ที่นอนสนามบินคันไซ
บทความนี้ต่อจากตอนที่แล้วมาถึงสนามบินคันไซ และคืนนี้เราต้องหาที่นอนให้ได้ค่ะ
อย่างที่เคยบอกว่านอนสนามบินทั้งประหยัด และได้ประสบการณ์
แต่ก็ไม่เสมอไปสำหรับสนามบินบางแห่งนะคะ หรือถ้าบางคนที่นอนยาก
อาจทำให้เที่ยวในวันต่อไปไม่เต็มที่ค่ะ แต่ถ้าพูดถึงญี่ปุ่นแล้วล่ะก็ สบายใจหายห่วงค่ะ
เรามาดู ที่นอนสนามบินคันไซ แบบฟรีๆกันค่ะ
นอนสนามบินดีมั้ย?
แอดมินลงไฟลท์ดึก ออกจากตม. ก็เที่ยงคืนแล้ว จะนั่งรถไฟเข้าเมืองไปเพื่อเสียค่าโรงแรมทำไมกัน รอให้เช้าค่อยไปดีกว่า
ถามว่านอนสนามบินดีมั้ย ขึ้นอยู่กับว่าเป็นประเทศอะไรด้วยค่ะ แต่ถ้าญี่ปุ่นบอกเลย นอนเหอะ ถ้าลงไฟลท์ดึกมากๆนะ ไปดูรูปกันดีกว่า
สนามบินคันไซ เทอร์มินอล 1 ชั้น 1 ดูดิคนจับจองพื้นที่นอนกันเต็มหมดแล้ว (ภาพตอนขามา 0.02 น.) แต่ตอนขากลับ (ประมาณ22.00น.) โล่งมากเลยค่ะ
ขามากับขากลับ ปริมาณคนต่างกันมากเลย ดังนั้นก็ขึ้นอยู่กับดวงแล้วล่ะค่ะ ว่ามาถึงจะมีที่นอนเหลือมั้ย แต่เท่าที่เคยนอนที่สนามบินอื่นมานะ ที่นี่ถือว่าเก้าอี้เยอะเหมือนกันนะ
เขาว่าเราสามารถมายืมผ้าห่มได้ที่ห้อง Information Center ห้องนี้แหล่ะค่ะ หรือจะขอข้อมูล ขอยืมนู่นนี่นั่น ก็มาที่นี่ แต่มันมีจำนวนจำกัดนะคะ ป้ายหน้าประตูเขียนไว้ว่าผ้าห่มหมดแล้ว (เหมือนจะรู้ว่าเราจะมายืม)
นับๆดูแล้วสามารถนอนได้ 14 ที่ค่ะ แบบเบียดๆ เท้าชนเท้า ห้วชนหัว แต่ผ้าห่มคาดว่าจะมีไม่ถึง 10 ผืนนะ แถมไม่รู้ซักรึป่าวด้วยสิ
ไม่รู้จะเรียกว่าเก้าอี้ หรือเตียงดีนะ เพราะมันน่าจะเป็นเตียงมากกว่า หรือว่านี่เขาถึงขั้นมีเตียงให้นอนกันฟรีๆแบบนี้เลยหรอ เสียดายที่ตอนขามาไม่ได้มาชั้น3 (เป็นชั้นร้านอาหาร) เพราะตอนนั้นเขาปิดกันหมดแล้ว ไม่งั้นล่ะก็ นี่คือโรงแรมให้นอนฟรีๆชัดๆเลยอ่ะ มีสองเตียงด้วย
ที่นอนของพวกเราคืนนี้
เห็นชั้น 1 คนเต็มแบบนี้แล้ว เราต้องหาที่ซุกหัวนอนให้ได้ เนื่องจากชั้น 3 เป็นชั้นร้านอาหาร ดึกแบบนี้ปิดกันหมดแล้วค่ะ ปิดทั้งชั้น ไม่ให้ขึ้นค่ะ พวกเราจึงขึ้นลิฟท์ไปสำรวจชั้น 4 ซึ่งเป็นชั้นที่ตอนขากลับต้องมาเช็คอินค่ะ
พอขึ้นมาชั้น 4 ปุ๊บ บรรยากาศมันคนละเรื่องกับชั้น 1 เลยค่ะ อย่างกับสนามบินร้าง แต่เปิดไฟสว่างทุกดวง มีเสียงคนขับเครื่องทำความสะอาดพื้นวิ่งตามหลังมาช้าๆ ที่เงียบๆไม่ใช่ว่าไม่มีคนนะ มีคนนอนกันเต็มเหมือนกันค่ะ แต่ไม่แออัด เก้าอี้สองแถว แต่นอนแค่คนเดียว ยังกะนอนในบ้านตัวเองแน่ะ
พวกเราเดินจากต้น ไปจนเกือบสุด มองทุกเก้าอี้ ก็เกือบต้องถอดใจซะแล้ว หรืออาจต้องไปขอร่วมบ้านของคนอื่นที่เก้าอี้เหลือ แต่พอเดินมาถึงเก้าอี้แถวสุดท้าย ตรงกับเคาร์เตอร์ H สุดทางแล้ว ก็ได้เก้าอี้ 2 แถว ที่ยังว่าง และเป็นส่วนตั๊วส่วนตัวสุดๆ และนี่แหล่ะ…คือที่ซุกหัวนอนของพวกเราคืนนี้
ดูดิ น่านอนมั้ยล่ะ เขาออกแบบมาสำหรับนอนชัดๆ ไม่มีแขนเก้าอี้ขั้น ไม่มีช่องระหว่างเก้าอี้ให้เจ็บก้น
ถามว่าถ้าไม่เจอเก้าอี้นี้ ถ้าเก้าอี้เต็มหมดทำยังไง เคยคิดแบบนี้เหมือนกัน แต่ให้ลองสำรวจทุกๆจุดดูก่อน เก้าอี้มันเยอะมาก ชั้นอื่นๆก็มี แค่คนอื่นไม่ค่อยเดินสำรวจเท่านั้นเอง
เรื่องนอนสนามบินขอให้บอก เราลองมาเกือบทุกสนามบินที่ผ่านแล้ว สนุกดีค่ะ เพราะมันเป็นการเที่ยวอย่างหนึ่ง ได้เดินสำรวจสนามบินได้ทุกจุดดี (ปักกิ่ง , ฮาเนดะ , สิงคโปร์ , ปีนัง ,สุวรรณภูมิ) ทำให้รู้ว่าวิสัยทัศน์ของประเทศของแต่ละที่เป็นอย่างไร
ถ้าให้จัดอันดับสนามบินน่านอน (เฉพาะที่เคยนอนนะ)
- ฮาเนดะ
- คันไซ
- สิงคโปร์
- ปีนัง สุวรรณภูมิ อย่านอนเลย
- ส่วนปักกิ่งอันนี้พอดีมีความหลังไม่ดีเลยอคติ เพราะไปตอนหนาว แล้วสนามบินมันหนาวมากจนนอนไม่ได้ หนาวแบบเจียนตายอ่ะ แปลกที่ญี่ปุ่นก็หนาวเหมือนกันแต่ของเขาอบอุ่นเหมือนเปิดฮีตเตอร์เลย)
นอนสนามปลอดภัยมั้ย
ถามว่าไม่กลัวหรอ บอกเลยว่า มาญี่ปุ่น หายห่วงไปหลายเรื่อง (ไม่ใช่ไม่มีโจรนะ แต่รู้สึกหายห่วงมากว่าที่อื่นๆ) อย่างตอนมานั่งได้ซักระยะ ก็จะมีตำรวจสูงอายุหน่อยๆ ที่แรกเห็นเดินเข้ามาหาเรา (ซึ่งนั่งอยู่คนเดียว แฟนไปเข้าห้องน้ำ) ก็คิดในใจว่า เอาแล้วไง ชั้นทำอะไรผิดวะ ปรากฏว่า เขาเอ่ยปากออกมาพร้อมกับหน้าตายิ้มแย้มว่า
ลุงตำรวจ : คงบังวะ
เรา : คงบังวะค่ะ (อ้าวเผลอค่ะ)
แล้วเขาก็ถามเป็นภาษาญี่ปุ่นอะไรไม่รู้ฟังไม่ออก รู้แค่คำว่า
ลุงตำรวจ : นิฮ่ง…\;?*&@o;/ เดสก๊ะ
เรา : No . I am Thai
ลุงตำรวจ : Oh Thai lan do สวัสดีครับ
เรา : Oh! , You can speak Thai.
ลุงตำรวจ : ได้นิดหน่อยครับ อาโน คุณมาคนเดียวหรอครับ
เรา : I come with my husband. He’s going to toilet. (ในใจก็กลัวๆนิดหน่อย แล้วถามภาษาไทย ดันตอบภาษาอังกฤษอีก)
ลุงตำรวจ : อาโน ขะรุณาระวัง ขระเป๋า ดวยน๋าครับ (พูดทุกคำยิ้มทุกคำ)
เรา : Oh, Thank you so much. อาริกาโตะ โกซัยมัส (เฮ้อ…โล่ง แค่นี้เองหรอ นึกว่าจะว่าอะไร)
หลังจากนั้นลุงตำรวจก็เดินไปที่เก้าอี้ตัวอื่น คุยกับคนอื่นต่อไป อยากจะบอกว่า เขาคุยกับทุกคนเลยอ่ะ เหนื่อยแย่เลยนะ ดูขยันขันแข็ง ไม่มีสีหน้าดุเหมือนตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเลยอ่ะ
แต่ถ้าเป็นประเทศอื่นไม่กล้าการันตีมากนะ
กลางคืนก็เปิดไฟสว่างมาก ไม่น่ากลัวเลย พอตื่นมาตอนตี 4 ท้องฟ้าสว่างแล้วอ่ะ ทีแรกนึกว่าปรับนาฬิกาผิด เดินไปดูนาฬิกาส่วนกลาง ก็ตี4จริงๆ ทำไมมันสว่างได้ขนาดนี้เนี่ยะ
ห้องน้ำ สนามบินคันไซ
เรามาดูห้องน้ำกันบ้าง แหม…รีวิวยังกะโรงแรม อยากจะบอกว่ารู้สึกสบายกว่านอนโฮสเทล เกสเฮ้าส์ โรงแรมโทรมๆซะอีกนะ หรือถ้าหาที่นอนไม่ได้จริงๆ นอนในห้องน้ำเลยค่ะ เงียบ สงบ สะอาดมาก นี่แหละเขาถึงว่าห้องน้ำคือหน้าตาของเจ้าของบ้าน
จากแผนผังจะเห็นว่ามีโถแบบสมัยใหม่เป็นส่วนใหญ่ แต่ยังต้องมีโถแบบสมัยเก่า แอดมินเรียกว่าแบบจีน (นั่งยองๆ) อันนี้ไม่แน่ใจว่าทามมั้ยทำไมถึงต้องมีแบบนั่งยองๆ เดาเอาเองว่าบางคนเขานั่งโถสมัยใหม่ไม่เป็น แทนที่จะให้ปีนขึ้นไป ก็สร้างให้ซะเลย
ประตูแรกเห็นโถแบบนั่งยองๆ แล้วตกใจแว๊บนึงว่า เฮ้ย…มัยมันไม่เป็นอย่างที่คิดเลยวะ พอเหลือบเห็นห้องอื่นๆ ค่อยชื้นใจหน่อย
พูดถึงโถแบบนั่งยองๆแล้วมันอดนึกไม่ได้ (อย่าหาว่าลามก ไร้มารยาทนะ) สร้างมาแคบๆแบบนี้แล้วมันไม่กระเด็นเรี่ยราดออกข้างหรอ ต้องเล็งดีมากเลยนะ โถนั่งยองแบบไทยยังจะเวิร์คซะกว่าเลย
ชอบประตูห้องน้ำมากเลย กว้างจริงๆ เปิดแบบบานพับสองตอน เหมือนที่กั้นห้อง ทำให้ไม่เปิดไปโดนคนอื่น หรือดึงเข้าหาตัวแล้วไม่มีที่จะยืน แบบทั่วๆไป
ห้องน้ำสำหรับผู้มีร่างกายพิเศษ ครบเครื่อง และครบครันจริงๆ แต่ยังน้อยกว่าที่ฮาเนดะเยอะ เพราะที่นั่นมีเตียง มีฝักบัว และมีห้องโดยเฉพาะเลย ยังจะคิดว่าแอบเข้าไปนอนได้เลย
ห้องน้ำปกติก็ สะอ๊าดดด สะอาด จริงๆค่ะ กลิ่นเหม็นไม่มี กลิ่นหอมก็ไม่ปรากฏ ประมาณว่าไม่ต้องใช้เครื่องดับกลิ่น มันเป็นกลิ่นสะอาดค่ะ
ที่นั่งเด็ก กับโถเด็กอันนี้ยังพอเข้าใจ แต่ที่รองขาเขามีไว้ทำอะไรน้อ
พูดถึงอุปกรณ์ในห้องน้ำ มันประทับใจจนต้องเขียนยาว ถ่ายรูปมาหลายใบก็เพราะอยากให้เมืองไทยเป็นแบบนี้บ้าง เจลเช็ดโถก็มีให้ กระดาษก็เหลือเฟือ เรื่องระบบโถอุ่นกับระบบฉีดอันนี้ไม่ต้องพูดถึง (รู้กัน)
แต่ที่สงสัยมากๆก็คือเขาจะให้ใช้กระดาษเสร็จแล้ว ต้องหย่อนลงโถไปเลย ซึ่งในเมืองไทยก็ไม่มีใครบอกนะว่าให้หย่อนหรือไม่ให้หย่อน ส่วนใหญ่ก็จะใส่ถังขยะ แต่ที่ญี่ปุ่นเขาไม่ให้ใส่ถังขยะค่ะ เขาให้ใส่โถไหลไปตอนกดน้ำเลย
ก็เคยรู้มาว่ากระดาษแบบนี้เป็นกระดาษที่สามารถละลายน้ำได้ แต่ไม่เข้าใจตรงที่ ถ้าทิ้งในถังขยะมันจะไม่ง่ายต่อการเก็บกว่าหรอ แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าการทิ้งขยะของญี่ปุ่นเขาเคร่งจริงๆ ทำให้สงสัยว่าตกลงกระดาษเช็ดก้นในเมืองไทย ทิ้งลงโถได้หรือเปล่า
พื้นที่แต่งตัวก็กว้างค่ะ ไม่ไปปนกับส่วนเปียก
เราใช้เวลาในห้องน้ำนานมาก แต่ไม่มีคนมาเข้าเลย เสียอย่างเดียวไม่มีห้องอาบน้ำ จริงๆเคยอ่านมาว่ามีที่อาบน้ำที่ชั้น 1 นะ มีค่าใช้จ่ายนิดหน่อย แต่ยังไม่ได้ไปสำรวจเลย
แต่จริงๆแล้วที่สนามบินคันไซ เขามีห้องนอนให้เป็นหลักเป็นแหล่งด้วยเหมือนกันนะคะ มีเล้าจ์(Lounge)ที่มีอาหาร เครื่องดื่ม ที่นั่งสบายๆ มีห้องอาบน้ำ คือครบอ่ะค่ะ แต่จะมีค่าใช้จ่ายเล็กน้อย จำได้ว่าไม่แพงนะ เช่าเป็นชั่วโมง ถูกกว่าโรงแรมละกัน
ติดตาม GoNoGuide ผ่าน Facebook
คลิปรีวิวสนามบินคันไซ
สไลด์โชว์ นอนสนามบินคันไซ
แผนที่สรุป ทริปคันไซ วันที่1
สวัสดีค่ะ GoNoGuide มีเป้าหมายที่จะให้ข้อมูลท่องเที่ยวและวีซ่า อย่างเต็มที่ในทุกเรื่องที่เรารู้ เพื่อนๆที่ต้องการสนับสนุนเรา สามารถทำได้ดังนี้
- เลือกบริการที่ต้องการสนับสนุนเรา
- GoNoGuide จะได้รับค่าคอมมิชชั่นเล็กๆน้อยๆ โดยที่เพื่อนๆไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม สำหรับลิงค์แนะนำโรงแรม เครื่องบิน และประกันต่างๆ
- กดติดตามช่อง Youtube และ Facebook GoNoGuide
ขอขอบคุณที่สละเวลาอ่านค่ะ
One thought on “ที่นอนสนามบินคันไซ”