว
แต่ต่อมาในปีค.ศ.1848 จักรพรรดิเฟอดินานด์ที่5 ก็ได้เลือกปราสาทปรากเป็นที่ประทับหลัก ทำให้โบสถ์ และส่วนต่างๆถูกบูรณะขึ้นใหม่อย่างดี
ต่อมาในปีค.ศ.1929 โบสถ์เซนต์วิตัส ก็ถูกสร้างเสร็จอย่างสมบูรณ์ สวยสง่างามกลางปราสาทปราก
หลังจากเช็กและสโลวัค ได้รวมกันเป็นเช็กโกสโลวัคเกีย ในปีค.ศ.1918 แล้ว ปราสาทปรากก็กลายเป็นสำนักงานใหญ่ของผู้นำในขณะนั้น ซึ่งก็ย่อมได้มีการบูรณะปราสาทอีกครั้งนึง
ปัจจุบันปราสาทปรากก็ยังคงมีการบูรณะซ่อมแซมอยู่เรื่อยๆ จุดประสงค์ก็เพื่อเปิดให้ผู้คนได้เข้ามาเยี่ยมชมส่วนต่างๆได้มากขึ้นนั่นเอง
ตั้งแต่ปีค.ศ.1989 มีส่วนที่เปิดให้เข้าชมได้แก่ Royal Garden และ Ball Game Hall , Southern Gardens, the Imperial Stables, the Theresian Wing of the Old Royal Palace.
และแน่นอนว่าปัจจุบันภายในปราสาทปรากก็ยังเป็นที่ตั้งของประมุขแห่งรัฐ ซึ่งเป็นสถานที่อันทรงเกียรติ ร่ำรวยด้วยศิลปะ วัฒนธรรม และที่รำลึกประวัติศาสตร์ที่สำคัญๆมากมาย
นอกจากนี้ภายในปราสาทปราก ยังเป็นที่เก็บสมบัติสำคัญของชาติมากมาย เช่น มงกุฏเพชร ที่เก็บพระอัฐิของกษัตริย์โบฮีเมียน พระธาตุของนักบุญ สมบัติทางศิลปะ และข้อมูลทางประวัติศาสตร์อีกมากมาย
ข้อมูลจาก hrad.cz
สวัสดีค่ะ GoNoGuide มีเป้าหมายที่จะให้ข้อมูลท่องเที่ยวและวีซ่า อย่างเต็มที่ในทุกเรื่องที่เรารู้ เพื่อนๆที่ต้องการสนับสนุนเรา สามารถทำได้ดังนี้
- เลือกบริการที่ต้องการสนับสนุนเรา
- GoNoGuide จะได้รับค่าคอมมิชชั่นเล็กๆน้อยๆ โดยที่เพื่อนๆไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม สำหรับลิงค์แนะนำโรงแรม เครื่องบิน และประกันต่างๆ
- กดติดตามช่อง Youtube และ Facebook GoNoGuide
ขอขอบคุณที่สละเวลาอ่านค่ะ