พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ โอซาก้า (The National Science Museum, Osaka)
ตอนที่แล้วเราไปล่องเรือ ซานตา มาเรีย จากนั้นก็ติดสินใจแบบกระทันหันที่จะไป พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ เพราะจริงๆอยากไป แต่ทีแรกนึกว่าไม่ทันก็เลยจะตัดออก พอเห็นว่ายังพอมีเวลาก็เลยรีบไปค่ะ
พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ที่นี่มีส่วนของการจัดแสดงอยู่ทั้งหมด 4ชั้น เป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ใกล้ตัว จัดแสดงได้อย่างน่าสนใจ สนุก น่าจดจำ มีทั้งระบบสุริยะ เคมี ไฟฟ้า พลังงาน ท้องฟ้าจำลอง และโชว์เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์(แต่เป็นภาษาญี่ปุ่นนะ)
วิธีไปพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ลงสถานี Watanabebashi exit2 หรือ Higobashi exit3 แต่ต้องเดินไปอีกพอสมควรประมาณ 15 นาที
เปิด 9.30 น. – 17.00 น. ส่วนของการจัดแสดง(exhibit) ต้องเข้าก่อน 16.30 น. ส่วนท้องฟ้าจำลอง(planetarium)โชว์สุดท้ายเริ่ม 16.00 น.
ปิดวันจันทร์ (ทีแรกคิดจะไปวันจันทร์ เลยต้องย้ายมาวันอังคารแทน)
ราคาปกติ ส่วน exhibit 400 เยน (ทำไมมันถูกนักนะ) มี Osaka Amazing Pass เข้าฟรี
ส่วนท้องฟ้าจำลอง ถึงมีพาสก็ต้องจ่ายเพิ่ม 600 เยน
ระหว่างเดินไป พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์
ระยะทางเดินจากสถานีรถไฟ ค่อนข้างจะไกลพอสมควรเลยค่ะ แต่ระหว่างทางก็ดูบ้านเมืองไปเรื่อยๆก็ไม่เหงาค่ะ เมืองแถวนี้ก็ไม่ได้หรูหราอะไรนะคะ เหมือนในเมืองบ้านเราแหล่ะ แต่ที่ต่างกันลิบลับเลยก็คือ คลองที่ไม่เน่า และไม่เหม็นค่ะ แต่ไม่ได้ถึงขั้นใสแจ๋วเห็นตัวปลาหรอกนะ
วิธีการเดินมาของเราก็คือ ดูเข็มทิศค่ะ รู้แค่ว่าออกจากสถานี ต้องเดินไปทิศไหน แล้วก็ลัดเลาะไปเรื่อย แบบไม่รู้ว่าใช่มั้ย แต่เห็นตึกมนๆอยู่ไกลๆแล้ว รู้สึกว่าใกล้แล้ว แต่พอเดินมาจริงๆ เห็นกันลิบๆ ทำไมมันไกลจัง
พอมาถึง ติดกันจะเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะโอซาก้า
คือในใจคิดว่าศิลปะเนี่ยะ ไม่เคยอยู่ในหัวเลย คิดว่าหัวไม่ถึง ดูไม่รู้เรื่อง ก็เลยไม่อยากเข้า แต่พอเดินผ่าน แล้วเห็นตัวอย่างของภาพที่เอามาแสดง รู้สึกว่ามันน่าสนใจมากเลยนะ คือมันบอกไม่ถูก ภาพโล่งๆ แต่ทำให้ต้องยืนจ้องนานๆ ภาพสามมิติ หรือการจัดแสดงสิ่งของ มันดูแล้วร้อง ฮึ๊ย…ในใจอ่ะ
เสียดายมากที่ไม่ได้ลองเข้าไป เพราะตอนนั้นกว่าจะออกจากพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ก็จวนจะปิดแล้ว ก็เลยไม่มีเวลา ใครมาพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์อย่าลืมเผื่อเวลา แวะเข้าไปพิพิธภัณฑ์ศิลปะซักหน่อยนะคะ ใช้พาสเข้าฟรีได้ค่ะ
พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์
เข้ามาด้านในพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แล้ว ต้องเดินลงไปแลกตั๋วชั้นล่างสุดก่อนค่ะ เอกลักษณ์ของเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นก็คือ ยิ้มตลอด แอ๊บน้ำเสียงน่ารักอย่างกะในการ์ตูน สุภาพซะจนนึกว่าเกิดมาในตระกูลผู้ดี รวดเร็วเหมือนฝึกมาเป็นหมื่นครั้ง
The Universe around Us
วิธีการเดินชมก็คือ ขึ้นลิฟท์ไปชั้นบนสุด แล้วดูจากชั้นบนไล่ลงมาด้านล่าง ชั้นบนสุดนี้จะเจอกับวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับจักรวาล ระบบสุริยะ และดวงดาวต่างๆ
ออกมาจากลิฟท์ ก็จะเห็นระบบสุริยะ ที่มีดวงอาทิตย์ เป็นศูนย์กลาง และมีดาวหมุนรอบ เปรียบเทียบขนาดของดาวแต่ละดวงแล้ว โลกน่ะหรอ จิ๋วเดียวเท่านิ้วโป้งเองค่ะ
เห็นมีคนคอยยืนแนะนำด้วยนะคะ เป็นผู้สูงอายุ ดูมีความรู้ เหมือนเคยเป็นอาจารย์มาก่อนเลย ดูจากการพูดแล้ว อธิบายต่อเนื่องได้คล่องเหมือนมืออาชีพเลยนะ สุภาพ ถ้าตัดเรื่องอายุออกไป ก็เหมือนคนทำงานทั่วไปเลยนะ ไม่ได้แสดงถึงความแก่ ไม่มีแรง ยืนไม่ไหว เหนื่อย หรืออะไรเลย ดูเป็นผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพจริงๆ
เห็นแล้วคิดถึงบ้านเรานะ น่าจะทำแบบนี้บ้าง คือให้ผู้สูงอายุที่เกษียณแล้ว อาจจะเคยเป็นครู หรือมีความรู้ด้านนั้นๆ มาอธิบาย ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชม คนดูก็ได้ความรู้ คนพูดก็ได้ฝึกสมอง ทำให้ยังแข็งแรงอยู่ ไม่เสียดายความรู้ที่เคยมี ถ้าหยุดอยู่บ้านเฉยๆ ไม่นานเดี๋ยวก็ลืม
ดาวหาง อุกาบาต โลก aurora หรือแสงเหนือ ที่มีหลากสี หลายรูปแบบมากค่ะ การศึกษาดาราศาสตร์ในสมัยเอโดะ
ความรู้เกี่ยวกับรังสีต่างๆ
ที่นี่ค่อนข้างดูลำบากค่ะ เพราะมันเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ที่ต้องอ่าน แต่เพราะอ่านไม่ออก บางอย่างที่แสดงเลยไม่ค่อยเข้าใจ
พวกอุปกรณ์ที่เอามาโชว์ก็เยอะมากจริงๆเลยค่ะ เครื่องอะไร มีไว้ทำอะไรก็ไม่รู้
โมเดลอะตอม ผลึก แร่ธาตุ
ดาวเทียมรูปแบบต่างๆ มันเยอะมากเลยอ่ะ มีเป็นร้อยๆแบบ
เรื่องเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วง ของเล่นเยอะแยะเลยค่ะ แต่มาซะเย็นแบบนี้คงได้แต่เดินดูเร็วๆล่ะค่ะ
ที่นี่ไม่เจอเด็กๆมาทัศนศึกษาเลยค่ะ อาจเป็นเพราะมันเย็นแล้วก็ได้ เลยเหลือคนอยู่แค่ไม่กี่คนเอง
เคมี
ชั้นถัดลงไปเป็นเรื่องเกี่ยวกับ เคมีที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น น้ำหอม มีทั้งมาจากธรรมชาติ และสังเคราะห์ขึ้นมา ไฟเบอร์ พลาสติก
เขาก็จะเอาสิ่งของต่างๆในชีวิตประจำวันของเรา ที่ทำมาจากพลาสติกมาโชว์ พลาสติกที่มนุษย์โลกใช้กันอย่างแพร่หลาย มองไปรอบๆตัว ไม่ว่าทางไหน ก็มีแต่สิ่งของที่ทำมาจากพลาสติกทั้งนั้น
มีชุดนักบินอวกาศด้วยค่ะ มันเกี่ยวอะไร แต่เขาเขียนว่าทำมาจากไฟเบอร์ ก็คงเกี่ยวกับพลาสติกน่ะ
อีกส่วนนึงก็จะเป็นพวกผลึกแร่ธาตุต่างๆ ใหญ่ๆ เป้งๆทั้งนั้น ไม่ได้ใหญ่แค่กำปั้นนะ แต่ใหญ่เท่าถังน้ำมันเลย
ชั้นนี้รู้สึกเหมือนห้องเก็บของเลยค่ะ มีแต่ของจุกจิก ของใช้ในบ้าน
ทดลองวิทยาศาสตร์
ชั้นถัดลงไปเป็นการทดลองวิทยาศาสตร์แสนสนุก ไม่ว่าจะเป็น ด้านเสียง ด้านกลศาสตร์ วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กเล็กๆ กระจก เลนส์ ชั้นนี้มีของเล่นเยอะสุดเลยค่ะ
ส่วนชั้นถัดลงไปเป็นโชว์การแสดงวิทยาศาสตร์ต่างๆที่มีเป็นรอบๆ แต่นี่มันก็เย็นแล้วค่ะ อย่าหวังเลย เงียบฉี่…
ใช้เวลาในการเดินดูอย่างรวดเร็วค่ะ เพราะใกล้ถึงเวลาปิดแล้ว (ปิด5โมงเย็น ตอนนั้น 4โมง45นาทีค่ะ)
สไลด์โชว์ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์
สรุป พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์
- สนุกมากค่ะ ยิ่งใครพาเด็กๆมาด้วย ยิ่งแนะนำให้มานะคะ แต่ไม่ว่าจะวัยไหนก็ควรมานะ เรียนตั้งหลายปี มาเห็นนิดเดียวเข้าใจเลย ถึงไม่ใช่วัยเรียน วัยรุ่น ไม่รู้จะรู้ไปทำไม ก็คิดซะว่ามาหาความสนุกแบบมีสาระ อาจจะได้ไอเดียอะไรกลับไปที่ไม่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์เลยก็ได้นะ
- แอดมินเคยไปพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ในไทยแถวปทุมธานี อันนั้นเขาก็ทำดีนะ 50 บาท ก็ถูกมาก แต่เสียแค่อย่างเดียวคือการเดินทางลำบากมาก (ถ้าไม่มีรถยนต์ ถึงมีก็ไกล วนตรงวงเวียนแถวฟิวเจอร์ งงมาก) อีกที่นึงที่ ศูนย์วิทย์ ท้องฟ้าจำลอง แต่ไม่ค่อยประทับใจเลยค่ะ
- ถ้าให้เปรียบเทียบก็คงต้องยกให้ญี่ปุ่นค่ะ เพราะของเยอะ แต่ไม่รก น่าสนใจ เข้าใจง่าย(ขนาดอ่านไม่ออกนะ) มีของเล่นเยอะ สถานที่สวย ตกแต่งภายในดีกว่า และเดินทางมาสะดวกกว่าเยอะ ที่สำคัญคือไม่เหม็นอับค่ะ
- ถ้าจะมาพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ น่าจะแวะพิพิธภัณฑ์ศิลปะข้างๆด้วยค่ะ ถ้าเข้าทั้งสองที่น่าจะเผื่อเวลาครึ่งเช้า 9.30 น. – 12.30 น. หรือครึ่งบ่าย 13.00 น. – 16.00 น. (รวมเวลาเดินไปกลับสถานีรถไฟแล้วนะ)
- ที่นี่อยู่เล่นได้ทั้งวันนะ แต่แอดมินมีเวลาน้อยรีบเดินมากใช้เวลาแค่ 1ชม.กว่าๆเท่านั้นเอง เสียดาย
แผนที่สถานที่ที่ได้ไปมาในโอซาก้า ด้วยบัตร Osaka Amazing Pass(ชนิด2วัน 3000 เยน) สีแดงคือวันแรก สีน้ำเงินคือวันที่สอง ของการเที่ยวเฉพาะในโอซาก้า
คลิปวิดีโอรีวิว พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ โอซาก้า
ติดตาม GoNoGuide ผ่าน Facebook
สวัสดีค่ะ GoNoGuide มีเป้าหมายที่จะให้ข้อมูลท่องเที่ยวและวีซ่า อย่างเต็มที่ในทุกเรื่องที่เรารู้ เพื่อนๆที่ต้องการสนับสนุนเรา สามารถทำได้ดังนี้
- เลือกบริการที่ต้องการสนับสนุนเรา
- GoNoGuide จะได้รับค่าคอมมิชชั่นเล็กๆน้อยๆ โดยที่เพื่อนๆไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม สำหรับลิงค์แนะนำโรงแรม เครื่องบิน และประกันต่างๆ
- กดติดตามช่อง Youtube และ Facebook GoNoGuide
ขอขอบคุณที่สละเวลาอ่านค่ะ