สรุป ค่าใช้จ่ายสิงคโปร์  5 วัน 4 คืน

รายการ	ค่าใช้จ่าย
ค่าตั๋วเครื่องบินแอร์เอเชีย 2 คน	7,080 บาท
ค่าโรงแรม Fragrance Crytal Hotel 3 คืน*	4,454 บาท
ค่าบัตรเข้า Universal Studio   2 คน	3,671 บาท
ค่าอาหาร + ขนม 5วัน	2,616 บาท
ค่ารถไฟฟ้าตั๋วธรรมดา 2คน	650 บาท
ค่ารถไฟฟ้า tourist pass ชนิด2วัน 2คน	794 บาท
ของฝาก+ซื้อกลับไปกินเอง	1,074 บาท
รวม  (2คน)	20,339 บาท
เฉลี่ยคนละ	10,170 บาท

 *นอนสนามบิน 1คืน

 

บ่นส่งท้าย

ตามนโยบาย “เที่ยวให้คุ้ม ประหยัด แต่ไม่งก” ของพวกเราแล้ว คิดว่า

• เสียดายค่าโหลดกระเป๋า กับ ค่าจองที่นั่ง มากเลย เนื่องจากความไม่ชำนาญของพวกเราเอง จริงๆแล้ว ไม่ต้องจองที่นั่งก็ได้ เพราะบินแค่ 2 ชั่วโมง  กระเป๋าก็ไม่ต้องโหลดก็ได้ ถือขึ้นเครื่องได้ ไปแค่ 4-5 วัน เสื้อผ้าไม่เยอะ ใส่เป้ไปก็ได้ กระแดะลากกระเป๋าไปทำไมก็ไม่รู้

แถมมารู้ทีหลังว่า กระเป๋าเล็กแค่นั้น เอาขึ้นเครื่องก็ได้  เฮ้อ…เจ็บใจ ถ้าไม่เสียตรงนี้ประหยัดไปได้ประมาณพันกว่าบาท  จากการประเมินค่าเครื่องบินควรตกคนละไม่ถึง 3 พัน

• สำหรับโรงแรม เฉลี่ยคืนละ 1,485 บาท กับสภาพกลางๆ พออยู่ได้ ถือว่าไม่แพงเกินไป  แต่ถ้าใครไม่ติดเรื่องงบ แนะนำให้หาที่แพงกว่านี้นิดนึง แต่ได้วความประทับใจไปเลยดีกว่า

• บัตรยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ อันนี้บ่นไปแล้วในรีวิว สิงคโปร์3  สรุปอีกทีคือ ตั๋วแพงมาก เฉลี่ยคนละ 1,836 บาท  ไม่คุ้มค่าเลย เพราะไม่ค่อยได้เล่นอะไร ต่อคิวยาวมาก แถมต้องเช่าล็อคเกอร์ฝากกระเป๋าอีก โชว์ไม่อลังการอย่างที่คิด เดินออกตั้งแต่ยังไม่มืดเลย

ที่เขียนแบบนี้ไม่ใช่ว่าที่นี่ไม่ดีนะ  แต่ไม่คุ้ม ไม่ประทับใจ ถ้าเทียบกับดิสนี่ย์แลนด์ที่ฮ่องกงแล้ว ดิสนี่ย์แลนด์กินขาดเลย ทั้งคุ้ม ทั้งติดตาตรึงใจ

• เรื่องอาหารการกิน ถือว่าแพงก็จริง แต่เทียบกับรายได้ของคนสิงคโปร์แล้ว เราว่าถูกนะ แต่ประเภทของอาหารไม่หลากหลาย แต่ที่ชอบมากที่สุดคือ โรตีกับแกง หากินได้ตามร้านข้างทางตอนเช้าๆทั่วไป  แต่หาอาหารที่มีผักค่อนข้างยาก

• อาหารจีนก็ธรรมดา ไม่ใช่ว่าของเขาไม่ดี ไม่อร่อยนะ  อร่อยโอเค  แต่ความรู้สึกตอนนั้นมัน ไม่ทำให้เราร้อง ว้าวววว… ไม่ได้แปลกใหม่อะไร อาหารประเทศไทยอร่อยกว่าเยอะ

• ที่ว่าข้าวมันไก่อร่อย เราก็รู้สึกเฉยๆนะ  คือมันก็อร่อย  แต่เมืองไทยก็มีอ่ะ ทำไมต้องถ่อสังขารไปกินไกลขนาดนั้น

• ค่ารถไฟฟ้า ถ้าเทียบกับรายได้คนสิงคโปร์ ถือว่าถูกมากนะ  แถมยังมีขึ้นฟรีในย่านแหล่งที่พักด้วย

• ประเทศสิงคโปร์ เป็นที่ที่พวกเราเคยไปเมื่อหลายปีก่อน  แต่ไปกับทัวร์ เพราะต้องไปอบรมเรื่องงาน ทัวร์พาเที่ยววนในเมืองแค่ ครึ่งวัน รู้แต่ว่ามี สิงโตพ่นน้ำ กับ ข้าวมันไก่ แค่นั้นเอง

• การเที่ยวครั้งนี้ จึงอยากมาสำรวจสิ่งที่พวกเราพลาดไป  มันน่าสงสัยไม่ใช่หรอ ว่าประเทศเล็กนิดเดียว แต่มีรายได้ต่อหัวเยอะอันดับต้นๆในเอเซีย  แล้วคนเขาอยู่ เขากินกันยังไง  ประเทศมีอะไรบ้าง นอกจากตึก สิงโต และข้าวมันไก่

• สรุปจากความรู้สึกล้วนๆเลย คือ ประเทศนี้เหมือน เกมส์ซิมซิตี้ มาก  ย่านที่พักอาศัยติดๆกัน ต้องมีสวน มีพื้นที่สีเขียว มีรถไฟฟ้าเข้าถึงทุกที่ มีห้าง มีความเป็นระเบียบ สะอาด (ยกเว้นย่านเกลังนะ)

• แต่ไม่น่าอยู่เลย รู้สึกไม่ค่อยมีชีวิตชีวา เป็นที่ที่เหมาะกับ การทำงานหาเงิน  เรียนหนังสือ มากกว่าการใช้ชีวิต (ความรู้สึกล้วนๆเลย)

• ผู้คนไม่ค่อยแต่งหน้า แต่งตัวซํกเท่าไหร่ แฟชั่นดูแก่มาก  คิดเอาเองว่า แม้จะได้รายได้สูง แต่เขาน่าจะเป็นคนประหยัด เก็บเงิน  ค่าครองชีพก็สูง ทำอาหารกินเอง หรือไม่ก็กินโรงอาหาร ไม่ค่อยกินร้านหรูๆ หรือพวกร้านแบรนด์เนม จะมีก็คงเป็นโอกาสพิเศษจริงๆ  ไม่เหมือนบ้านเรา พิซซ่า ไก่ทอด แฮมเบอร์เกอร์ เด็กๆ เข้า-ออกกันเป็นว่าเล่น (คนรู้จริงมาอ่านก็แก้ให้ด้วยนะ)

• ผู้คนมีน้ำใจ จิตใจดี โดยเฉพาะคนขายอาหารที่ผิวดำๆ ทั้งๆที่เหมือนจะดูหน้ากลัวนะ  แต่เขาจะยิ้มแย้ม บริการเกินราคา ใจดีมาก   แต่ถ้าเป็นคนขายที่เป็นคนจีน จะหน้าบูดบึ้งตลอด สั่งช้า เลือกเยอะก็ชักสีหน้า

• เด็กๆที่นี่น่าอิจฉามาก การศึกษาดีสุดๆ ใช้ภาษาอังกฤษตั้งแต่ต้น ได้ทั้งภาษาจีนด้วย แบบนี้ไปไหนก็ได้ ทำอะไรก็ได้  แถมมีอัตราส่วนนักเรียนต่อครูต่ำอีก คือครูคนนึงรับผิดชอบนักเรียแค่ไม่กี่คน ดูแลได้ทั่วถึง ดูมีความรับผิดชอบดีด้วย

• พอดีเห็นครูกับนักเรียนตัวเล็กๆ ประมาณ 4-5 คนน่าจะอายุไม่ถึง 7 ขวบกันเลย  พามาทัศนศึกษา ที่ Chinese Garden   ครูคุยกับนักเรียนเป็นภาษาอังกฤษ   ถามประมาณว่า  “หนูคิดยังไงกับ…”   เด็กก็จะร่ายใหญ่เลย  ครูก็จะถกกับเด็กตัวเล็กๆ เหมือนถกปัญหาการเมืองแบบผู้ใหญ่เลย  เห็นแล้วอึ้งอ่ะ

• สุดท้าย มะม่วงสุกอบแห้งที่ย่านไชน่าทาวน์  เป็นจุดเริ่มต้นของการติดมะม่วงสุกอบแห้งของพวกเรา จนถึงทุกวันนี้ แต่ต้องไปซื้อที่เยาวราช แน่นอนว่าถูกกว่า แต่อร่อยไม่เท่าสิงคโปร์

---